คำสารภาพพรานหัวหิน

เข้าใจผิดคิดว่ากระรอก

ยิงดับ9ขวบ-ฝังอำพราง

สดจากสนามข่าว – “ผมเห็นบนต้นไม้ กิ่งไม้ไหวๆ คิดว่าเป็น กระรอกหรือนกเลยยิงเข้าไป 1 นัด แล้วก็เห็นน้องกล้วยตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ตกใจมากเข้าอุ้มร่างจะพาขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น แต่น้องกล้วยตายเสียก่อน กลัวความผิดจึงนำศพไปฝังไว้ที่เชิงเขา”

นายประมุข โคสินธิ์ อายุ 38 ปี ชาว ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดปากรับสารภาพ หลังถือปืนลูกกรด ขนาด .22 ติดกล้องขยาย ขึ้นโรงพักบ้านหนองพลับ อ.หัวหิน เมื่อค่ำวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทำแผนฯ จุดยิง

 

มอบตัวคดีฆ่า-ฝัง น้องกล้วย หรือ ด.ช.เฉลิมชัย โจปะถา วัย 9 ขวบ นักเรียนชั้นป.3 โรงเรียนต

ชด.บ้านแพรกตะคร้อ และเป็นเครือญาติกับนายประมุข

คดีฆ่าโหด ด.ช.วัย 9 ขวบ ฝังดินอำพราง เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันเดียวกัน เมื่อนายสวัสดิ์ ชูยิ้ม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 บ้านแพรกตะคร้อ ต.บึงนคร เข้าแจ้งต่อร.ต.อ.อิทธิพล คำหอม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านหนองพลับ ว่าพบศพน้องกล้วย ที่เป็นเด็กในหมู่บ้านที่หายตัวไป ถูกฆ่าฝังดินในป่าชายเขาบ้านแพรกตะคร้อ

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ ร.พ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน

ส่งศพน้องกล้วยผ่าชันสูตร

ที่เกิดเหตุเป็นชายเขาป่าสับปะรดเก่า เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำก้อนหินขนาดใหญ่ออกจากจุดที่ได้รับแจ้ง เมื่อขุดดินลึกประมาณ 30 ซ.ม. พบศพด.ช.เฉลิมชัย

สภาพสวมกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืดแขนสั้น จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์โรงพยาบาลหัวหิน ตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยรูกระสุนปืนไม่ทราบขนาด ที่บริเวณเอวด้านซ้ายของน้องกล้วย 1 รู ทางพนักงานสอบสวนจึงมอบศพให้มูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน นำส่งสถาบันนิติเวชตำรวจ

จุดพบศพ

ผลชันสูตรพบกระสุนที่ยิงเข้าบริเวณเอวซ้ายไปฝังในที่บริเวณหัวไหล่ขวา ตัดผ่านอวัยวะสำคัญภายในร่างกาย ทำให้เด็กเสียชีวิต

พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ. จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำทีมคุมคดีด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่า พ่อและแม่ของน้องกล้วยมาแจ้งกับผู้ใหญ่บ้านว่า น้องกล้วยหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค. ญาติพยายามตามหาแต่ไม่พบตัว

กระทั่งเช้าลูกชายคนที่ 5 บอกกับพ่อแม่ว่า พี่กล้วยมาเข้าฝันหา แล้วชี้มือไปทางเชิงเขา พ่อแม่จึงออกเดินตามหา จนไปพบจุดที่ฝังศพน้องกล้วย สังเกตเห็นความผิดปกติจากกองดินที่มีก้อนหินขนาดใหญ่วางทับอยู่รีบมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ จนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านหนองพลับ นำเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาตรวจสอบ และพบว่าเป็นศพน้องกล้วยถูกฝังอยู่จริงๆ

สำหรับน้องกล้วยเป็นเด็กกตัญญูมาก รับจ้างต่อยมวยตามงานวัดหรือตามหมู่บ้านเพื่อหาเงินครั้งละ 500 – 1,000 บาท นำมาให้พ่อแม่ใช้จ่ายในครอบครัว ที่มีฐานะยากจน เนื่องจากพ่อแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปมีรายได้ไม่แน่นอน ครอบ ครัวมีฐานะยากจน และมีลูกถึง 5 คน

ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมารับผิดตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด และคดีน้องกล้วยถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่สุดของหมู่บ้านในรอบ 10 ปี

อาวุธสังหาร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐาน น้องกล้วยอาจถูกลูกหลงจากปืนของพรานป่าที่ยิงสัตว์ จึงกระจายกำลังออกสืบหาเบาะแสจากชาวบ้านใกล้จุดพบศพ เพื่อตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี

เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ตำรวจกระจายกำลังสืบหาเบาะแส คนร้ายก็ทนแรงกดดันไม่ไหวเดินถือปืนเข้ามอบตัวในช่วงค่ำวันเดียวกัน นายประมุขที่เข้ามอบตัวพร้อมทั้งให้การรับสารภาพว่า เข้าไปซุ่มยิงสัตว์ห่างจากจุดที่พบศพไปประมาณ 600 เมตร

เมื่อเห็นบนต้นไม้กิ่งไม้ไหวๆ คาดว่า สิ่งที่เห็นน่าจะเป็นกระรอกหรือนกจึงยิงเข้าไป 1 นัด เมื่อเห็นน้องกล้วยที่มีศักดิ์เป็นหลานชายตกลงมาจากต้นไม้ จึงรีบเข้าไปดูและอุ้มร่างขึ้นมาเพื่อจะพาขอความช่วยเหลือจากชายวัย 78 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวให้ช่วยพาไปหาหมอ

 

แต่ระหว่างทางน้องกล้วยทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้เกิดความกลัวความผิดจึงนำศพไปฝังไว้ที่เชิงเขาในบริเวณดังกล่าว ก่อนจะรีบเดินทางกลับไปที่ร้านน้ำแข็งใน อ.ปราณบุรี เพื่อทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฝังอำพราง

จนถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนักจึงเกิดความเครียดและสำนึกผิดจึงประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านขอเข้ามอบตัวในที่สุด

พร้อมรับโทษทัณฑ์ตามอาญาบ้านเมืองต่อความผิดที่กระทำลงไป

พิมพร อยู่รุ่ง

เรื่อง / ภาพ

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน