“มันฯ มือเสือ”

เริ่มพบทางไปต่อได้ สำหรับคดีการตาย 99 ศพ ปี 2553

โดยทนายฝ่ายผู้สูญเสียเดินหน้ายื่นหลักฐานใหม่ 3 ชิ้นต่ออัยการสูงสุด

เนื่องจากเห็นว่าคำสั่งศาลฎีกาที่ ให้คดีนับหนึ่งใหม่ และไปสิ้นสุดยัง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีผลผูกพันกับทั้งอัยการสูงสุดและป.ป.ช.

ส่วนการยื่นขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนคดีใหม่ ก็ต้องทำต่อ

สำหรับ 3 หลักฐานใหม่ ประกอบด้วย 1.คำพิพากษาศาลฎีกา 2.สำนวนสอบสวนข้อหาเจตนาฆ่า ซึ่งอัยการสูงสุดเคยมีคำสั่งฟ้องไปแล้ว และ 3.คำสั่งศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ซึ่งชี้ชัดว่าอย่างน้อย 17-18 ราย ตายเพราะถูกกระสุนปืนจากฝั่งเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ กฎหมายยังเปิดช่องให้ญาติคนตายมีสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาเองได้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติที่ประจำการตามจุดต่างๆ ในช่วงเกิดเหตุ หากมีหลักฐานว่ามีส่วนทำให้เสียชีวิต

เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ เราจะได้เห็นอาการของใครบางคนที่ปากกล้า ขาสั่น

ด้านหนึ่งบอกเห็นใจฝ่ายผู้สูญเสีย ที่ต้องการเห็นความชัดเจนในข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรม

แต่อีกด้านกลับบอกว่า ไม่ควรนำเรื่องนี้มาใช้เป็นเครื่องมือหวังผลทางการเมือง เพราะในวันที่มีการ เสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย คนกลุ่มนี้กลับไม่ออกมาคัดค้าน

ตรงนี้ชัดเจนเลยว่า คนพูดจงใจบิดเบือน เพราะตอนที่รัฐบาลเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษฯ คนกลุ่มนี้ หรือพูดตรงๆ ก็คือ นปช.คนเสื้อแดง เขาก็คัดค้านต่อต้านเช่นกัน

จริงอยู่บางพรรคร่วมคัดค้านด้วย แต่ก็คัดค้านเพื่อหวังผลทางการเมืองในการโค่นล้มรัฐบาลพรรคตรงข้าม

เหตุการณ์ผ่านไป 7 ปี มีคนตายไป 99 ศพ แต่ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ลูกเมียเขายังอยู่

ฉะนั้น อย่า“ดีแต่พูด”มั่วๆ ซั่วๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน