คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ประชาธิปัตย์ – กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 แทนนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ต้องมีอันกระเด็นตกเก้าอี้ไปเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

เพราะไม่ใช่เป็นการแข่งขันกันระหว่างรัฐบาล กับฝ่ายค้าน ตามแบบการเลือกตั้งซ่อมทั่วไปเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมา

แต่กลับเป็นการเผชิญหน้าระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน อย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่เมื่อครั้งเลือกตั้งทั่วไปพ่ายแพ้นายเทพไท ไปเพียงไม่กี่พันคะแนน กับเจ้าของพื้นที่อย่างพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนใครจะได้เป็นส.ส.แทน ก็คงต้องไปลุ้นกันในวันเลือกตั้งซ่อม

แต่สิ่งที่ปรากฏชัดเจนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็คือสถานะของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว

ไม่มีความน่าเกรงขามใดๆ ให้ใครได้เกรงอกเกรงใจ แม้กระทั่งพื้นที่ภาคใต้ที่เปรียบเสมือนของตายของพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ไม่ใช่ของแน่เสียแล้ว

จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าภาวการณ์ เช่นนี้ของพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร!??

หากย้อนเหตุการณ์ก็คงผ่านไปเพียงไม่นาน เอาแค่ช่วงการเลือกตั้งทั่วไป ที่ตอนนั้นมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค

ซึ่งหาเสียงด้วยถ้อยคำหนักแน่นว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ นั่นเอง

แต่สุดท้ายเมื่อผลการเลือกตั้งออกนายอภิสิทธิ์ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และประชาธิปัตย์ก็โดดร่วมกับรัฐบาลสืบทอดอำนาจอย่างหน้าชื่นตาบาน

ได้ตำแหน่งแห่งหนด้วยความเมตตาที่เขาจัดสรรแบ่งเค้กมาให้

เมื่อถึงจังหวะทีเด็ดทีขาดก็แน่นอนอยู่แล้วว่าจะหวังให้พรรคใหญ่อย่างพลังประชารัฐเกรงใจก็คงไม่มี

จะเล่นบทพ่อแง่แม่งอน ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากเขาจะไม่ง้อแล้ว ออกมาก็ไม่มีแนวร่วม ฝ่ายค้านก็ไม่เอา ประชาชนทั่วไปก็รับรู้สภาพ

กลายเป็นโดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิง

สุดท้ายก็ต้องก้มหน้าก้มตารับสภาพที่เกิดจากการกระทำตัวของตัวเอง

เรียกได้ว่าเลือกตั้งซ่อมผลจะเป็นอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ยังคงลุ้นได้อยู่

แต่หากสนามการเมืองในภาพใหญ่แล้วล้มเหลว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน

เพราะทำตัวเองแท้ๆ เชียว

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน