สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆ ดับสลด ข่มขู่ขอเงินไปหาแฟน

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์
ทศพล บุญพัฒน์
เรื่อง/ภาพ

สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆดับสลด ข่มขู่ขอเงินไปหาแฟน – ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ไม่ว่าลูกหลานจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหนก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ ด้วยเหตุนี้แม้นเพียงคำน้อยนิดที่จะทำให้หลานชายสุดที่รักต้องได้รับความเดือดร้อน ก็มิได้แพร่งพรายออกจากปากของ นางหน่อวาชิ ถาวรภัทรอาภรณ์ อายุ 71 ปี จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตผู้เป็นย่า

ย้อนไปเมื่อวันที่ 13 ต.ค. พนักงานสอบสวน สภ.ขุมยวม จ.แม่ฮ่องสอน รับแจ้งจากโรงพยาบาลขุนยวม ว่ามีคนไข้เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ หลังจากรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สันติ สุภา ผกก.สภ.ขุนยวม พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ธรรมรัตน์ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.ศรีวิชัย แสงอ่อน รอง สว.สส. และกำลังชุดสืบสวน

เมื่อไปถึงพบว่าผู้เสียชีวิตชื่อ นางหน่อวาชิ ถาวรภัทรอาภรณ์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 663 ม.1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน โดยนางหน่อวาชิถูกญาตินำส่งมารักษาตัว อ้างว่าประสบอุบัติเหตุตกบันได แต่ทางแพทย์สงสัยว่าน่าจะถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆดับสลด ข่มขู่ขอเงินไปหาแฟน

ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.สันติจึงแจ้งส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของผู้เสียชีวิต ก่อนจะพบความจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตจากปากคำของเพื่อนบ้าน

เพื่อนบ้านกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ผู้ตายให้พาไปหาหมอ โดยไม่ได้แจ้งกับหมอว่าถูกทำร้ายมา ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้ยาและกลับไปรักษาตัวที่บ้าน จากนั้นวันที่ 12 ต.ค. นางหน่อวาชิเกิดอาการเจ็บปวดมากขึ้น จึงได้กลับเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลขุนยวมอีกครั้งก่อนจะเสียชีวิตลง

สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆดับสลด ข่มขู่ขอเงินไปหาแฟน

นางหน่อวาชิ ถาวรภัทรอาภรณ์ ผู้ตาย

นายจั๋นตา ถาวรภัทรอาภรณ์ สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายราเชนทร์ วงค์เมฆ ซึ่งเป็นหลานชาย มาขอเงินจำนวน 5,000 บาท จาก นางหน่อวาชิ อ้างว่าจะนำเงินเป็นค่าเดินทางไปหาแฟนที่ จ.เชียงใหม่ แต่ผู้ตายมีเงินให้เพียง 1,000 บาท

ทำให้นายราเชนทร์ไม่พอใจ ใช้เท้าเตะทำร้ายร่างกายนางหน่อวาชิ บริเวณชายโครงด้านขวา จนกลิ้งตกจากบ้าน สูงประมาณ 1.4 เมตร และข่มขู่จะฆ่าหากไม่นำเงินมาให้ นางหน่อวาชิจึงได้ให้นายราเชนทร์โทรศัพท์ไปยืมเงิน 4,000 บาท จากคนรู้จักกันในหมู่บ้าน โดยผู้ตายรับรองว่าจะเป็นผู้ชดใช้เงินคืนให้

หลังจากได้เงินแล้วนายราเชนทร์หลานชายทรพีก็กลับไป โดยไม่ติดต่อกลับมาอีก ขณะที่ผู้ตายทนเจ็บปวดอยู่ถึง 2 วัน โดยไม่ปริปากบอกใครว่าถูกหลานชายทำร้าย จนสุดท้ายทนไม่ไหวให้เพื่อนบ้านช่วยพาไปหาหมอ แต่ด้วยความที่รักหลานชายจึงไม่ยอมบอกความจริงว่าถูกทำร้าย สุดท้ายจึงทำให้อาการหนักจนเสียชีวิตสลดดังกล่าว

ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆสดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆดับสลด ข่มขู่ขอเงินไปหาแฟน

ทำแผนฯ ที่บ้าน

ขณะที่การติดตามตัวนายราเชนทร์หลานทรพี จากการสืบสวนทราบว่าเดินทางไปอยู่ในพื้นที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.จริง โดยคาดว่าน่าจะไปอาศัยอยู่กับแฟนตามที่ได้อ้างไว้ โดยประวัติเคยเสพยาบ้าและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม จับกุมดำเนินคดีมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงได้ประสานชุดสืบสวน สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เข้าควบคุมตัวมาสอบสวน

นายศรชัย ประภาประเสริฐกิจ บุตรชายนางหน่อวาชิ เผยว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่หลานชาย ซึ่งเป็นคนที่แม่รักมากที่สุดและตามใจมากที่สุด ได้ก่อเหตุฆ่าย่าแท้ๆ ได้ลงคอ เมื่อตำรวจนำตัวมาจะให้ขอขมาศพเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนเรื่องคดีให้ดำเนินการตามกฎหมายของบ้านเมือง โดยจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด

สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆดับสลด ข่มขู่ขอเงินไปหาแฟน

นายราเชนทร์ วงค์เมฆ ขอขมาผู้เป็นย่า

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ต.ค. พ.ต.อ.สันติ พร้อมกำลังตำรวจ คุมตัวนายราเชนทร์มาเค้นสอบปากคำ ที่ห้องสอบสวน สภ.ขุนยวม จนในที่สุดก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่าทำร้ายย่าจริง โดยใช้เท้าถีบ สาเหตุเกิดจากบันดาลโทสะขอเงินย่า 5,000 บาท จะไปหาภรรยาที่เชียงใหม่ แต่ย่าหาเงินให้ไม่ได้แล้วยังมายั่วโมโห จึงลงมือทำร้ายย่าโดยไม่ได้ยั้งคิด รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับหลานทรพี ทำร้ายย่าแท้ๆดับสลด ข่มขู่ขอเงินไปหาแฟน

ชาวบ้านร่วมงานศพ

จึงได้แจ้งข้อหา “กรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกายบุพการี (ย่า) จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจจนเสียชีวิต และมีอาวุธปืนพกสั้นไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในครอบครอง” โดยเจ้าหน้าที่ค้นพบปืนพกสั้น ไทยประดิษฐ์ ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนอีก 1 นัด

หลังจากสอบปากคำเสร็จผู้ต้องหาขอให้ตำรวจพาไปขอขมาศพย่าที่วัด และนำตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังสถานที่เกิดเหตุ

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่านายราเชนทร์เป็นคนเกเร และติดยาบ้างอมแงม เคยเตะนางหน่อวาชิจนกระดูกแขนร้าวและเพิ่งรักษาหายได้ไม่นาน ในวันเกิดเหตุก็ทะเลาะกับย่า และลงมือทำร้ายด้วยการใช้เท้าเตะ ซึ่งมีการเตะหลายครั้ง ไม่ใช่แค่ถีบด้วยเท้าครั้งเดียวตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้าง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน