ความอัปยศ
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย… รุก กลางกระดาน
ความอัปยศ – ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลยจริงๆ สำหรับกระแสการล่าชื่อถอดถอนกกต.ที่ปัจจุบันลุกลามบานปลายกันไปทั่วประเทศ
ดูได้จากความเคลื่อนไหวของ กลุ่มนิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ที่แสดงออกอย่างคึกคัก
เชื่อว่ารายชื่อจะได้ทะลุล้านชื่อภายในเร็ววัน
แถมยังสร้างประวัติศาสตร์ไว้อย่างน่าทึ่ง ที่ไม่เพียงคนในประเทศไทยเท่านั้น ที่รู้สึกยี้และอยากถอดถอน
แต่ชื่อเสีย ยังขจรไปไกลถึงต่างประเทศ อย่างที่คนไทยในนิวซีแลนด์ ที่ถูกกกต.วินิจฉัยว่าคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไม่สามารถนำมานับเป็น คะแนนได้
เพียงเพราะความผิดพลาดในการบริหารจัดการ ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปนำบัตรที่อยู่ในคาร์โกการบินไทย
ทิ้งคะแนนบริสุทธิ์ และการใช้ งบประมาณไปอย่างน่าเสียดาย
ถือเป็นผลงานที่บันทึกเอาไว้ในช่วงบั้นปลายชีวิต
และไม่เพียงเท่านั้น การจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมาของกกต. ก็มีปัญหาให้เห็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การเลือกตั้งล่วงหน้า ที่เจ้าหน้าที่หยิบบัตรให้ไม่ตรงเขต
การเลือกตั้งทั่วไป ที่มีข้อพิรุธ ทั้งการนับคะแนน การขานคะแนน หรือ การที่มีบัตรงอกเพิ่มขึ้นมาในหีบ รวมทั้งจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่น่าเป็นไปได้
ตอกย้ำให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะซ้ำรอยปี 2500 ที่เรียกว่าการเลือกตั้งสกปรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
นอกจากนี้กกต. ยังไม่สามารถเป็นหลักในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้
อย่างเรื่องการนับคะแนนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ยังปล่อยให้อึมครึมมานานร่วมสัปดาห์ว่าตกลงแล้วใช้สูตรอะไรคิดคำนวณกันแน่
จะเป็นไปตามที่แหล่งข่าวในกกต.ปล่อยออกมา ว่าเกลี่ยคะแนนให้พรรคเล็ก ที่ได้คะแนนรวมไม่ถึง 7.1 หมื่นคะแนน อันเป็นเกณฑ์ที่จะได้ส.ส. พึงมี จริงหรือไม่
หากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมพรรคที่ได้คะแนนเพียง 3-4 หมื่นทำไมถึงได้ส.ส. 1 คน
และถ้าพูดเรื่องคะแนนเสียงไม่ตกน้ำ แล้วในกรณีพรรคอื่นที่ถูกปรับลด หรือแม้กระทั่งเพื่อไทย ที่ได้ส.ส.เขตมหาศาล แล้วประชาชนที่ตั้งใจเลือกปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยล่ะ คะแนนไปอยู่ไหน
เห็นได้ชัดว่ามีความพิกลพิการของกติกาและการวินิจฉัย
อัปยศกว่ากกต. ก็คงหนีไม่พ้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้นี่แหละ
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย…รุก กลางกระดาน
…อ่าน…