ผ่าคดีโจรปาหิน-ชิงทอง
ลงมือห้างดังเมืองกรุงเก่า
เผ่นหนีจนมุมตร.สระแก้ว

คอลัมน์สดจากสนามข่าว

ผ่าคดีโจรปาหิน-ชิงทอง ลงมือห้างดังเมืองกรุงเก่า เผ่นหนีจนมุมตร.สระแก้ว – พิษของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะงักงันมานับปี บริษัทห้างร้านปิดตัวทำคนตกงานจำนวนมาก เมื่อรายได้ไม่มีเข้ามาแต่ค่าใช้จ่ายยังเท่าเดิมหลายคนตัดสินใจผิดพลาดจนต้องชดใช้ด้วยอิสรภาพ

ผ่าคดีโจรปาหิน-ชิงทอง ลงมือห้างดังเมืองกรุงเก่า เผ่นหนีจนมุมตร.สระแก้ว

ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2564 พล.ต.ท. อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังไปตรวจสอบเหตุคนร้ายบุกชิงทอง ร้านทองเยาวราชเอเชีย ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ทองคำไปจำนวนมาก จึงรีบนำกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวนรีบเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบพนักงานร้านทองอยู่ในอาการตกใจ ทองรูปพรรณตกหล่นพื้น รวมทั้งก้อนหินอีก 1 ก้อนตกอยู่ภายในร้าน สอบสวนทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. มีชายรูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขายาว สีดำ รองเท้าสีดำ สะพายเป้ที่หลัง สวมหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ ใส่แมสก์สีดำ นำเป้ออกมาถือเตรียมเอาไว้แล้วเดินตรงมาที่ร้านทอง ใช้ก้อนหินปาเข้าใส่ตู้โชว์ทอง ก่อนกระโดดขึ้นเคาน์เตอร์ ปีนขึ้นไปกวาดทองรูปพรรณขนาดต่างๆ ใส่กระเป๋าเป้วิ่งหนีไป รวมน้ำหนักประมาณ 20 บาท มูลค่ากว่า 5 แสนบาท

ผ่าคดีโจรปาหิน-ชิงทอง ลงมือห้างดังเมืองกรุงเก่า เผ่นหนีจนมุมตร.สระแก้ว

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุเพียง 10 วินาที หลบหนีออกไปที่ลานจอดรถ แล้วขึ้นรถเก๋งสีเงินหลบหนีไป เจ้าหน้าที่รีบวิทยุสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี จนพบว่าคนร้ายหลบหนีมุ่งหน้าไปตามถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าไป จ.สระบุรี

คดีนี้สามารถปิดลงได้ชนิดไม่ทันข้ามวัน เนื่องมาจากตำรวจมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์ชิงทรัพย์ปล้นทรัพย์อยู่เป็นประจำทุกเดือน ทำให้เข้าใจแนวทางการปฏิบัติทันทีเมื่อเกิดเหตุ หลังรับแจ้งใช้เวลาพียงไม่กี่นาทีถึงที่เกิดเหตุ ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายปราบปราม ทำงานอย่างรวดเร็ว กระทั่งได้ข้อมูลรถคนร้ายที่พลเมืองดีถ่ายภาพเอาไว้ เป็นรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีเงิน ทะเบียน กษ-6547 นครสวรรค์ จึงเร่งรัดติดตามประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามพื้นที่ต่างๆ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง

กลางดึกวันเดียวกันนั้น หลัง พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ส่งชุดสืบสวนหาข่าวและประสานศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว แจ้งด่านตรวจในแต่ละพื้นที่สกัดจับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.วัฒนานคร พบเห็นรถยนต์ต้องสงสัยขับเข้ามาในพื้นที่

พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร สั่งการให้รีบตั้งจุดสกัด กระทั่งสามารถสกัดจับรถต้องสงสัย พร้อมนายธราเทพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ได้บนทางหลวงหมายเลข 33 หรือถนนสุวรรณศร ใกล้พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ก่อนถึงตัว อ.วัฒนานคร เพียงไม่กี่กิโลเมตร จากการตรวจค้นเบื้องต้นผู้ต้องหาได้ซ่อนสร้อยทองรูปพรรณที่ก่อเหตุชิงมาไว้ใต้เบาะหลังรถ รวมทั้งหมด 19 เส้น เส้นละ 1 บาท โดยได้แวะขายที่จังหวัดนครนายกไป 1 เส้น

ผ่าคดีโจรปาหิน-ชิงทอง ลงมือห้างดังเมืองกรุงเก่า เผ่นหนีจนมุมตร.สระแก้ว

จนมุมพร้อม่ของกลาง

นายธราเทพให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก่อนจะตกงานในช่วงที่โควิดแพร่ระบาดอย่างหนัก และไม่มีเงินส่งค่างวดรถ จึงตัดสินใจก่อเหตุ

วันรุ่งขึ้น พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ควบคุมตัวนายธราเทพไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มตั้งแต่ขับรถยนต์เข้ามาจอดภายในลานจอดรถ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านทอง สวมหมวกไหมพรม จากนั้นนำก้อนหินที่เตรียมออกมาจากเป้ ปาก้อนหินเข้าไปที่ตู้โชว์ทอง แล้วปีนขึ้นไปยืนบนเคาน์เตอร์ ยกเอาถาดที่แขวนโชว์ทอง วิ่งหลบหนีไป ขับรถยนต์เก๋งที่จอดเอาไว้ที่ลานจอด

ขณะที่การสืบสวนสอบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหามีการเช็กอินที่ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในพื้นที่ปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะมาก่อเหตุ มีการแชร์โพสต์ข่าว คนร้ายก่อเหตุชิงทองผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนที่จะมาก่อเหตุ

โดยปกติเจ้าตัวพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพ มหานคร แต่ตัดสินใจมาก่อเหตุที่พระนคร ศรีอยุธยา เพราะเคยมาแล้วและเห็นว่าร้านทองอยู่ใกล้กับทางเข้าออกห้าง จึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุ
เมื่อโจรมือใหม่มาเจอกับตำรวจที่ฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ สุดท้ายก็ไม่รอดมือ

สุทธิพร กองสุทธิผล
ไตรรัตน์ มีวงษ์
ประสาน โพธิ์ทอง
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน