นาทีหนุ่มมอมยาขืนใจ
ลวง3เหยื่อสาวพริตตี้
โทร.จ้างมาเอ็นเตอร์เทน
หวั่นซ้ำ‘ลันลาเบล-วาวา’

แฟ้มคดี

เป็นภัยสังคมร้ายแรงที่ซ้ำเติมช่วยวิกฤตการณ์โควิด

สำหรับจิ้งจอกสังคมที่ใช้โอกาสสถานการณ์โควิดระบาด จน ไม่สามารถเปิดสถานบริการได้ตามปกติ ส่งผลให้พนักงานและ ผู้ประกอบการต้องดิ้นรนหาทางรอด

โดยใช้ช่องทางดังกล่าวติดต่อสาวพริตตี้อ้างไปงานเอ็นเตอร์เทน หรืองานเลี้ยงส่วนตัวก่อนอาศัยจังหวะข่มขู่ขืนใจ มอมยาถ่ายคลิปแบล็กเมล์

และไม่ใช่แค่คนเดียว มีเหยื่อไปแจ้งความแล้วอย่างน้อย 3 คน

หนำซ้ำยังคาดว่ามีเหยื่อเพิ่มมากขึ้นนับสิบราย

ขณะที่ตรวจสอบประวัติหนุ่มแสบ ก็พบว่าเคยก่อเหตุล่วงละเมิดเน็ตไอดอลวัย 18 มาแล้ว ก่อนถูกดำเนินคดี จำคุกแล้วออกมา ก่อคดีซ้ำอีก

เป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องเร่งหาตัวไม่ให้เป็นภัยสังคมต่อไป

และแม้กรณีนี้จะไม่ถึงขั้นเสียชีวิตแบบ 2 พริตตี้ ลันลาเบล วาวา

แต่ก็ถือเป็นอีก 1 อุทาหรณ์ของความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยจริงๆ

3พริตตี้แจ้งความ

3 พริตตี้แจ้งจับหนุ่มลวงขืนใจ

เหตุการณ์นี้เป็นที่รับรู้ขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดย พ.ต.ท.ชุมพล ภู่ระหงษ์ สว. (สอบสวน) สน.บางขุนเทียน สอบปากคำสาวเจ้าทุกข์อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง แจ้งความถูกนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ หรือนายเด่น อายุ 39 ปี ล่อลวงบังคับเสพยาเสพติดและข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดในห้องเช่าเลขที่ 157 อาคารซี 3 ชั้น 7 อาคารเมโทรพาร์คสาทร ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 1 พ.ค.

โดยเหยื่อสาวให้การว่า เรียนหนังสือและรับงานพริตตี้ชงเหล้าเอ็นเตอร์เทนให้ลูกค้าด้วย ก่อนเกิดเหตุนายเด่นใช้แอพพลิเคชั่นไลน์มีรูปผู้หญิงเป็นโปรไฟล์ อ้างเป็นโมเดลลิ่ง โทรศัพท์ผ่านไลน์ ดัดเสียงเป็นกะเทยว่าจ้างให้ไปชงเหล้าที่ห้อง อ้างว่าอยู่กับลูกค้าผู้ชายคนหนึ่งสุภาพใจดี ทิปหนัก มีพริตตี้อยู่ในงานด้วยอยู่แล้ว 2 คน พอไปถึงนายเด่นลงมารับหน้าอาคาร พาขึ้นลิฟต์ไปที่ห้อง ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง เมื่อเข้าไปถึงนายเด่นชักมีดพกจี้ไม่ให้ส่งเสียงร้อง ยึดโทรศัพท์มือถือ และบังคับให้เสพยาไอซ์

จากนั้นนายเด่นข่มขืนกระทำชำเราโดยไม่สวมถุงยางอนามัย และบังคับข่มขืนทั้งคืน แถมใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิประหว่างข่มขืนไว้ด้วย พอช่วงเช้าวันที่ 2 พ.ค. นายเด่นหลับจากฤทธิ์ยาไอซ์ที่เสพมาทั้งคืน จึงตัดสินใจเอาโทรศัพท์คืน และค้นเอาบัตรประจำตัวประชาชนของนายเด่น วิ่งหนีลงจากห้องพักมาขอความช่วยเหลือจากรปภ. ช่วยพาแจ้งตำรวจ

