ปิดคดีฆ่าพ่อค้าออนไลน์ 3 โหดลวงมายิงทิ้งริมถนน
ไม่พอใจมองหน้าหาเรื่อง : สดจากสนามข่าว
สดจากสนามข่าว : บ่ายวันที่ 23 ม.ค.ที่ลานหน้า สภ.พระ พุทธบาท จ.สระบุรีพล.ต.ท.อำพลบัวรับพร ผบช.ภ.1. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.โกมล กลิ่นประชุม ผกก.สภ.พระพุทธบาท
ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีฆ่ากันตายอย่างอุกอาจที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 21 ม.ค. ในพื้นที่สภ.พระพุทธบาท ภายหลังตำรวจร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถปิดคดีลงได้ในเวลาไม่ถึง 24 ช.ม.
ย้อนไปเมื่อเวลา 20.15 น. ของคืนวันที่ 21 ม.ค.ดังกล่าว ร.ต.อ.อำนวย พูลผล รองสว.สอบสวน สภ.พระพุทธบาท รับแจ้งเหตุมีคนยิงกันเสียชีวิต บริเวณถ.พหลโยธิน หลัก ก.ม.ที่130 ปากทางเข้าวัดซับชะอม ม.4 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเหลือง หมายเลขทะเบียน กม 5723 สระบุรี จอดอยู่บริเวณไหล่ทางถนน ตรวจสอบภายในรถพบศพนายเกษมสันต์ วงศ์ประดิษฐ์ ถูกยิงเสียชีวิตคาพวงมาลัย สภาพถูกยิงเข้าที่ลำคอ เป็นรูโหว่ กะโหลกศีรษะแตกมันสมองกระจาย
ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ
ส่วนที่เบาะนั่งด้านซ้ายพบร่าง น.ส.ลลิตา ปรีชาวุฒิพงษ์ อายุ 24 ปี แฟนสาวผู้ตาย ถูกยิงเข้าบริเวณใบหน้าอาการสาหัส ร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงเร่ง นำส่ง ร.พ.พระพุทธบาท
บนพื้นถนนใกล้ตัวรถ พบปลอกกระสุนกระจายเกลื่อน มีปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 2 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 5 ปลอก ขณะที่ตัวรถถูกยิงด้านหน้ากระจก 1 นัด แก้มขวา 3 นัด ล้อยางหน้าด้านขวาแตก กระจกด้านข้างคนขับแตกละเอียดเจ้าหน้าที่จึงจดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ชันสูตรศพเบื้องต้น
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพขายสินค้าประดับยนต์ออนไลน์ โดยก่อนเกิดเหตุได้นำสินค้าเป็นไมล์ดิจิตอล สำหรับตกแต่งรถจักรยานยนต์มาส่งให้ลูกค้า บริเวณปากทางเข้าวัดซับชะอม ซึ่งขณะที่กำลังส่งของกันอยู่ มีรถเก๋งสีขาวเข้ามาประกบยิงผู้ตายพร้อมด้วยแฟนสาว ก่อนจะขับรถหลบหนีไป
วันรุ่งขึ้นพล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีทำงานด้วยความรัดกุม ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท ได้สอบปากคำพยาน (ผู้บาดเจ็บ) และพยานแวดล้อมอีก 4 ปาก
ขณะที่การสืบสวนได้ข้อมูลสำคัญที่โยงกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ากับลูกค้าที่สั่งของ คล้ายกับว่าผู้ตายถูกลวงมาฆ่า ตำรวจยังสามารถตรวจยึดรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญง 4440 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุได้ ช่วงเย็นเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท ยื่นขออนุมัติหมายจับ จากศาลจังหวัดสระบุรี
คุมทำแผนฯนาทีจ่อยิง
ก่อนชุดสืบสวนจะเข้าจับกุมตัว นายพีระนนท์ ราชวัตร (ฟร็อง) อายุ 20 ปี ภายในบ้านเช่าเลขที่ 7/88 หมู่ 13 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้เป็นคนแรก พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสุน 6 นัด และปืนพกขนาด 9 ม.ม.อีก 1 กระบอก กระสุน 5 นัด ยาบ้าอีก 1 หมื่นเม็ด
นายพีระนนท์สารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ผู้ตาย โดยมีนายภูธเนศ เสือส่าน( เสือ) อายุ 20 ปี เป็นผู้ใช้ปืน 9 ม.ม.ร่วมกันยิงผู้ตายด้วย นอกจากนี้ยังมีนายสมเดช สมสะอาด (เก่ง) อายุ 21 ปี ทำหน้าที่ขับรถ
ชุดจับกุมนำหมายศาล ออกติดตามจับกุมนายภูธเนศและนายสมเดชได้ในค่ำวันเดียวกัน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุผลอันควรหรือจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 นำแถลง
ตัดกลับมาที่การแถลงผลจับกุม พล.ต.ท. อำพล กล่าวว่าคดีต้องชมเชย ผบก.ภ.จว.สระบุรี และทีมงานที่สามารถติดตามคลี่คลายปิดคดีได้อย่างรวดเร็วไม่ถึง 24 ช.ม. ส่วนสาเหตุกลุ่มผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายภูธเนศ (เสือ) ที่หน้าร้านสะดวกซื้อในตลาดพระพุทธบาท ด้วยสาเหตุแค่มองหน้ากันแล้วเกิดหมั่นไส้กัน โดยผู้ตายได้ท้าทายว่า อยากเจอ “ลูกพี่” มึง หมายถึง นายพีระนนท์ (ฟร็อง) จึงได้มีการวางแผนลวงให้นายเกษมสันต์ นำสินค้ามาส่งในที่เกิดเหตุ เมื่อ ผู้ตายนำของมาส่งให้จึงขับรถเข้าประกบแล้วลงมือยิงทันทีแล้วแยกย้ายกันหลบหนี
ส่วนผู้ที่สั่งของให้ผู้ตายนำสินค้ามาส่งเบื้องต้นได้กันเป็นพยาน แต่หากการสอบสวนว่ามีส่วนสมรู้ร่วมคิดด้วยก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนในเรื่องยาเสพติดเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ได้สั่งการให้ขยายผลตรวจสอบทั้งฝ่ายผู้ต้องหาและฝ่ายผู้ตายด้วยแล้ว
ผบช.ภ.1สอบ 3 คนร้าย
“ผมก็ยังไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาที่ว่าไม่พอใจที่ถูกมองหน้า แล้วถึงต้องฆ่ากัน ลึกๆน่าจะมีมากกว่านั้น จึงมอบหมายไปแล้วว่าให้ขยายผลทั้งหมด ทั้งเรื่องอาวุธปืนว่ามีที่มาอย่างไร ใครเป็นผู้ครอบครองเมื่อมีติดตัวแล้วทำให้คนใจร้อนก่อเหตุได้ง่าย รวมถึงเส้นทางการเงินใครเกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีให้หมด ผู้ต้องหาอายุเพียงแค่นี้เคยต้องคดียาเสพติด แล้วมาก่อคดีนี้อีก เมื่อกลับเข้าไปในคุกแล้วจะต้องเจออะไรอีก” ผบช.ภ.1 กล่าว
เสรี สุพรรณ์นอก /ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ
เรื่อง/ภาพ
อ่านข่าว
