ความจริงของคดี 99 ศพ : ทิ้งหมัดเข้ามุม

ความจริงของคดี 99 ศพ กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง สำหรับคดีเลือด 99 ศพ ที่เกิดจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อมีผู้เปิดเผยข้อมูลว่า มีสำนวนส่วนหนึ่งของคดีถูกสั่งให้เป็นสำนวนมุมดำ

หรือสำนวนที่ยุติการไต่สวน เพราะไม่สามารถหาผู้กระทำความผิดได้

โดยที่มีอัยการยอมรับมีประมาณ 20 สำนวนที่ถูกสั่งให้เป็นสำนวนมุมดำไปแล้ว และอธิบายว่าเป็นเหตุการณ์ชุลมุนที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53

ทำให้เกิดคำถามขึ้นมามากมาย เพราะเมื่อย้อนไปในอดีต เหตุการณ์ 10 เม.ย.53 ถือเป็นจุดเริ่มต้นความรุนแรงที่มีผู้เสียชีวิตจากการสั่งการของศอฉ.ในยุครัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ที่ถูกอธิบายอยู่แทบทุกครั้งว่ามีชายชุดดำเข้ามาเกี่ยวข้อง รู้หมดทุกอย่างว่าใครสั่งการ ทำงานอย่างไร

นำมาซึ่งการปฏิบัติการคืนพื้นที่ จนมีผู้เสียชีวิต 99 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน

แล้วมาถึงตอนนี้บอกว่าไม่รู้ใครลงมือ!??

จะให้ทำใจเชื่อได้ก็คงยาก และแน่นอนพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าว หรืออยู่กับสภาพที่ถูกกดขี่ข่มเหง ก็คงจะช้ำในใจในระดับหนึ่ง

แต่คนที่เป็นญาติพี่น้อง ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สูญเสียคนรักในครอบครัวไปจะชอกช้ำขนาดไหน และมีใครไปอธิบายเขาหรือยังว่า ญาติ หรือคนที่รักของคุณนั้นตายฟรี โดยที่รัฐบาลไม่สามารถหาคนผิดมาดำเนินคดีได้

จริงๆ แล้วก็น่าประหลาดแปลกใจ ว่าคดีที่เริ่มมาอยู่ดีๆ มีความคืบหน้ามาเป็นลำดับ

ทำไมจู่ๆ เมื่อเกิดรัฐประหาร มีรัฐบาลจากคสช. คดีก็ดูจะสะดุด เงียบหายไปเฉยๆ

หรือมีความลับดำมืดอะไรที่ไม่สามารถบอกกับสังคมได้!??

ดีที่ยังมีสำนวนการตายอย่างน้อย 17 ศพ ที่ศาลได้ไต่สวนมาแล้ว ส่วนหนึ่งระบุว่ากระสุนสังหารถูกยิงมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่

และมีเรื่องของ 6 ศพวัดปทุมฯ ที่ศาลมีคำสั่งชัดเจน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากแกนนำเลิกชุมนุม เจ้าหน้าที่คุมพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จ

บอกกันชัดๆ ว่าหน่วยไหนอยู่ตรงไหน มีสอบปากคำคนยิงอย่างชัดเจน

เมื่อมันชัดและมีหลักฐานมัดขนาดนี้ จะเป่าให้หาย จะล้มให้ลงก็คงยาก

หรือใครที่เก่งกล้าความความจริง จะลองล้มดู ประชาชนก็จะเฝ้าติดตาม

โดย…รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน