ผู้ว่าฯโคราชยัน เดินหน้าฟ้องคดี ผิด‘พรบ.คอมพ์’

ชาวโคราชนับพันแห่ดู ‘เรนนี่-บ๊วย-เจมส์’ 3 พิธีกร ช่องส่องผี ขอขมาย่าโม ปลัดทองคำ และน.ส.บุญเหลือที่วัดศาลาลอยและที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หลังจากพาดพิงในรายการว่าน.ส.บุญเหลือ เป็นเมียพระยาปลัดทองคำ ไม่ใช่ลูกเลี้ยงตามที่เขียนในประวัติ ศาสตร์

ขณะที่ชาวโคราชแห่รอดูแน่น แต่เหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุรุนแรง ด้านบ๊วย-เชษฐวุฒิ เตรียมบริจาค 1.8 ล้านบาทสร้างห้องแรงดันลบ ช่วยโควิด-19 ขณะที่ผวจ.โคราชระบุ การขอขมาเป็นคนละเรื่องกับคดีความที่ต้องเดินหน้าตามกฎหมาย

วันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พิธีกรช่องส่องผี ได้จัดรายการในทำนองบิดเบือนประวัติศาสตร์ ก้าวล่วงท้าวสุรนารี ระบุว่า น.ส.บุญเหลือที่เป็นลูกเลี้ยงของพระยาปลัดทองคำ และท้าวสุรนารี ที่แท้เป็นเมียคนที่ 2 ของพระยาปลัดทองคำ ส่งผลให้ชาวจ.นคร ราชสีมาไม่พอใจ พร้อมเรียกร้องให้มาขอขมา โดยกำหนดจะเดินทางมาขอขมาในวันนี้

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ประสานกับตำรวจนครราชสีมา ตั้งการ์ดสูงไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย คาดว่าไม่น่ามีความน่ากังวล เนื่องด้วยชาวโคราชมีความโอบอ้อมอารี แม้จะมีการแสดงออกถึงความไม่พอใจบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรง

ซึ่งงานขอขมาท้าวสุรนารีในวันนี้ก็เป็นการเรียกร้องจากชาวโคราชที่อยากจะให้ทาง 3 พิธีกร ‘ช่อง ส่องผี’ ออกมาสำนึกผิดขอขมารับผิดชอบถึงประเพณีไทย แต่ในส่วนของคดีความยังคงต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งทางผู้การตำรวจก็บอกว่าอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนพยานต่างๆ

ต่อมาเวลา 14.00 น ที่วัดศาลาลอย นายวิเชียร นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนร่วมเป็นสักขีพยานการประกอบพิธีขอขมาท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ

โดยมีพล.ต.ต.สุจินต์ นิจพาณิชย์ ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน (อปพร.) กว่า 200 นาย รักษาความสงบเรียบร้อย โดยนำแผงเหล็กมาวางกั้นที่บริเวณทางเข้าอุโบสถ์หลังเก่าพร้อมกางเต็นท์และ จัดเก้าอี้ให้สักขีพยานและประชาชนมาปักหลักจำนวนหลายร้อยคน








Advertisement

ขมาย่าโม – ‘บ๊วย’ เชษฐวุฒิ วัชรคุณ ‘เรนนี่’ น.ส.สุระประภา คำขจร และ ‘เจมส์’ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทีวีโชติ 3 พิธีกรรายการช่อง ส่องผี ทำพิธีขอขมาย่าโมและย่าบุญเหลือ ที่ลานย่าโม อ.เมือง จ.นคร ราชสีมา เมื่อ 19 ก.ค.

 

ต่อมาเวลา 14.10 น. พิธีกรช่องส่องผี มาถึงวัดศาลาลอย ประกอบด้วยนายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือบ๊วย น.ส.สุระประภา คำขจร หรือเรนนี่ และนายศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ หรือเจมส์ เดินทางมาท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเดินประกบตามอย่างใกล้ชิด

จากนั้นพราหมณ์ในพิธีเป็นผู้นำประกอบพิธีแบบพราหมณ์โดยใช้เครื่องบวงสรวงชุดใหญ่ ประกอบด้วยบายศรีหลัก 2 ต้น 5 ชั้น บายศรีตอ บายศรีเทพ บายศรีพรหมและบายศรีปากชาม พร้อมอาหารคาวหวาน หัวหมู เป็ด ไก่ ปู ปลา กุ้ง ขนมทอง ขนมหวาน 9 อย่าง ผลไม้ 9 อย่าง น้ำจัณฑ์, เหล้า ยา บุหรี่และพานขอขมา 3 พาน

พราหมณ์กล่าวนำตั้งนะโม 3 จบและภาษาบาลี อุกาสะ อัจจะโยโนภันเต อัจจะขมา ยะถาพาเล ยะถามูละเห ยะถาอะกุศะเล เยมะยัง กะรัมหา เอวังภัณเต อัจจะโยโน ปฏิคัณหะถะ อายะติง สังวะเรยยามะ และให้ เรนนี่ เป็นคนกล่าวนำผ่านเครื่องขยายเสียงด้วยภาษาท้องถิ่นและขานชื่อตัวเองว่า รายการช่องส่องผีและสมาชิกครอบครัวช่องส่องผี

พวกเราทั้งหมดขอเป็นตัวแทนครอบครัวช่องส่องผีเดินทางมา เพื่อกราบขอขมาดวงทิพย์ พระยาปลัดทองคำ ดวงทิพย์ท่านท้าวสุรนารี และดวงทิพย์คุณย่าบุญเหลือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกดวงจิตที่สถิต ณ สถานที่แห่งนี้ ต่อหน้าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา

ข้าพเจ้าในนามรายการช่องส่องผี ยอมรับผิดในความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากประวัติศาสตร์ บัดนี้ข้าพเจ้าเข้าใจแล้ว ข้าพเจ้าต้องกราบขอขมาโทษที่ได้เผยแพร่รายการช่องส่องผีเกี่ยวกับประวัติท่านพระยาปลัดทองคำ ท่านท้าวสุรนารี และคุณย่า บุญเหลือ ที่สร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา

ได้โปรดรับทราบและเป็นพยานว่า ข้าพเจ้าเหล่าพิธีกรและทีมงานรายการช่องส่องผี มีความสำนึกผิด พร้อมนี้ได้จัดเครื่องบวงสรวงสักการะ อันเป็นมงคลทั้งหลายทั้งปวงนี้ถวายแด่ดวงทิพย์ท่านทั้งสาม ขอให้ดวงทิพย์ของท่านทั้งสามโปรดยกโทษให้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าและทีมงานช่องส่องผี ณ บัดนี้ เทอญ และได้กราบไหว้สักการะและวางเครื่องเซ่นไหว้ต่อหน้ารูปหล่อปลัดทองคำ ท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ ก่อนจะเดินทางไปขอขมาที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะกล่าวขอขมา เรนนี่ ได้กล่าวชื่อจังหวัดผิดจากจังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ประชาชนที่มาเฝ้าดูโห่ร้อง จนเรนนี่ต้องกล่าวใหม่อีกครั้ง จนเป็นที่พอใจ

จากนั้นคณะของพิธีกรช่องส่องผี พร้อมด้วยนายวิเชียร เดินทางไปยังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อประกอบพิธีบวงสรวงขอขมาเช่นเดียวกัน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองนครราชสีมา, สารวัตรทหารจากค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2,อส.และอปพร.กว่า 150 นาย

รวมทั้งกองทัพสื่อมวลชนจากทุกสาขา, ประชาชนชาวจ.นครราชสีมา และแฟนคลับสมาชิกรายการช่องส่องผีกว่า 2,000 คน มาร่วมและสังเกตการณ์ พร้อมกล่าวคำขอขมาต่อท้าวสุรนารี

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงขอขมา นายเชษฐวุฒิประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง บริจาคเงิน 1.8 ล้านบาท เพื่อจัดสร้างห้องความดันลบสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 แก่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

โดยเงินที่บริจาคได้มาจากประชาชนที่บริจาคให้กับรายการช่องส่องผีและรายได้ของรายการ ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนำตัว 3 พิธีกรรายการช่องส่องผีขึ้นรถตู้สีดำออกจากบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีออกไปทันที

โดยบรรยากาศการบวงสรวงขอขมาที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี มีชาวบ้านบางคนที่มีอารมณ์โกรธเคืองพิธีกรทั้งสามคนได้ตะโกนต่อว่า 3 พิธีกร แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่กันตัวออกไปจากบริเวณประกอบพิธี และก่อนที่สามพิธีกรจะเดินทางกลับขึ้นรถตู้ก็กรูและผลักดันเพื่อเข้าประชิดตัวและเคาะรถตู้ของสามพิธีกรเล็กน้อยแต่เหตุการณ์ก็ผ่านพ้นโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน