ย้อนนาทีรวบแก๊งค่าไถ่
กองปราบบุกช่วย2หนุ่ม
ถูกอดีตตร.อุ้ม-รีด2ล้าน

คอลัมน์สดจากสนามข่าว

ย้อนนาทีรวบแก๊งค่าไถ่ กองปราบบุกช่วย2หนุ่ม ถูกอดีตตร.อุ้ม-รีด2ล้าน – ย้อนไปเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต. จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และพ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.

ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการบุกช่วยเหลือบุคคลถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการได้ 4 คน ประกอบด้วย นายอรรถพนธ์ หรือ เอก เดชะ อายุ 33 ปี นายอภิสิทธิ์ หรือ เจ นิคม อายุ 26 ปี นาย สุทธิรักษ์ หรือ บ่าว บริรักษ์ อายุ 25 ปี และ นายสิทธิพงษ์ หรือ บอย บุญสง อายุ 26 ปี

ย้อนนาทีรวบแก๊งค่าไถ่ กองปราบบุกช่วย2หนุ่ม ถูกอดีตตร.อุ้ม-รีด2ล้าน

บุกจับคาบ้าน

พล.ต.ต.จิรภพเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. น.ส.จินดา (สงวนนามสกุล) เข้ามาร้องเรียนกองปราบปราม เพื่อขอความช่วยเหลือติดตามสืบสวน หลังนายจาฎพันธุ์ ลูกชาย และนายรุสดี เพื่อนสนิท ถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งใช้กำลังบังคับพาตัวขึ้นรถยนต์ออกไปจาก รีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง

ต่อมากลุ่มคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อกลับมาหาน.ส.จินดา ข่มขู่เรียกเงินค่าไถ่เป็นเงิน 2,000,000 บาท แลกกับการปล่อยตัวบุตรชาย พร้อมส่งภาพถ่ายของนายจาฎพันธุ์และ นายรุสดี ในสภาพไม่สวมเสื้อ มือและเท้าถูกล่ามโซ่ตรวนขังอยู่ภายในห้อง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้น.ส.จินดายื้อเวลาต่อรองขอจ่ายเงินก่อน 50,000 บาท ส่วนที่เหลือจะนำที่ดินไปขาย แล้วนำเงินไปมอบให้

พล.ต.ต.จิรภพกล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำกำลังลงพื้นที่เร่งสืบหาเบาะแสจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้พานายจาฎพันธุ์ และ นายรุสดี สองผู้เสียหายมากักขังไว้ในบ้านเช่าเลขที่ 49/3 ม.5 ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา จากนั้นก็วางแผนเข้าช่วยเหลือตัวประกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ก่อนจู่โจมบุกเข้าไปตรวจค้น พบกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ยืนเฝ้าเหยื่อที่ถูกล่ามโซ่ขังไว้อยู่ในห้อง จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนและยาเสพติดได้อีกจำนวนหนึ่ง

ย้อนนาทีรวบแก๊งค่าไถ่ กองปราบบุกช่วย2หนุ่ม ถูกอดีตตร.อุ้ม-รีด2ล้าน

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก.แถลง

ด้านพ.ต.อ.พงศ์ปณตกล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติด รายใหญ่ให้จับผู้เสียหายทั้ง 2 คนมาเรียกค่าไถ่ เนื่องจากติดค้างเงินค่ายาเสพติดกับนายทุน นอกจากนี้ผู้ต้องหายังยอมรับว่าที่ผ่านมาพวกตนเคยรับงานทวงหนี้นอกระบบและจับคนมาเรียกค่าไถ่ในพื้นที่ภาคใต้มาแล้วหลายครั้ง

ทั้ง 4 คนถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ผู้ใดให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบประวัตินายอรรถพนธ์เคยรับราชการตำรวจยศ ส.ต.ต. ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถูกออกราชการเมื่อปี 2558 เพราะขาดราชการเกิน 15 วัน จากนั้นจึงผันตัวเข้าสู่วงการค้ายาเส พติด มีประวัติเคยถูกจับคดีมีอาวุธปืนและระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน ก.ย.2563 แต่หลังจากพ้นโทษออกมายังคงมีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนมีหมายจับศาลจังหวัดสตูล ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีก 1 คดี

ย้อนนาทีรวบแก๊งค่าไถ่ กองปราบบุกช่วย2หนุ่ม ถูกอดีตตร.อุ้ม-รีด2ล้าน

คุมตัวสอบขยายผล

นอกจากนี้ตามแนวทางการสืบสวนยังพบอีกว่า นอกจากผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุม ยังมีทหารยศ ส.อ.สังกัดหน่วยงานแห่งหนึ่งทางภาคใต้ อยู่ร่วมในขบวนการนี้ด้วย ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าทหารคนดังกล่าวเป็นคนรับงานต่อมาจากนายทุนและมาว่าจ้างพวกตนให้ก่อเหตุ

ต่อมาวันที่ 19 มิ.ย. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว รองผกก.6 พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมตัว ส.อ.ภัชชระ สาระอาภรณ์ ทหารสังกัดหน่วยในพื้นที่ภาคใต้ หน้าบ้านพัก ต.บ้านควน อ.เมือง จ.สตูล แต่ ส.อ.ภัชชระให้การปฏิเสธ อ้างว่าก่อนเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากนายอรรถพนธ์ เพื่อนสนิทที่ขอให้ช่วยสืบหาลูกหนี้ ก็คือผู้เสียหายเท่านั้น

งานนี้หากน.ส.จินดาตัดสินใจผิด เชื่อว่าคงจบด้วยคดีสยองอีกคดีเป็นแน่

โดย ธานี ทวีเกิด เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน