เมื่อศาลโต้ข่าวลือ – เป็นประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับท่าทีของศาลยุติธรรม

เมื่อนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม แจกเอกสารชี้แจงกรณีการประชุมใหญ่ของศาลฎีกา ที่มีจำนวนผู้พิพากษาศาลฎีกา 245 คน เข้าร่วม และเป็นการประชุมลับ

โดยระบุว่ามีเนื้อหาในการประชุมเพียง 2 วาระ

ไม่มีการพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่อย่างใด ดังนั้นเรื่องราวตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชี่ยล จึงไม่เป็นความจริง

เป็นการบิดเบือนและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และทำให้ศาลเป็นคู่กรณีกับฝ่ายต่างๆ

กลายเป็นคำถามว่าแล้วอะไรที่เป็นข่าวลือในสื่อโซเชี่ยล จนโฆษกศาลยุติธรรมออกมาชี้แจงแถลงไขเช่นนี้

ก็พบว่าก่อนหน้านี้มีการอ้างรายงานข่าวที่ประชุมใหญ่ ศาลฎีกา ที่ตั้งคำถามถึงการไม่ให้ประกันตัวแกนนำราษฎร โดยไม่ได้พิจารณาถึงสิทธิการประกันตัว และมีการชี้แจงถึงข้อมูลบางประการ จนกลายเป็นกระแสในโซเชี่ยล

ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นกรณีนี้ยิ่งจำเป็นต้องชี้แจงโดยไว เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญรุนแรงต่อความเชื่อมั่น

เพราะอย่างที่เรารู้กันอยู่ตามหลักรัฐศาสตร์ 101 ว่าประเทศไทย แบ่งอำนาจอธิปไตยเป็น 3 เสาหลัก นั่นก็คือ บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ แยกหน้าที่กันบริหารประเทศ

หากอำนาจบริหารและนิติบัญญัติล่มสลายหรือไม่ได้รับความเชื่อมั่น แน่นอนว่าต้องกระทบกับประเทศ แต่ก็ยังอยู่กันต่อไปได้ ไม่ถึงกับล่มสลายกันในทันที

ดังที่เห็นในปัจจุบันอยู่ว่าอำนาจบริหารและนิติบัญญัติ ของเรานั้นมีศักยภาพและประสิทธิภาพเพียงใด

แต่หากเสาหลักของตุลาการ ที่ดูแลกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ไม่ได้รับความเชื่อมั่น หรือเรียกว่าเมื่อใดที่บ้านเมืองไร้ความยุติธรรม ไร้ขื่อแป บางคนทำผิดได้ไม่ต้องรับผิด ในขณะที่อีกฝ่ายแค่หายใจก็ผิด อย่างนี้ก็อยู่กันยาก

จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจน ว่าไม่มีใบสั่ง ไม่มีใครนอกกระบวนการศาล ที่จะสั่งคดีให้ซ้ายหัน ขวาหันได้

และที่สำคัญเมื่อพูดแล้วย่อมต้องดำเนินการตามที่กล่าวอ้าง ยึดหลักกฎหมายให้ชัดเจน อธิบายให้สังคมเข้าใจได้

แสดงให้เห็นว่ายังมีความ ‘ยุติธรรม’ เป็นเสาหลักค้ำยันประเทศนี้อยู่จริงๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน