ผ่าชนวนฆ่าโหด2ผู้เฒ่า หนุ่มใหญ่แค้นถูกกีดกัน ลูกเหยื่ออโหสิแต่ยังผวา : สดจากสนามข่าว

ผ่าชนวนฆ่าโหด2ผู้เฒ่า – ผมตั้งใจจะยิงทั้ง 4 คน แต่พอดีมีลูกปืนแค่ 2 ลูก เลยไล่ยิงได้เพียง 2 คน คำสารภาพชวนสะพรึง หลังนายสมหมาย นุบุญมา อายุ 54 ปี ใช้ปืนยิง นายบุญถม นนทะโคตร์ อายุ 68 ปี และนายจันได มีดา อายุ 72 ปี เสียชีวิต เพราะแค้นที่ถูกกีดกันความรัก

ผ่าชนวนฆ่าโหด2ผู้เฒ่า

อาวุธสังหาร

ย้อนไปเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2563 ร.ต.อ.มนัส แก้วจินดาคำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าบ้านพัก ต.ยางโกลน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จึงประสานแพทย์ร.พ.สมเด็จพระยุพราชนครไทย แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชค ผกก.สภ.นครไทย ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานพิษณุโลก

ที่เกิดเหตุ พบศพนายบุญถม นนทะโคตร์ อายุ 68 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนลูกซองยิงเข้าหน้าอก นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน นอกจากนั้นยังพบร่างนายจันได มีดา อายุ 72 ปี ถูกยิงเข้ากลางแผ่นหลังอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยรีบนำตัวส่งร.พ.แต่ปรากฏว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนมือปืนพยานระบุว่าคือนายสมหมาย นุบุญมา หลังก่อเหตุก็เดินกลับไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมตัวได้พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวทูตมรณะ ก่อนนำตัวไปสอบสวนพร้อมนำศพส่งชันสูตรที่ร.พ.

ผ่าชนวนฆ่าโหด2ผู้เฒ่า

นายสมหมาย นุบุญมา มือปืน

พ.ต.อ.ธรธวัช สอบปากคำนาย สมหมาย ซึ่งให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำไปเนื่องจากแค้นที่ถูกกีดกัน เพราะหลงรักครูสาววัย 40 ปี ที่หมายปองมานาน แต่กลับถูกผู้ตายทั้งสองราย ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของครูสาวกีดกัน ซ้ำยังสนับสนุนให้ไปชอบพอกับชายหนุ่มคนอื่นจนทราบมาว่าถึงขั้นจะแต่งงานกัน ทำให้เกิดความแค้นสะสม จึงตัดสินใจนำอาวุธปืนลูกซองยาวไปไล่ยิงญาติของ ครูสาว ซึ่งอยู่คนละบ้านห่างประมาณ 100 เมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

นายสมหมายยังเผยความตั้งใจที่ฟังแล้วชวนสะพรึงอีกว่า ตั้งใจจะยิงญาติถึง 4 คน พอดีมีลูกปืนเพียง 2 ลูก จึงสามารถก่อเหตุไล่ยิงได้เพียง 2 คน หลังจากก่อเหตุก็ได้รีบนำอาวุธปืนไปซ่อน แต่กลับถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

รุ่งขึ้นที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ญาติของนายบุญถมและนายจันไดมารับศพของทั้งคู่ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นายทองรัก นนทะโคตร์ อายุ 50 ปี บุตรชายของนายบุญถมเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุแม่เล่าให้ฟังว่า พ่อเพิ่งกลับจากไปหาปลามาทำเป็นอาหาร ขณะกำลังก้มล้างมือล้างขาอยู่แถวหน้าบ้าน ระหว่างนั้น นายสมหมายมือปืนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้านโดยไม่ดับเครื่อง ก่อนจะถือปืนลูกซองยาวซุ่มอยู่หน้าบ้าน

ผ่าชนวนฆ่าโหด2ผู้เฒ่า

ปลอกกระสุน

จังหวะนั้นแม่หันไปเห็นพอดี จึงตะโกนดังสุดเสียงว่าอย่ายิง พอสิ้นคำเท่านั้น นายสมหมายได้ยิงใส่พ่อจนล้มฟุบลงไปสิ้นใจทันที หลังก่อเหตุนายสมหมายเดินอย่างใจเย็นไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ และหักลำปืนเอาปลอกกระสุนทิ้ง พร้อมกับใส่กระสุนนัดใหม่ขี่รถจักรยานยนต์ไปยิงนายจันได เป็นศพที่สอง

นางปรานอม ตันวีระพันธ์ อายุ 45 ปี ลูกสาวคนเล็กของนายบุญถมกล่าวว่า นายสมหมายนั้นเสมือนญาติคนหนึ่ง นับกันตั้งแต่รุ่นทวด ไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นอะไร เพราะแต่ก่อนเคยมาทำงานและหาปลาอยู่กับพ่อตนตลอด ไม่คิดว่าจะมา ก่อเหตุแบบนี้

นายสมหมายก็เคยมีครอบครัวแล้ว แต่หันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่พักหนึ่ง จนครอบครัวแยกกันไปนานแล้ว ส่วนตัวหญิงสาวอีกคนที่นายสมหมายอ้างว่าเป็นชนวนเหตุนั้น ก็คือญาติของตน มีศักดิ์เป็นหลานของนายบุญถม ก่อนหน้านี้ก็เคยมีครอบครัว แต่ก็เลิกรากันไปนานแล้วเช่นกัน และไม่เคยยุ่งเกี่ยวเชิงชู้สาวอะไรกับนายสมหมาย

พอจะทราบว่านายสมหมายนั้นแอบชอบหญิงสาวญาติของตนมานานแล้ว แต่จะถูกพ่อของตนและนายจันไดห้ามปรามต่อว่าเป็นประจำ เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน รักหลานสาวคนนี้มาก จึงคิดว่าน่าจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นายสมหมายไม่พอใจ จึงลงมือก่อเหตุ

จากนี้ก็จะนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่บ้านของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 หลังในพื้นที่ ต.ยางโกลน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ส่วนจะตั้งสวดศพกี่วันนั้นคงต้องหารือกับญาติอีกครั้ง

ส่วนตัวแล้วครอบครัวก็ให้อภัยผู้ก่อเหตุเพราะไม่อยากให้ติดค้างกันไป อยากให้ดวงวิญญาณของทั้ง 2 คนไปสู่สุคติ เรื่องคดีความนั้นก็ให้เป็นไปตามกฎหมายให้ถึงที่สุด แต่ที่ครอบครัวเองยังคงหวาดผวาก็เนื่อง จากหวั่นว่าหากนายสมหมายพ้นโทษออกมาไม่รู้ว่าจะยังมีความแค้นอะไรหลงเหลืออีกหรือไม่ นางปรานอมกล่าว

อนุชา แก้วคำมา

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน