ผ่านไปแล้วสำหรับเทศกาลสงกรานต์ ที่ถือว่าผ่อนคลายมากที่สุดในรอบ 3 ปี
ไม่มีการล็อกดาวน์ ไม่มีการห้ามเดินทาง ถือเป็นโอกาสและจังหวะที่ประชาชนจะได้ผ่อนคลายในระดับหนึ่ง
ซึ่งเมื่อผ่านไปแล้วก็กลับมาทำงานทำการ เผชิญโลกความป็นจริง สู้ชีวิตกันอีกครั้ง

และแน่นอนว่าปัญหาที่รอให้แก้ปัญหาอยู่ล้วนมหึมาจนน่าเป็นห่วงว่าศักยภาพของรัฐบาลจะรับมือเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ที่ต้นเดือนพ.ค.นี้จะเลิกอุดหนุน หรือตรึงราคาเพียงบางส่วน
ส่งผลให้น้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าลิตรละ 4-5 บาท หรือสูงสุดอาจจะ 8 บาท
กระทบต่อค่าการขนส่งสินค้าที่พร้อมจะพาเหรดขึ้นราคาเพิ่มอีกจากเดิมที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้

ปัญหาสินค้าขาดแคลน โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี ที่แม้รัฐบาลจะพูดนักพูดหนาว่ายังไม่ให้ขึ้นราคา แต่เอาเข้าจริงในท้องตลาดกลับพุ่งสูงถึง 3 เท่า
ชาวนาที่ควรจะได้เริ่มทำนาปีในช่วงเดือนพ.ค. ก็ลังเล เก้ๆ กังๆ ว่าจะทำดีไหม ถ้าทำแล้วต้นทุนสูงเกินไปก็เท่ากับเจ๊งตั้งแต่ต้น
และหากไม่ทำนา ไม่ผลิตอาหาร ก็จะกลายส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านความมั่นคงทางอาหารในอนาคต

ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกัน ซึ่งต้องใช้มุมมองที่เข้าใจต่อปัญหา และหาแนวทางรับมืออย่างเป็นรูปธรรม
การสั่งการแบบปากเปล่า พร่ำบอกลูกน้องให้แก้ปัญหา แต่ไม่มีแนวปฏิบัติชัดเจน หรือใช้วิธีเสียงดังเข้าข่ม แก้ปัญหาไม่ได้
จึงไม่แปลกที่ประชาชนมองว่ารัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย มีแต่ปล่อยให้ต้องเผชิญตามยถากรรม

จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับทัศนคติ ทำความเข้าใจกับภาระบทบาทหน้าที่ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
ปล่อยวางเรื่องการเมืองเรื่องของอำนาจ แม้จะไม่สบายใจที่ถูกตอดจนอาจตกเก้าอี้ จนถึงอาจไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ สมัยหน้า ดังที่ออกอาการหงุดหงิดฉุกเฉียวอยู่บ่อยครั้ง
ก็ควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องบ้านเมืองก่อน
ไม่เช่นนั้นก็สุ่มเสี่ยงจะถูกมองว่าไร้ประโยชน์ ซึ่งคงไม่ดีสักเท่าใด!!

รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน