วันมหาสงกรานต์ปีนี้ นอกจากชาวไทยจะไร้ความสนุกสนานจากพิษการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไว้รัสมรณะ ‘โควิด-19’ จนภาครัฐต้องออกคำสั่งห้ามเด็ดขาดมิให้คนรวมกลุ่มกันเล่นสาดน้ำสงกรานต์แล้ว

ยังเกิดอุบัติเหตุสลดขึ้นในช่วงเวลา คาบเกี่ยวระหว่างวันที่ 12 และ 13 เม.ย. เมื่อจู่ๆเกิดไฟไหม้ท่วมรถทัวร์โดยสารปรับอากาศชั้น 1 สายอุดรธานี-กรุงเทพฯ บริษัท 407 พัฒนาทัวร์ ทะเบียน 10-7387 อุดรธานี ที่กำลังแล่นอยู่บนถนนมิตรภาพ ช่วงบ้านหนองขาม ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด รีบนำกำลังไปให้ความช่วยเหลือ พร้อมแพทย์และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ร.พ.สิรินธร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ และรถน้ำดับเพลิงจาก อปท.ใกล้เคียงเข้าฉีดน้ำสกัดไฟ

ภาพโกลาหลวันเกิดเหตุ

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็ต้องพบกับภาพความโกลาหล เมื่อบรรดา ผู้โดยสารต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดลงมาจากรถทัวร์ที่ไฟกำลังลุกท่วมอย่างรุนแรงแทบทั้งคัน ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังระงม

หน่วยแพทย์กู้ชีพและเจ้าหน้าที่มูลนิธิเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้บาดเจ็บ ก่อนรีบพาส่งรักษาต่อที่ ร.พ.สิรินธร และ ร.พ.ขอนแก่น รวม 12 คน

ส่วนโชเฟอร์และผู้โดยสารอื่นที่หนีรอดออกมาได้ 16 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย

หลังนักดับเพลิงฉีดน้ำจนไฟดับหมด ก็ส่งทีมขึ้นไปตรวจสอบบนซากรถ เจ้าหน้าที่ต้องพบกับภาพสลด เมื่อพบผู้เสียชีวิตที่หนีออกมาไม่ทันถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโกรวม 5 ศพในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 ราย

เชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นตัวแทนนำกระเช้าดอกไม้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทุกรายรวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ขณะที่ผู้รอดตายต่างเล่าเหตุการณ์ที่ต้องหนีจากไฟนรก ด้วยอาการหวาดผวาเพราะยังขวัญเสียกับเหตุระทึกที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เยี่ยมผู้บาดเจ็บ

นายปัญจพล ภาคสังข์ อายุ 19 ปี ชาว อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เผยว่า กลับมาหาแม่ที่ จ.อุดรธานี และได้ซื้อตั๋วกลับเพื่อไปลง จ.สระบุรี โดยขึ้นรถเที่ยว 3 ทุ่มที่ บขส.อุดรธานี ระหว่างทางก็นอนมากับรถ

กระทั่งได้ยินเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้งก็ทราบว่ารถน่าจะยางเกิดระเบิด เห็นไฟลุกขึ้นบริเวณด้านหลัง จึงรีบลงมาจากชั้นสองและวิ่งออกไปได้ทัน ซึ่งในช่วงที่วิ่งลงมาชั้น 1 นั้นทุกคนต่างเบียดเสียดกันบางคนล้มบ้าง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง

พอมาถึงชั้นหนึ่งได้กลิ่นแก๊สลอยเข้าคอจนเกือบจะหมดสติ พูดไม่ออกและพยายามพุ่งออกไปข้างหน้าจนถึงทางออกได้สำเร็จ และ วิ่งเข้าไปในป่าแล้วก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นอีกครั้ง รวมเป็น 3 ครั้ง ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

นางมัชฌิมา พรหมโคตร อายุ 47 ปี ชาว ต.หนองเม็ก อ.หนองหาร จ.อุดรธานี เล่าว่า เดินทางจะกลับกรุงเทพฯ โดยขึ้นรถที่ บขส.อุดรธานี นั่งอยู่ห้องโดยสารเบาะด้านหลังคนขับและนอนหลับมาตลอดทาง

ก่อนที่จะได้ยินเสียงระเบิดดังตูมแล้วรถก็สั่น ส่ายไปมา จนสะดุ้งตื่น

ทันทีที่ลืมตาก็เห็นประกายไฟในรถบริเวณโซนหลังรถ พยายามจะออกทางประตูปกติแต่พอเปิดประตูพบว่ามีแก๊สพุ่งเข้ามาจึงรีบปิด

ในใจคิดว่ายังไงก็ต้องตายแน่ๆ โชคดีมีชายคนหนึ่งพาปีนออกจากรถผ่านประตูคนขับออกมาได้

ญาติร่ำไห้เมื่อเห็นสภาพรถ

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมสอบปากคำ นายพัศดี คำคอน อายุ 48 ปี โชเฟอร์รถคันเกิดเหตุ โดยทราบว่าขณะที่เพลิงลุกไหม้ นายพัศดีได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นใส่ไฟที่ลุกไหม้ พร้อมกับให้ผู้โดยสารลงจากรถ ส่วนการตรวจร่างกายหาสารเสพติด โดยผลออกมาไม่พบสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”

ส่วนผลการตรวจพิสูจน์พบสาเหตุเกิดจากการขัดข้องที่ระบบเบรกของรถ ทำให้เบรกค้างจนเกิดความร้อนทำให้ยางระเบิดขึ้น เศษยางเช่นพวกหน้ายางที่มีความร้อนกระเด็นไปโดนวาล์วท่อแก๊สเอ็นจีวี ทำให้แก๊สรั่วออกมาในอากาศเกิดการติดไฟขึ้นจนเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่นเปรียบเทียบปรับบริษัท 407 พัฒนา ทัวร์ เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ขณะที่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็จะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย

พร้อมสั่งเด็ดขาดให้นำรถในสังกัดทั้งหมดเข้าตรวจสอบสภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำอีก

จักรพันธ์ นาทันริ

สุพล บุญชื่นชม

เอกพงษ์ พุทธา

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน