ย้อนคดีแก๊งยาสุดเหิม
รัวยิงหนุ่มดับคาบ้าน
แค้นโดนจับบิ๊กล็อต
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
แม้เมืองไทยจะไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีโรงงานผลิตยาเสพติด ของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ลักลอบตั้งอยู่ ตามแนวชายแดนฝั่งประเทศเมียนมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าขบวนการเหล่านี้อาศัยเมืองไทยเป็น เส้นทางสำคัญในการลำเลียงยานรกออกสู่ตลาดโลก
หมู่บ้านชาวเขาตามแนวตะเข็บชายแดนหลายหมู่บ้านจึงถูกใช้เป็นแหล่งพักยานรก แม้ชาวบ้านส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่กล้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ด้วยเกรงกลัวอิทธิพลของแก๊งยาเหล่านี้
ย้อนไปเมื่อเย็นวันที่ 1 ส.ค. เกิดเหตุสยองขึ้นกลางหมู่บ้านแสนใหม่ หมู่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยพ.ต.ธงชัย วันมหาใจ ผบ.ร้อย ทพ.3108 ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุคนยิงกันเสียชีวิต
ในที่เกิดเหตุพบศพ นายสุพจน์ ปูลี อายุ 29 ปี ถูกยิงเข้าที่ลำตัวจนพรุนไปทั้งร่างตั้งแต่ใบหน้า ลำตัว แขนและขาจนเลือดนองพื้น ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงินเข้ม ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ สอบถามชาวบ้านเบื้องต้นทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุมีอยู่ด้วยกันถึง 9 คน โดยมี นายวีระพงษ์ จะบา อายุ 25 ปี ชาว ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย เป็นแกนนำ ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันรวม 4 คัน เดินทางไปหานายสุพจน์ถึงในหมู่บ้านโดยแต่ละคนมีอาวุธปืนครบมือ มาตะโกนเรียกนายสุพจน์ให้ออกมาพบหน้าบ้าน
เมื่อพบตัว นายวีระพงษ์ก็เปิดฉากใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจนทำให้นายสุพจน์ล้มลงเสียชีวิตคาที่ และมีหญิงอีก 1 คนถูกลูกหลงกระสุนปืนบาดเจ็บ ชาวบ้านช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลแม่จัน
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นชาวบ้านให้ข้อมูลว่า คนที่มายิงไม่พอใจที่คนตายพยายาม ต่อต้านโน้มน้าวไม่ให้คนในหมู่บ้านไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อีกประเด็นมาจากกรณีตรวจยึดยาบ้ากว่า 7.9 ล้านเม็ด ในหมู่บ้านใกล้เคียงเมื่อไม่นานมานี้ โดยคนร้ายหลบหนีไปได้ แต่เมื่อขยายผลพบว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลบางคนในกลุ่มของนายวีระพงษ์ ทำให้เจ้าตัวปักใจเชื่อว่าผู้ตายซึ่งเป็นหลานผู้นำหมู่บ้าน เป็นสายลับแจ้งเบาะแสการขนยาให้เจ้าหน้าที่จึงตามมาล้างแค้นในที่สุด
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจจังหวัดเชียงราย ออกเร่งหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มยาเสพติด ก่อนพบว่าหลังเกิดเหตุคาดว่า ทั้งหมดหลบหนีมุ่งหน้าไปทางชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง ที่อยู่ใกล้กัน และจะสามารถหลบหนีออกนอกประเทศได้
เช้าวันที่ 4 ส.ค. เจ้าหน้าที่เปิดฉากกดดันกลุ่มคนร้ายครั้งใหญ่ โดยนางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล ผกก.สภ.แม่จัน นำเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (ส.) ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฉก.ม.2 และ ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 12 แห่ง เขตหมู่บ้านแสนใหม่ หมู่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน
ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังศาลจังหวัดเชียงราย อนุมัติหมายจับกลุ่มคนร้าย 6 คน ประกอบด้วย 1.นายวีระพงษ์ หรือ จะแฮ จะบา อายุ 25 ปี ชาวหมู่บ้านกกน้อย หมู่ 5 ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย แต่อาศัยอยู่กับภรรยาในหมู่บ้านแสนใหม่ 2.นายยศศักดิ์ ป่อ มือ 3.นายเอกชัย จะแกะ 4.นายจักรพงษ์ จะบา 5.นายสมเกียรติ จะแยะ ชาวบ้านแสนใหม่ 6.นายเกรียงไกร จะลี ชาวหมู่บ้านกกน้อย
แม้ผลการตรวจค้นตามพื้นที่เป้าหมายเจ้าหน้าที่ไม่พบตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน แต่ตรวจพบทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาทิ้งไว้ตามบ้าน ประกอบด้วยรถยนต์กระบะ 2 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก และทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวมกันประมาณ 50 บาท จึงอายัดไว้เพื่อนำไปตรวจสอบ
นางวันดีกล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ ทหาร และพลเรือน เพื่อคลี่คลายคดีและถือเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุคดีอุกฉกรรจ์ในหมู่บ้านเช่นนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นและอุ่นใจแก่ประชาชนว่าเจ้าหน้าที่ได้เอาจริงเอาจังกับการดูแลความปลอดภัยและปราบปรามยาเสพติดอย่างแท้จริงด้วย
กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ส.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในเขตป่าเขาใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ได้พบรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน ถูกจอดทิ้งเอาไว้ในแนวป่าติดกับช่องทางธรรมชาติในเขตหมู่บ้านแสนใหม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นรถที่ผู้ต้องหาใช้ขับหลบหนีไปเขตประเทศเมียนมา แต่เนื่องจากเป็นป่าเขาต้องใช้การเดินเท้าต่อจึงได้จอดทิ้งเอาไว้ ขณะที่การสอบสวนพบมีเยาวชนอีก 4 รายร่วมก่อเหตุด้วย จึงขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมแล้ว
หากต้องการดึงมวลชนมาเป็นพวก มาช่วยต่อต้านขบวนการค้ายานรก ราชการจำต้องเร่งขจัดอิทธิพลของแก๊งยานรก สร้างความ เชื่อมั่นให้กับชาวบ้านให้ได้โดยเร็ว
เกรียงไกร ปัญโญกาศ
เรื่อง/ภาพ
อ่านข่าว