ผ่าคดีสยองเมืองพัทยา
จอร์แดนอำมหิต–ฆ่าลูก
จับมัดรถเข็นโยนทะเล
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ฆ่าลูกจับมัดรถเข็นโยนทะเล : ‘พัทยา’ เมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเมืองไทย ผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งไทยและเทศต่างมุ่งหน้ามาเยือน จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองแห่งนี้ จะเกิดคดีอาชญากรรมขึ้นทุกวัน แต่คงไม่มีคดีใดชวนสลดใจ ได้มากเท่ากับคดีของ ด.ช.โอมาน นาบิล ซัลมาน ซูเรกัต หนูน้อยชาวจอร์แดน วัยไม่ถึง 2 ขวบ
ย้อนไปเมื่อเย็นวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่นายทรงศีล สุนทรชัย อายุ 28 ปี พนักงานขับเรือเร็ว กำลังนำเรือเข้าเทียบท่าที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พลันสายตาเหลือบไปเห็นสิ่งผิดปกติลอยอยู่ริมทะเล

นายวาเอลกับลูก
“ตอนนั้นผมกับเพื่อนสังเกตเห็นว่ามีร่างเด็กลอยอยู่เหนือน้ำลักษณะหัวทิ่มเท้าชี้ฟ้า มีรถเข็นเด็กติดอยู่ เห็นจากไกลๆคิดว่าเป็นตุ๊กตา ก็ไม่ได้คิดอะไร จนเมื่อผมขับเรือเข้าไปใกล้ๆ ถึงกับช็อก เพราะมันไม่ใช่ตุ๊กตา แต่เป็นศพเด็ก เลยรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ” นายทรงศีล กล่าว
พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบทันทีหลังรับแจ้งเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพเด็กอายุราว 2-3 ขวบ เพศชายไม่ทราบสัญชาติและชื่อ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นลายทางแดงสลับดำและสวมผ้าอ้อม ขาข้างซ้ายถูกผูกติดกับรถเข็น ไม่พบว่ามีร่องรอยของการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน

นำศพขึ้นฝั่ง
จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่สว่างฯ นำศพไปเก็บรักษาที่ร.พ. บางละมุง ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ว่าเสียจากอุบัติเหตุจมน้ำหรือถูกฆาตกรรม ก่อนให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุเพื่อเร่งตรวจสอบหาพ่อแม่ของเด็กรายนี้อย่างเร่งด่วน
ตํารวจไล่ตรวจสอบข้อมูลจนพบว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. มี นาย วาเอล นาบิล ซัลมาน ซูเรกัต อายุ 52 ปี กับภรรยาชาวจอร์แดน เข้าแจ้งความว่า ด.ช.โอมาน นาบิล ซัลมาน ซูเรกัต อายุ 1 ขวบ 9 เดือน ลูกชายของตัวเองหายตัวไป ซึ่งจากข้อมูลที่ทั้งพ่อและแม่ของ ด.ช.โอมาน ให้ข้อมูลเอาไว้ ตรงกับสภาพศพเด็กที่พบในทะเล เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าไม่ผิดตัวแน่น
คดีนี้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากพบว่าพ่อและแม่ของเด็กกำลังจะเดินทางกลับประเทศในคืนวันดังกล่าวพอดี ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับ พ.ต.อ.ภาส สิริสุขะ ผกก.สตม.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและสภ.เมืองพัทยา จึงรีบประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชิญตัวมาซักสอบถามข้อมูลได้ทันก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นเครื่องกลับจอร์แดน

ศพหนูน้อย
โดยตรวจสอบพบว่าผู้เป็นพ่อมาท่องเที่ยวเมืองพัทยาหลายครั้งแล้ว แต่แม่เพิ่งเคยเดินทางมาประเทศไทย
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจซักถามนายวาเอล ก็พบว่าเจ้าตัวอยู่ในอาการซึมผิดปกติ จากการสอบสวนตลอดคืนตอนแรกเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่รู้ว่าลูกชายหายไปไหน แต่เมื่อถูกเค้นหนักเข้านายวาเอลก็รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าลูกชายของตัวเอง เพราะโกรธแค้นภรรยา ที่เดินทางมาเที่ยวด้วยกัน แล้วบอกจะช่วยดูแลลูก แต่กลับออกไปเที่ยว ทุกคืน ปล่อยให้ดูแลลูกคนเดียว โดยทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตีกัน
นายวาเอล เล่าว่าตัดสินใจพาลูกชายนั่งรถเข็นไปที่สะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ในช่วงกลางคืน ก่อนมัดขาทั้ง 2 ข้างกับรถเข็น และจับโยนลงทะเลทันที เมื่อกลับมาที่ห้องพักก็เครียดมาก กระทั่งภรรยากลับมาตามหาลูกแต่ไม่พบ จึงทำทีไปแจ้งความว่าลูกหาย พร้อมเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศ แต่สุดท้ายก็มาถูกจับกุมก่อนขึ้นเครื่องบิน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ร่วมซัก
นายวาเอลให้การถึงปมเหตุลึกๆ อีกว่า สาเหตุที่ทำไปนอกจากเพราะทะเลาะกับภรรยาแล้ว ที่ผ่านมาตัวเองก็ไม่ได้อยากมีลูก รวมทั้งครั้งนี้ก็ไม่ได้อยากมาเที่ยวเมืองไทยด้วย แต่ต้องตามใจภรรยา
เวลา 15.00 น. วันที่ 12 มี.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตำรวจ ท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวาเอล ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ จ.104/2562 ลงวันที่ 12 มี.ค.2562 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
ส่วนทางด้านภรรยาหลังทราบข่าวว่าลูกตัวเองเสียชีวิต ยิ่งกว่านั้นผู้ที่ก่อเหตุกลับเป็นสามีตนเองซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ จึงเกิดอาการช็อกอย่างรุนแรงเพราะยังรับไม่ได้ เบื้องต้นยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ร.พ.ชลบุรี
ต้องเป็นคนที่มีสภาพจิตใจแบบไหนกัน ถึงฆ่าลูกน้อยของตัวเองได้อย่างเลือดเย็นเช่นนี้
อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล
เรื่อง/ภาพ