น่าจะทยอยเดินทางกลับประเทศไทยกันมาหมดแล้ว สำหรับ 6 กกต.ที่ออนทัวร์ไปดูการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั่วโลก
ซึ่งหลังจากได้พักผ่อนหายเหนื่อยความเมื่อยล้าจากการตรำงานหนัก และนั่งเครื่องเป็นเวลานาน
ก็ควรถึงเวลาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่าการไปปฏิบัติภารกิจทั้งหมดนั้น ได้ประโยชน์ใดๆ กลับมา
เพราะต้องไม่ลืมว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้ออกไปในการออนทัวร์ครั้งนี้ มาจากภาษีของประชาชน
เมื่อใช้จ่ายออกไปก็ควรจะมีผลลัพธ์
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือขนหีบบัตรลงคะแนน หรือได้พบปัจจัยอะไรที่เป็นปัญหาขนาดที่กกต.ใหญ่ของไทยต้องเดินทางไปอำนวยการด้วยตัวเอง ละทิ้งพื้นที่ประเทศไทยที่เป็นเขตเลือกตั้งใหญ่ที่สุด
ก็ต้องชี้แจงออกมาให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตที่น่าสนใจ เพราะเมื่อดูสถิติ จำนวนคนไทยในต่างประเทศของกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ
Advertisement
ในปี 2565 มีคนไทยในต่างประเทศจำนวน 1,385,157 คน
จำนวนนี้แบ่งเป็นอยู่ในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ 570,938 คน เอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 477,016 คน ยุโรป 270,117 คน เอเชียใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง 67,626 คน
แต่ในการดูงานที่พบว่า 6 กกต.เดินทางไปทั่วโลกนั้น ไม่มีทวีปเอเชีย ที่มีคนไทยถึง 4 แสนคน แต่เลือกไปแอฟริกาที่มีคนหลักหมื่น
ไม่รู้จริงๆ ว่าเอาปัจจัยอะไรมาตัดสินใจ!??
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเห็นตัวเลขผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เพียง 115,139 คน หรือคิดเป็นไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยในต่างประเทศทั้งหมด
ก็ยิ่งกังขาว่าที่บอกให้ความสำคัญ เอาจริงเอาจังนั้น ในทางปฏิบัติแล้วเป็นอย่างไร ได้ประชาสัมพันธ์ หรือกระตุ้นให้คนมาลงทะเบียนหรือไม่
อะไรคือสิ่งที่บ่งชี้ผลงาน!??
และแน่นอนว่าหากกกต.ทุ่มเทตัวเองเพื่อดูแลการเลือกตั้งของผู้ลงคะแนน 1.1 แสนคนขนาดนี้ การลงคะแนนในประเทศที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 52 ล้านคน ที่มากขึ้น 500 เท่าเช่นนี้
ก็หวังว่ากกต.จะขยันขันแข็งเพิ่มมากกว่าที่ไปทัวร์นอกสัก 500 เท่า
ไม่รู้จะหวังมากไปหรือไม่!??
รุก กลางกระดาน