ทิ้งหมัดเข้ามุม - พลทหารตายในค่าย ข้อเท็จจริงต้องเคลียร์

อีกครั้งที่พลทหารกองประจำการ เสียชีวิตผิดธรรมชาติในหน่วย

เมื่อ น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคก้าวไกลโพสต์เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ภาพอดีตผู้ช่วย สส.ผูกคอเสียชีวิต พร้อมข้อความในแช็ตระบายความในใจว่า เครียด ต้องไปตัดหญ้า กวาดบ้านผู้บังคับบัญชา ตอนดึกเพื่อนนั่งดูดกัญชา นอนแทบไม่ได้

กองทัพบกแถลงสั้นๆ ระบุตรวจสอบพบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตคือพลทหารคมทัช พันฤทธิ ตำแหน่งพลลูกมือ สังกัดกองร้อยบริการที่ 3 กองพันบริการ กองบริการ กรมการทหารช่าง

ช่วยราชการปฏิบัติงานที่โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ “โยธินวิทยา” ค่ายภาณุรังษี อ.เมือง จ.ราชบุรี

สอบถามญาติและเพื่อนพลทหาร ชั้นต้นทราบว่า “สาเหตุจูงใจการก่อเหตุครั้งนี้ เกิดจากปัญหาส่วนตัวกับแฟน”

หลังเกิดเหตุ หน่วยต้นสังกัดแจ้ง สภ.เมืองราชบุรี ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ พบว่าเสียชีวิตด้วยการผูกคอตายในห้องน้ำของโรงเรียนดังกล่าว

ดูเป็นการแถลงที่ไม่ค่อยรู้ทุกข์รู้ร้อนและแสดงความรับผิดชอบน้อยเกินไปหน่อย

ทำให้สังคมออนไลน์มีปฏิกิริยาต่อกองทัพ

ยังดีที่ได้นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ในช่วงเช้าว่าได้พูดคุยกับ สส.พรรคก้าวไกลแล้ว ซึ่งก็รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นโรคซึมเศร้าและอาจจะขาดยาด้วย

ส่วนปัจจัยอื่นนั้นได้สั่งการให้ต้นสังกัดสอบสวนอยู่ หากเป็นบรรยากาศที่ไม่ดีจริง จะได้ถือโอกาสปรับปรุง แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ต้องแยกแยะ

ทำให้บรรยากาศคลี่คลายลงได้

ขณะเดียวกัน น.ส.ธิษะณาก็ยื่นร้อง กมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงใน 3 ประเด็น

กองทัพบกและกระบวนการที่เกี่ยวข้องต้องแสดงความจริงใจและความโปร่งใส เปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อสาธารณชน หรืออย่างน้อยที่สุดต่อคณะกรรมาธิการ

ผู้บังคับบัญชาต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลที่อาจเกี่ยวเนื่องกับมูลเหตุจูงใจการเสียชีวิต

รวมถึงต้องมีมาตรการป้องกันแก้ไขรักษาอาการสภาวะและโรคทางจิตเวช ที่เกิดจากการฝึกฝน และการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลอย่างครอบคลุมและทั่วถึง มีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

เรื่องนี้ต้องรีบทำให้เกิดความกระจ่างโดยเร็ว