ส่วนพริตตี้อีกคนอายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัย ระบุว่า วันที่ 9 เม.ย. มีสาววัยรุ่นอายุราว 19-20 ปี อ้างเป็นพริตตี้ใช้ไลน์ไอดีนายเด่นโทร.หาตนบอกว่ามีงานเอ็นเตอร์เทนชงเหล้าให้ลูกค้าที่โรงแรมย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 ให้ค่าจ้าง 3,000 บาท ชงเหล้า 3-4 ชั่วโมง เห็นว่ามีพริตตี้คนอื่นอยู่ที่งานอยู่แล้ว จึงไปหา

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบพริตตี้นุ่งกระโจมอกอยู่กับนายเด่น ทั้งคู่มีอาการคล้ายเมายาเสพติด จากนั้นนายเด่นใช้มีดปอกผลไม้จี้ยึดโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงิน บังคับถอดเสื้อผ้า ให้เสพยาไอซ์ จนเมา ก่อนข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ โดยพริตตี้อีกคนก็อยู่ด้วย

จากนั้นนายเด่นยังขโมยเงินสด 5,000 บาท และบังคับให้โอนเงินอีก 2,500 บาท กระทั่งเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นายเด่นใช้ไลน์ไอดีไลน์ตัวเองให้ตนโทร.หลอกล่อพริตตี้อีกรายหนึ่งให้เดินทางจาก อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มาที่ห้อง เมื่อมาถึงนายเด่นก็ลงมือกระทำเช่นเดียวกับที่ตนเองถูกกระทำ

โดยก่อนหน้านี้ไม่กล้าแจ้งความเพราะถูกขู่ฆ่า แต่เมื่อมีพริตตี้อีกคนถูกกระทำเหมือนกันจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ นอกจากนี้ทราบว่ามีพริตตี้ที่เป็นเหยื่อนายเด่น อีก ไม่น้อยกว่า 4-5 ราย กำลังตัดสินใจแจ้งความเช่นกัน

ไม่ให้เป็นภัยสังคมไปหลอกลวงใครอีก!!

ล่าระทึก-พบเอี่ยวแก๊งยา

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายเด่นนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดา เคยถูกตำรวจ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จับกุมและตกเป็นข่าวเมื่อเดือนก.พ.2561 โดยแอบอ้าง เป็นผู้จัดการดารา หลอกเน็ตไอดอลสาววัย 18 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ให้ถอดเสื้อผ้าและบันทึกภาพขณะพูดคุยผ่านไลน์ หลังพ้นโทษจากเรือนจำก็มาก่อเหตุทำนองนี้อีก

ไม่เพียงแค่นั้นยังเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเมื่อมีการระบุว่าตำรวจได้เชิญตัวนายเด่นมาสอบสวนที่ สน.บางขุนเทียนแล้ว แต่สุดท้ายกลับปล่อยตัวไป

โดย นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับการร้องเรียนจากเหยื่อสาวระบุว่า ทราบว่าตำรวจจับกุมตัว ผู้กระทำความผิดได้แล้วแต่ปล่อยให้หลบหนีไป จึงต้องตั้งคำถามว่าทำไม สน.บางขุนเทียน ปล่อยตัวนายเด่นชัยไป พอเหยื่อถามตำรวจกลับบอกว่า ปล่อยตัวนายเด่นชัยไปเติมเงินโทรศัพท์มือถือ อ้างว่าการถูกข่มขืนยังไม่มีหลักฐานใดๆ ไม่มีสิทธิคุมตัวนายเด่นชัย

นายสิระจึงพาเหยื่อที่ถูกขืนใจ เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.บางขุนเทียน เมื่อวันที่ 5 พ.ค.

