กรมการแพทย์ ติดตามผลกระทบหลังปลดล็อกกัญชาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยนำบทเรียนจากการปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่มีผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินจากการใช้กัญชาแบบไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกขนาด
จากข้อมูลระหว่างวันที่ 13-21 มิ.ย. ใน 3 โรงพยาบาลในสังกัด คือ ร.พ.นพรัตนราชธานี เลิดสิน และราชวิถี พบว่ามีผู้ป่วยทั้งสิ้น รวม 9 ราย
โดยวันที่ 16 มิ.ย. พบสูงสุด 4 ราย อยู่ที่ ร.พ.ราชวิถี 2 ราย และร.พ.นพรัตนราชธานี 2 ราย
อาการที่พบมี 3 ระบบ คือ
ระบบหลอดเลือดและหัวใจ หลอดเลือดสมอง มีอาการหัวใจเต้นเร็ว ความดันขึ้นลงๆ ชีพจรเต้นไม่เป็นจังหวะ
ระบบประสาท ผู้ป่วยมีอาการวิงเวียน มึนศีรษะ มึนงง
นอกจากนี้ ยังพบประปรายในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน
Advertisement
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มที่ใช้ทางการแพทย์ได้รับข้อมูลการใช้ที่ถูกต้อง ยังไม่พบปัญหา
แต่จะพบมากในกลุ่มที่สนใจทดลอง ทั้งการรับประทานจากอาหารและสันทนาการ
สำหรับการพบในอาหารนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผู้ประกอบอาหารหวังเพิ่มรสชาติ จึงใส่กัญชาเข้าไป ทำให้ผู้บริโภคได้รับกัญชาโดยไม่รู้ตัว
จากการซักประวัติของผู้เข้ารับการรักษา พบว่ารับประทานอาหารเช่น ส้มตำหน่อไม้ กาแฟผสมกัญชาผง คุกกี้กัญชา เป็นต้น
นพ.มนัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ฝากเตือนเรื่องการเข้าถึงกัญชาว่าขอให้ประชาชนระมัดระวัง
กลุ่มที่ไม่ควรบริโภคเลยคือ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร
รวมถึงผู้ที่ต้องขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท และผู้ที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร
ร้านค้าร้านอาหารขอให้พึงระวังและติดป้ายแจ้งลูกค้าถึงส่วนผสมของเมนูกัญชาด้วย
เพื่อความปลอดภัยและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ!!
เภรี กุลาธรรม