กลายเป็นข่าวฮือฮาพาดหัวไม้หนังสือพิมพ์หน้า 1 หลายฉบับ สำหรับกรณีที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า

ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ จากการไลฟ์สดเรื่องวัคซีนโควิด เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2564

เนื่องจากเกิดข้อสงสัยขึ้นมาทันทีว่าเหตุใดการเปิดเผยข้อมูลเรื่องการจัดซื้อวัคซีน ถึงไปผิดมาตรา 112 ได้

จนทำให้คนในสังคมจำนวนไม่น้อยต้องไปค้นหาคลิปดังกล่าวใน ยูทูบ เฟซบุ๊ก เพื่อเปิดฟังซ้ำ และ ส่งต่อๆ กันอีกจำนวนมาก เพื่อตรวจสอบว่าข้อความในคำพูดตรงไหนที่เข้าข่ายจุดกระแสสังคมขึ้นมาอีกรอบ!!

ทั้งนี้ เมื่อไปเปิดฟัง ก็พบว่าเนื้อหาในคลิปดังกล่าวเป็นการเตือนรัฐบาลให้ระมัดระวัง เพราะในช่วงเวลานั้นรัฐบาลเซ็นสัญญากับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้าเพียงบริษัทเดียว

มีการนำงบประมาณไปอุดหนุนช่วยเหลือบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อตั้งโรงงานผลิตวัคซีนในไทย

ด้วยความเป็นห่วงว่าหากแทงม้าตัวเดียวอาจมีปัญหา ทั้งเรื่องคุณภาพของวัคซีน และระยะเวลาการจัดส่ง หากล่าช้า ไม่เป็นไปตามนัด ก็อาจส่งผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้

และเมื่อเวลาผ่านมา ข้อเท็จจริงก็ปรากฏเช่นนั้น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มาไม่ตรงตามความต้องการ หรือจำนวนที่รัฐบาลแถลงไว้กับประชาชน

ซึ่งรัฐบาลเองก็รับทราบดี และไปจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคมาจากประเทศจีน แล้วระดมฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มด่านหน้า

และในเวลาต่อมาก็มีการนำเข้าวัคซีนชนิด mRNA ที่เชื่อมั่นกันว่ามีประสิทธิภาพดีกว่าชนิดอื่นๆ เข้ามาฉีดให้ประชาชน

ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แล้วอะไรที่ไปเข้าข่ายมาตรา 112

แต่เมื่อฟ้องคดีสู่ศาล ก็เป็นเรื่อง ที่ต้องต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป

อย่างไรก็ตาม มีตัวเลขที่น่าสนใจ นั่นก็คือเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรวบรวมผู้ถูกคดี 112 มีมากถึง 1,795 คน

และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งหมดสะท้อนถึงอะไร และจะมีผลอะไรในอนาคต

คงต้องติดตามกันต่อไป

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน