ย้อนคดีโจ๋โคราชหัวร้อน

บุกรพ.ห้วยแถลง-ตื้บอริ

ตร.ฟัน4หัวโจกโดนหนัก

สดจากสนามข่าว – วัยรุ่นใจร้อน เลือดร้อน ทำอะไรไม่เคยคิดหน้าคิดหลัง ขนาดในสถานที่ซึ่งแม้แต่ยามศึกสงครามยังต้องละเว้นเอาไว้ เช่นในโรงพยาบาล มันก็ไม่สนใจ พอถูกจับก็นั่งคอตกกับคำแก้ตัวเดิมๆ

ย้อนไปเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจโรงพักห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ถูกตามมาระงับเหตุกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20-30 คน ไล่ตีกันหน้าห้องฉุกเฉินของร.พ.ห้วยแถลง เมื่อไปถึงพบว่าทั้งหมดหลบหนีไปแล้ว ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องฉุกเฉินสามารถจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน

กร่างเต็มร.พ.

โดยในกล้องวงจรปิดเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเป็นชาย ไม่สวมเสื้อ รูปร่างอ้วน วิ่งเข้าไปชกต่อยวัยรุ่นที่สวมเสื้อสีฟ้ากางเกงขายาวสีดำ และต่อยวัยรุ่นที่สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็เกิดการตะลุมบอนกันบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน และหน้าห้องคลินิกไต จนชายวัยรุ่นที่สวมเสื้อสีดำวิ่งหนีเข้าไปภายในห้องฉุกเฉิน

นาทีทำร้ายอริ

หลังจากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20 คน วิ่งกรูเข้ามาภายในโรงพยาบาล ทำให้แพทย์เวรและเจ้าหน้าที่พยาบาลต่างวิ่งหลบหนีและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงพยาบาลเข้ามาระงับเหตุ ทางกลุ่มวัยรุ่นจึงได้แยกย้ายกันออกไป

จากการสอบสวนทราบว่าต้นเหตุมาจากกลุ่มวัยรุ่นไปเที่ยวงานวันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี ที่สนามหน้าอำเภอห้วยแถลง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-10 เม.ย. แล้วเกิดชกต่อยกับคู่อริ จน นายยุทธศักดิ์ บุญธรรม อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนๆ จึงนำตัวมารักษาที่ร.พ.ห้วยแถลง จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นคู่อริก็ยกพวกมาตะลุมบอนกับกลุ่มของผู้บาดเจ็บ จนเกิดเหตุวุ่นวายและโกลาหล

หลังเกิดเหตุ นายเดชฤทธิ์ ถิตย์ฉาย นายอำเภอห้วยแถลง และผู้อำนวยการโรงพยาบาลห้วยแถลง ได้นำคลิปวิดีโอวงจรปิดที่เกิดเหตุดังกล่าวมาประชุมร่วมกัน และเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับวัยรุ่นที่ก่อเหตุในภาพทั้งหมด เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ราชการและเป็น โรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย รวมทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่อีกด้วย

ตร.สอบจนท.โรงพยาบาล

ขณะที่ พ.ต.อ.พัทธราวุฒิ ศรีหะ ผกก.สภ.ห้วยแถลง ประชุมร่วมกับชุดสืบสวนเพื่อลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุใน โรงพยาบาลทั้งหมดมาดำเนินคดี โดยมั่นใจจะสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด โดยได้ส่งชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัววัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้งหมด พร้อมทั้งประสานผู้ปกครองให้นำตัวผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนอีกทางหนึ่งแล้ว ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่บุกเข้าไปทำร้ายรุมชกต่อยคู่กรณีเป็นวัยรุ่นบ้านป่าเพ็ชร ต.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บเป็นวัยรุ่นบ้านทับสวาย ต.ทับสวาย อ.ห้วยแถลง เช่นเดียวกัน

เมื่อทนแรงกดดันทั้งจากตำรวจและกระแสสังคมที่โถมเข้าใส่ไม่ไหว เมื่อวันที่ 12 เม.ย. วัยรุ่นหัวโจก 4 คนที่เป็นคนนำกลุ่มเด็กและเยาวชนเข้าไปก่อเหตุ ประกอบด้วย นายสันติ อินทรา หรือก็อต อายุ 29 ปี ที่มีรูปร่างอ้วน นายพิทักษ์ ศรีสัมฤทธิ์ หรือบาส อายุ 25 ปีนายทุ่งทอง ราศา หรืออั่ง อายุ 29 ปี และ นายศรณรงค์ สุดตาซ้าย หรือ เป้ อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้านป่าเพ็ชร ต.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง ก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ

ขอโทษ จนท.โรงพยาบาล

จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุทั้งหมดรับสารภาพ และรู้สึกสำนึกผิดในการ กระทำของตนเอง จึงนำกระเช้าดอกไม้เข้ากราบขอโทษแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามตำรวจจะดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นหัวโจกที่ก่อเหตุทั้งหมดในข้อหา ‘ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น’ ขณะที่ส่วนที่เหลือซึ่งยังเป็นเยาวชนจะเรียกมาทำประวัติเอาไว้ก่อน

นายสันติแกนนำกลุ่มวัยรุ่นบ้านป่าเพ็ชร ซึ่งเป็นคนที่เข้าไปทำร้ายร่างกายกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ ตามที่เห็นในคลิปวิดีโอ เล่าว่า คืนเกิดเหตุตนเองมาเที่ยวงานย่าโมกับเพื่อนๆ ขณะกำลังดูดนตรีและเต้นรำกันอยู่หน้าเวที เกิดเขม่นกับนายยุทธศักดิ์ กลุ่มวัยรุ่นบ้านทับสวาย และนายยุทธศักดิ์ก็เข้ามาต่อยตนก่อน จึงเกิดเหตุการณ์ชุลมุน

หัวโจกมอบตัว

หลังจากนั้นตนก็ได้รับบาดเจ็บจึงเดินทางไปพบแพทย์ที่ร.พ.ห้วยแถลงเช่นกัน เมื่อตนและเพื่อนมาเจอกับกลุ่มของนายยุทธศักดิ์อีกครั้งที่ร.พ.จึงมีปากเสียงกันขึ้น ตนโมโหจึงเข้าไปชกต่อยตามเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอที่ปรากฏ ซึ่งตนไม่มีเจตนาที่จะบุกรุกโรงพยาบาล แต่ต้องการมาให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บ แต่ก็มามีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีอีกครั้ง จึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ต่อมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางไปยัง สภ.ห้วยแถลง เพื่อสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามอบตัวด้วยตนเอง พร้อมสั่งกำชับให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้งหมดโดยไม่ละเว้น เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่ยกพวกไปตะลุมบอนกันถึงภายในโรงพยาบาล เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับกลุ่มวัยรุ่นอื่นๆ อีกต่อไป

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ

เรื่อง/ภาพ

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน