กลายเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงอย่างยิ่ง สำหรับแอ๊กชั่นของเจ้าหน้าที่ต่อกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรต้านเอเปค ที่เคลื่อนขบวนโดยมีจุดประสงค์จะยื่นหนังสือถึงบรรดาผู้นำโลก เพื่อคัดค้านนโยบาย BCG
เมื่อการเคลื่อนขบวนมาถึงแค่ถนนดินสอ ก็ถูกด่านของตำรวจชุดควบคุมฝูงชนสกัด แล้วแทนที่จะใช้การเจรจาพูดคุย ทำความเข้าใจหรือข้อตกลง
กลับใช้วิธีสาดกระสุนยาง และแก๊สน้ำตาเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง
มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก 1 ในนั้นเป็นชายที่ถูกระบุว่าโดนกระสุนยางเข้าที่เบ้าตา
มีสื่อมวลชน ที่แม้จะแสดงบัตรประจำตัวถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย มีช่างภาพรอยเตอร์ถูกขวดที่ปามาจากแนวโล่คฝ.กระแทกเข้าที่ใบหน้าบาดเจ็บ
หลังจากเคลียร์พื้นที่ พฐ.เข้าตรวจสอบยึดของกลางการกระทำผิดของม็อบ ยึดหน้ากากตัวตลก พลุควัน หุ่นฟาง และหุ่นผ้า
ไม่มีอาวุธร้ายแรงแม้สักอย่างเดียว!??
กลายเป็นคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าหน้าที่ถึงได้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนผู้ชุมนุมถึงเพียงนี้
Advertisement
แน่นอนว่าย่อมเกิดการปะทะ ที่ม็อบใช้เศษไม้ ขวดน้ำ ก้อนหินที่หาได้จากที่ดังกล่าวมาตอบโต้
แต่มันสมเหตุสมผลกับความรุนแรงที่ใช้แล้วหรือไม่
ที่สำคัญจุดปะทะห่างไกลจากสถานที่ชุมนุมนับ 10 กิโลเมตร มันมีอะไรที่น่าหวาดกลัวนักหนา ถึงต้องปราบปรามให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดถึงเพียงนั้น
หรือเป็นนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้ใช้ความรุนแรง เด็ดขาดต่อประชาชน
หวังแสดงศักยภาพในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ที่ผู้นำโลกอยู่ในประเทศไทย มีสื่อมวลชนต่างชาติจำนวนมากคอยจับตา
ก็สุดที่จะคาดเดาได้จริงๆ!!!
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยพูดถึงเรื่องการฟังเสียงคนรุ่นใหม่ ส่งต่อการทำงานจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงสยามเมืองยิ้ม ที่พยายามพรีเซนต์ต่อนานาชาติ
พูดจาสวยหรูดูน่ารับฟัง
แต่เมื่อลงมือทำกันจริงๆ ทุกอย่างสูญสลายไปกับไม้กระบอง กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ที่กระทำต่อผู้ชุมนุมไปแล้วอย่างหมดสิ้น
ไม่เสียดายบ้างเลยหรือไร!!!
รุก กลางกระดาน