โดย พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน ชี้แจงว่า วันที่ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความนั้น ผู้ที่กระทำความผิดยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา และยังไม่ได้มีการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถไปกักขังหน่วงเหนี่ยวตัวไว้ได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความผิดเสียเอง จึงต้องดำเนินการตามข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย

หลังจากนี้เมื่อผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องดำเนินการติดตามตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการรวบรวม หลักฐานและขอออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว

“ยืนยันว่าไม่มีการแลกเงิน 20,000 บาทกับการปล่อยตัวไปอย่างแน่นอน และกรณีนี้เพื่อให้คลายข้อสงสัยของประชาชนก็ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเพื่อให้เกิดความกระจ่าง” พ.ต.อ.วิศิษฐ์กล่าว

ล่าสุดพบว่า นายเด่นภูมิยังกบดานอยู่ในพื้นที่กทม. โดยเช่าคอนโดมิเนียมย่านบางซ่อน ราคาเดือนละ 20,000 บาท เพิ่งทำสัญญา เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันที่ 29 เม.ย. นายเด่นภูมิล่อลวงเหยื่อไปก่อเหตุที่คอนโดฯ ดังกล่าว 1 ราย ต่อมาถูกเชิญตัวไปเจรจาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพ แต่เจรจายอมความได้เนื่องจากนายเด่นภูมิคืนทรัพย์สินให้จึงไม่ได้ แจ้งความดำเนินคดีต่อกัน

อย่างไรก็ตาม พบว่านายเด่นภูมิตระเวนกดเอทีเอ็มในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งย่านฝั่งธนฯ คาดมีคนสนับสนุนพาหนี น่าจะพัวพันกับพวกเอเยนต์ยาเสพติด

แต่ยังมั่นใจจับตัวได้แน่

ย้อนคดีดังลันลาเบล-วาวา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุความสูญเสียของเหล่าพริตตี้ที่รับงานเอ็นเตอร์เทน โดยที่โด่งดังที่สุด ก็คงเป็นเรื่องของ ‘ลันลาเบล’ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี ที่รับจ้างไปงานปาร์ตี้ภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย.62 จำเลยทั้ง 6 มีงานเลี้ยงมีการดื่มสุราที่บ้านเลขที่ 100/291 หมู่บ้านพฤกษา 3 ริมคลอง 3 ซอยวัดลาดปลาดุก หมู่ 5 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ต่อมามีผู้พบศพของลันลาเบล นอนเสียชีวิตล็อบบี้ชั้นล่างของคอนโดฯ ย่านตลาดพลู ตำรวจ สน.บุคคโล ซึ่งเป็นคอนโดฯ ของน้ำอุ่น นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร นายแบบและเทรนเนอร์ฟิตเนส

ขณะที่ผลนิติเวชระบุ ลันลาเบลเสียชีวิตจากการช็อกเพราะดื่มสุราเกินขนาด แอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ต่อมาตำรวจจับกุมนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น ในความผิด 3 ข้อหาคือ กักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พาผู้อื่นไปเพื่อกระทำอนาจาร และกระทำอนาจารผู้อื่น และนายชัยพล หรือคิว พรรณนา อายุ 30 ปี เจ้าของงานปาร์ตี้กับพวกในข้อหาร่วมกันสนับสนุน

โดยวันที่ 14 ต.ค. 2563 ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษา จำคุกจำเลยที่ 1 นายรัชเดช ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย เป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการ กระทำความผิดดังกล่าว จำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือน

ให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมแก่โจทก์รวม 748,660 บาท

อีกคดีคือพริตตี้สาว ‘วาวา’ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ อายุ 33 ปี ที่ไปรับงานเอ็นเตอร์เทนที่บ้านพักหรูในซอยเสนานิคม 1 ย่านพหลโยธิน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2564 แล้วเกิดช็อกถูกนำส่ง ร.พ.เปาโลเกษตร ก่อนเสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตและ ทางเดินหายใจล้มเหลว

โดยผลการชันสูตรพลิกศพ น.ส.วิชญาพร หรือวาวา ออกมาแล้วในร่างกายของผู้ตายมีสารเสพติดทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน เคตามีน ยาอี และไดอะซีแพม สภาพทั่วไปของร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและการร่วมเพศ

พบมีบุคคลอยู่ในที่เกิดเหตุทั้งสิ้น 25 คน ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีเบื้องต้น พ.ร.บ.โรคติดต่อ และตามความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรค

นอกจากนี้ยังดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายจำนวน 4 คน ได้แก่ เจ้าของบ้าน และเพื่อนเจ้าของบ้าน 3 คน เนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานเป็นคนจำหน่ายจ่ายแจกยาเสพติด

เป็นอุทาหรณ์ความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก

บุกจี้คดี

แฉหนุ่มหื่น

โฉมหน้าคนร้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน