วงล้อเศรษฐกิจ : โอกาส–ท้าทาย
วงล้อเศรษฐกิจ : โอกาส-ท้าทาย : การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อในหลายภูมิภาคทั่วโลกในปัจจุบัน จะส่งผลให้ปริมาณการใช้ถุงมือยางโลกในปี 2564 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง Malaysian Rubber Glove Manufacturers Association คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้ถุงมือยางโลกในปี 2564 มีแนวโน้มอยู่ที่ 420,000 ล้านชิ้น ขยายตัว 17% จากปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 360,000 ล้านชิ้น
ประกอบกับในเดือนมี.ค. 2564 โควิด-19 กลับมาระบาดรุนแรงขึ้นอีกครั้งในหลายประเทศส่งผลให้ความต้องการใช้ถุงมือยางโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงในปีนี้
นับเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการผลิตและส่งออกถุงมือยางไปยังตลาดโลก โดยไตรมาสแรกปี 2564 ปริมาณการส่งออกถุงมือยางไทยอยู่ที่ 6,494 ล้านคู่ ขยายตัว 23% จากช่วงเดียวกันปี 2563 ขณะที่มูลค่าการส่งออกถุงมือยางไทยอยู่ที่ 1,069 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึง 230% จากช่วงเดียวกันปี 2563
ในปี 2564 นี้ ผู้ประกอบการถุงมือยางไทยยังคงขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง คาดว่าไทยมีกำลังการผลิตถุงมือยางโดยรวม ณ สิ้นปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 56,000 ล้านชิ้น หรือเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 22% จากปี 2563
สำหรับในปี 2565 เป็นต้นไป น่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านจากความต้องการใช้ถุงมือยางสำหรับตรวจหาผู้ติดเชื้อ และรักษา ผู้ป่วยโควิด-19 ไปสู่การใช้ถุงมือยางสำหรับฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งแม้จะยังคงมีความต้องการใช้ถุงมือยางปริมาณมากอยู่ แต่การฉีดวัคซีนป้องกันจะเป็นการใช้ถุงมือยาง 2 คู่/ผู้ได้รับวัคซีน 1 คน ขณะที่การใช้ถุงมือยางสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องและยืดเยื้อมากกว่า
อาจส่งผลให้ปริมาณการใช้ถุงมือยางโลกในปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลง และอาจส่งผลให้อุตสาหกรรมถุงมือยางไทยเผชิญภาวะกำลังการผลิตถุงมือยางสูงเกินความต้องการมาก
ในระยะต่อไป การบริหารจัดการต้นทุนด้านวัตถุดิบและราคาขายถุงมือยางถือเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับ ผู้ประกอบการจากแนวโน้มการทยอยฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งจะทำให้มีการนำน้ำยางสดไปแปรรูปเป็นยางแผ่นและยางแท่งเพื่อผลิตยางรถยนต์มากขึ้น
อาจส่งผลให้มีการขาดแคลนน้ำยางข้นเพื่อผลิตถุงมือยาง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการผลิตถุงมือยางพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่การปรับราคาขายทำได้ยากมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการผลิตถุงมือยางโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก
EIC ธนาคารไทยพาณิชย์
