การประชุมเอเปคเสร็จสิ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากนี้ไปประเมินกันว่าการเมืองไทยจะกลับมาเคลื่อนไหวร้อนแรง ไม่ว่าประเด็นเรื่องของการยุบสภา การย้ายพรรคของนักการเมืองและส.ส. เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่การเลือกตั้ง

และที่คนในสังคมเฝ้ามองมากที่สุดก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตัดสินใจอย่างไรกับอนาคตทางการเมืองของตนเอง อยู่ต่อกับพรรคพลังประชารัฐ หรือย้ายไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ เคยพูดไว้ ทุกอย่างจะชัดเจนหลังจบเอเปค

หลายคนมองว่า การตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าออกทางไหน ย่อมมีผลต่อโฉมหน้าการเมืองไทยในภาพรวม โดยเฉพาะต่อพลังประชารัฐ พรรคแกนหลักรัฐบาลปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยพูดกับพรรคเล็ก ว่า หลังเอเปค เป็นช่วงเวลาเหมาะสุดที่จะยุบสภา “พอจบเอเปคแล้ว รัฐบาลก็ว่างแล้ว ถ้าจะยุบก็ยุบได้ตอนนั้น”

อย่างไรก็ตามการยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี คำพูดของพล.อ.ประวิตร ก็พูดไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีข่าวพล.อ.ประยุทธ์จะตีจากไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ

สัมพันธ์พี่น้อง 2 ป. อาจจะระหองระแหงกันอยู่บ้าง แต่ก็พยายามประคับประคองกันมา กระทั่งเกิดคดีวาระนายกฯ 8 ปี พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกฯ 38 วัน

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อ สัมพันธ์ 2 ป.ก็ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่บัดนั้น และน่าจะเป็นต้นตอที่มาความคิดพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะตีจากพี่ใหญ่ ไปอยู่กับนั่งร้านใหม่ รวมไทยสร้างชาติ








Advertisement

ฉะนั้น ที่เคยคาดการณ์กันว่าจบเอเปคไม่นานน่าจะยุบสภา อาจไม่ใช่เช่นนั้นแล้ว

ตอนนี้ประเด็นอยู่ที่ความชัดเจนว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อไหร่

จากนั้นก็ต้องมาคิดคำนวณว่า แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการตระเตรียมความพร้อมทำศึกเลือกตั้งเพื่อนำพล.อ.ประยุทธ์ กลับสู่อำนาจอีกครั้ง

ถ้ายังไม่พร้อม นายกฯ ก็ยังไม่ยุบสภา บางคนคาดการณ์ไว้ภายใต้เงื่อนไขนี้ นายกฯ อาจลากไปถึงต้นเดือนมี.ค. ก่อนสภาครบวาระวันที่ 23 แล้วค่อยประกาศยุบสภา อยู่รักษาการไปอีก 60 วัน

ช่วงชิงความได้เปรียบจนถึงที่สุด ในการทำศึกเดิมพันใหญ่ครั้งสุดท้าย

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน