ถกเถียงกันมาพักใหญ่เกี่ยวกับสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ว่าจะใช้บัตรคะแนนเลือกพรรคเป็นตัวตั้งแล้วหารด้วย 100 หรือ 500

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.ป.พรรคการเมือง มีมติโหวตสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์

ให้ใช้สูตรหาร 100 จำนวน 32 เสียง และสูตรหาร 500 จำนวน 11 เสียง

เท่ากับว่าที่ประชุม กมธ.ฯ เห็นชอบให้การคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หารด้วย 100 และไม่มีการคำนวณส.ส.พึงมี

งานนี้มีคนชื่นชมสปิริตพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ก้าวไกล และชาติไทยพัฒนา ที่ยืนหยัดหลักการตามที่พรรคตนเองเสนอในวาระแรก ด้วยการลงมติเห็นด้วยกับสูตรหาร 100

ทั้งที่รู้ว่าจะทำให้พรรคตนเองเสียเปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทั้งที่รู้ว่า นอกจากการกลับมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สูตรหาร 100 ยังเพิ่มความได้เปรียบให้พรรคเพื่อไทย ที่มีโอกาสชนะทั้งแบบเขตและได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมาบวกเพิ่ม อาจถึงขั้นแลนด์สไลด์

ขั้นตอนจากนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธาน กมธ.ฯ เผยว่า จะนำร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับมาทบทวนเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้งและให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจง

จากนั้นจะนำร่างเสนอต่อประธานรัฐสภาวันที่ 24 พ.ค. ส่วนจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภาเมื่อใด ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา แต่น่าจะบรรจุโดยเร็วเพราะเป็นกฎหมายสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ถึงเสียงโหวตในกมธ.จะห่างกันเกือบ 3 เท่าตัว แต่นอกกมธ.ก็ยังมีส.ว.สายตรงผู้มีอำนาจ อ้างว่าสูตรหาร 100 ขัดต่อเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญที่ต้องการให้พรรคเล็กแจ้งเกิดได้

พร้อมยืนยันเมื่อเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาวาระ 2 และ 3 ยังมีโอกาสพลิกกลับไปใช้สูตรหาร 500 ได้

ถึงโอกาสสำเร็จจะน้อย แต่ก็มองได้ว่าการที่ส.ว.สายตรงผู้มีอำนาจเดินเกมนี้ ถ้าเกิดฟลุกสำเร็จขึ้นมา นอกจากจะสกัดแผนเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้แล้ว

อีกด้านก็ยังได้ใจพรรคเล็กกลับคืนมา ในช่วงที่นายกฯ กำลังมีปัญหาเสียงโหวตหนุนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้อีกด้วย

มันฯ มือเสือ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน