“สมิงสามผลัด”

“รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีให้ได้ตาม เป้าหมาย พอขึ้นภาษี (บุหรี่-สุรา) ก็บอกว่ารัฐบาลตูดขาด จริงๆ แล้วการปรับขึ้นภาษีคิดมากี่รัฐบาลแล้ว เคยทำได้มั้ย” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับขึ้นภาษีสุรา บุหรี่ ในระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการที่จ.สุพรรณบุรี

ที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะเกิดกระแสวิจารณ์กันว่ารัฐบาลถังแตกบ้าง ตูดขาดบ้าง กระเป๋าฉีกบ้าง

ทำให้ต้องขึ้นภาษีบาป หวังหาเงินมาอุดส่วนที่ขาดหายไป

จะว่าไปแล้วนี่ไม่ใช่การขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งแรกของรัฐบาลบิ๊กตู่ เพราะเมื่อเดือนก.พ.2559 ก็เพิ่งขึ้นภาษีบุหรี่แบบเต็มเพดาน 90% ไปแล้วครั้งหนึ่ง

มาครั้งนี้ก็มาขึ้นทั้งบุหรี่ทั้งเหล้า อีกครั้ง

มีการคาดกันว่าการปรับขึ้นภาษีบุหรี่เมื่อปี? 59 เพิ่มรายได้ให้รัฐกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

แต่หนนี้ไม่เหมือนกัน เพราะโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นจากเหล้าเบียร์ 5,000 ล้านบาท เครื่องดื่มมีความหวาน 2,500 ล้านบาท ยาสูบ 2,100 ล้านบาท รถยนต์หรู 2,200 ล้านบาท

ย้อนกลับไปเรื่องตูดขาด-ไม่ขาด ก็มีคนสรุปตัวเลขการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลในรอบ 3 ปีแบบคร่าวๆ

ปีงบฯ 2558 รายได้จัดเก็บของ 3 กรมภาษี คือสรรพากร สรรพสามิต และศุลกากร อยู่ที่ 2.28 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.25 แสนล้านบาท

ปีงบฯ 2559 เก็บภาษีได้ 2.38 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 1.24 แสนล้านบาท

ปีงบฯ 2560 ช่วง 10 เดือนแรก จัดเก็บภาษีได้ 1.95 ล้านล้านบาท ยังต่ำกว่าเป้าหมาย 6.66 หมื่นล้านบาท

จนเกิดการวิพากษ์ว่านี่เป็นเหตุผลที่ต้องขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่ เพราะการจัดเก็บภาษี ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ต่ำกว่าเป้าหมายต่อเนื่องมา 3 ปีติดๆ

สุดท้ายก็ต้องกัดฟันขึ้นภาษีบาปหรือสินค้าฟุ่มเฟือยอีกครั้ง

เพราะจะถูกสังคมต่อต้านน้อยที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน