“สิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลให้ความมั่นใจในเรื่องของเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจดี ไม่ว่าเรื่องการท่องเที่ยวและอื่นๆ ถ้าเราทำได้ดี ผมเชื่อว่าความสงบสุข สันติสุขก็จะเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่คือจุดประสงค์ใหญ่ในการลงพื้นที่”

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจุดมุ่งหมายการนำคณะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ที่เน้นเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นประเด็นหลัก ไม่เน้นเรื่องปัญหาความมั่นคง

นอกเหนือจากพบปะคณะกรรมการอิสลาม ผู้นำท้องถิ่นและประชาชน นายกฯ ยังได้เยี่ยมชมวิถีชุมชนพื้นบ้าน แหล่งค้าขาย แหล่งวัฒนธรรมประเพณีอันหลากหลาย และสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของแต่จังหวัด

อาทิ ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ ชุมชนจีนโบราณย่านเมืองเก่าปัตตานี ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งกำลังมีงานมหาสมโภชประจำปี อุทยานการเรียนรู้ยะลา สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง หรือสวนหมื่นบุปผา สกายวอล์กอัยเยอร์เวง เป็นต้น

ส่วนที่ จ.นราธิวาส สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน และพบปะคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด

ตบท้ายด้วยการเป็นประธานประชุมหารือยกระดับการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

“รัฐบาลจะส่งเสริมวัฒนธรรม ศาสนา ประเพณี และการเรียนรู้ของประชาชนในพื้นที่ ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติผ่านวัฒนธรรมสังคมที่หลากหลาย เพราะสันติภาพนำมาซึ่งความมั่งคั่งของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชน” นายกฯ ระบุ

หลังกลับจาก 3 จังหวัดใต้ วันที่ 2 มี.ค. นายกฯ มีกำหนดลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด จากนั้น 4-14 มี.ค. เดินทางเข้าร่วมประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย ต่อด้วยเยือนฝรั่งเศส และเยอรมนี

ท่ามกลางกระแสวาทกรรมปลุกปั่น ประเทศไทยมีนายกฯ 3 คน นายเศรษฐา นอกจากไม่โกรธ ไม่น้อยใจ ยังไม่ให้ความสนใจอีกด้วย

ยังคงลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนทุกภาคทั่วประเทศ รวมถึงกำหนดเดินทางเยือนต่างประเทศ ที่คิวแน่นพอกับในประเทศ

พิสูจน์ความเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียว ด้วยการทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ตามที่ได้ประกาศไว้ในวันเข้ารับตำแหน่ง

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน