แนะธุรกิจปรับตัว

คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ

แนะธุรกิจปรับตัว – รูปแบบและพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนจีนเริ่มเปลี่ยนไป นับตั้งแต่ที่รัฐบาลจีนอนุญาตให้ประชาชนสามารถ เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้อย่างอิสระในปี 2011 ส่งผลให้จำนวนทริปที่คนจีนเดินทางออกไปยังต่างประเทศ ในปี 2018 เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 3 เท่าตัวหรือจากราว 24 ล้านทริป ในปี 2011 เป็น 69 ล้านทริป ณ สิ้นปี 2018

ประกอบกับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิตอล และการเกิดขึ้นของสื่อออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ช่วยส่งเสริมให้คนจีนจำนวนหนึ่งเกิดความ คุ้นเคยกับการท่องเที่ยวในต่างประเทศ

นอกจากนี้ รายได้ของคนจีนที่เติบโต ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและพฤติกรรมการท่องเที่ยวทั้งในกลุ่มคนจีนวัยกลางคน และกลุ่มคนจีนรุ่นใหม่

คนจีนวัยกลางคนเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปแบบการท่องเที่ยวจากกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่เป็นกรุ๊ปทัวร์ที่เล็กลงและยืดหยุ่นมากขึ้น ผลสำรวจของ McKinsey เผยว่า กลุ่มคนจีนอายุ 35 ปีขึ้นไปเริ่มสนใจการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ที่สามารถออกแบบได้ด้วยตนเอง ซึ่งมักจะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงมาก เช่น ทัวร์ท่องเที่ยวขั้วโลกเหนือ ทัวร์ปีนเขาเอเวอเรสต์ ทัวร์ซาฟารีในแอฟริกา ทัวร์ที่เน้นทานอาหารมื้อหรูในร้านระดับ Michelin Star และชิมไวน์ที่มีชื่อเสียง ฯลฯ

กรุ๊ปทัวร์ลักษณะนี้มักเกิดจากความต้องการท่องเที่ยวเฉพาะในกลุ่มเพื่อนฝูงหรือครอบครัว ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยว ต่อกรุ๊ปไม่มากนักและมีราคาสูง

นอกจากนี้ คนจีนอายุระหว่าง 20-34 ปี นิยมเลือกจุดหมายปลายทาง จองที่พัก และตั๋วเครื่องบินด้วยตนเอง แต่จะเสาะหากิจกรรมหรือแหล่งท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ในจุดหมายปลายทางนั้นผ่านสื่อออนไลน์ จากนั้นจึงจ้างไกด์ท้องถิ่นเพื่อให้นำเที่ยว

ภาคการท่องเที่ยวไทยควรปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน บริษัทนำเที่ยวขนาดใหญ่อาจปรับเปลี่ยนหรือขยายรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่

โดยการนำเสนอกิจกรรมหรือแหล่งท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และน่าสนใจในแพ็กเกจทัวร์ ซึ่งอาจเน้นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ชื่นชอบ เช่น กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหาร การเดินชมตลาดและวิถีชีวิต รวมถึงการได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนท้องถิ่น เป็นต้น

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ(อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน