ตรุษจีนถือเป็นเทศกาลที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากปีใหม่และสงกรานต์

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้

ระบุผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมาก 35.4% ตอบว่าปีนี้คึกคักกว่าปีก่อน ผู้ตอบ 55.7% บอกมีการวางแผนท่องเที่ยวตรุษจีน และอีก 44.3% ไม่มีแผนไปเที่ยว

แผนการท่องเที่ยวของคนเหล่านี้มีทั้งในและต่างประเทศ ต่างประเทศที่นิยมสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลี และฮ่องกง

ส่วนแผนการใช้จ่ายเงินช่วงตรุษจีนนั้น ผู้ตอบส่วนใหญ่ 40.3% ตอบว่าจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ 33.7% ตอบว่าใช้จ่ายลดลง และ 26% ตอบว่าเท่าเดิม

ผู้ที่ตอบว่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ราคาสินค้าแพงขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้น

นายธนวรรธน์กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนเท่ากับช่วงก่อนโควิด แต่ก็เริ่มวางแผนเที่ยว และใช้จ่ายมากขึ้น

ดังนั้น ตรุษจีนปีนี้จะคึกคักกว่าปีก่อน คาดว่าจะมีเงินสะพัดในระบบ 49,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.1% และขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 11 ปี








Advertisement

นอกจากนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทยช่วงตรุษจีนมากขึ้นประมาณ 8 แสน-1 ล้านคน ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาเติมในระบบเศรษฐกิจเพิ่มอีก 5 พันล้าน-1 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเม็ดเงินสะพัดทั้งสิ้น 5.5-6 หมื่นล้านบาท

หากมามากกว่านี้ เม็ดเงินอาจจะสะพัดสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท

แหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่ายนั้น 63.8% มาจากเงินเดือน, 21.4% เงินออม, 3.8% เงินโบนัสและรายได้พิเศษ, 3.4% เงินช่วยเหลือจากภาครัฐ และ 3.1% อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความกังวลว่าราคาสินค้าจำเป็นจะปรับราคาเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวจะแพงขึ้น และอาจเกิดอัคคีภัย

ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ออกมาตรการเข้มงวดในการป้องกันอาชญากรรมและอุบัติภัยต่างๆ ตั้งแต่วันจ่าย วันไหว้ ยันวันเที่ยว

พร้อมเตือนให้ระวังภัยจากโจรออนไลน์รูปแบบต่างๆ ด้วย!!

เภรี กุลาธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน