ฝ่าฝนทะลัก‘อนุสาวรีย์ชัย-อโศก’
บางนา-รังสิต-นนท์-สาย4ก็พรึบ
ม็อบหยุดไม่อยู่เบิ้มๆทั่วปท.25จว.
กระหึ่ม‘ตู่’ออกไป-จี้ปล่อยแกนนำ

ม็อบเบ่งบานพร้อมกัน 25 จังหวัดทั่วประเทศ กทม.ชุมนุม เบิ้มๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใจกลางเมืองหลวง คู่ขนานถนนอโศกแยกบางนา รอบกรุงก็มากันพรึบทั้งรังสิต-นนทบุรี-สาย 4 ตะโกนประยุทธ์ออกไปกระหึ่ม พร้อมเรียกร้องปล่อยตัวผู้ชุมนุม ที่ถูกจับ หลายฝ่ายร่วมประณามรัฐบาล ใช้ความรุนแรงสลายเยาวชน จำกัดสิทธิเสรีภาพการชุมนุม บ.ก.ลายจุดชี้การชุมนุมขณะนี้คือ “บางกอกโมเดล” กอร.ฉ.แจงปฏิบัติการของตำรวจยึดหลักกฎหมายและสากล เล็งเอาผิดผู้ส่งต่อเฟกนิวส์ นายกฯ สั่งจับตาผู้ไม่หวังดี กลุ่มเยาวชนปลดแอก-แนวร่วม มธ. แจ้งเพจใหม่หลังมีข่าวกระทรวงดิจิทัลฯ อาจสั่งปิด

นายกฯสั่งจับตาผู้ไม่หวังดี

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเหตุการณ์ชุมนุมในแต่ละสถานที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดว่า การเรียกร้องเป็นสิทธิเสรีภาพที่พึงกระทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีย้ำให้เจ้าหน้าที่รัฐคอยเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีที่อาจอาศัยการชุมนุมที่กระจายตัวนั้นสร้างสถานการณ์รุนแรงเพื่อผลประโยชน์ทาง การเมือง

“รัฐบาลขอย้ำว่าพร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนทุกฝ่าย และรัฐบาลยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่ให้พี่น้องประชาชนแต่ละกลุ่มในทุกพื้นที่ นอกจากการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบสองแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลพยายามแก้ไขและเร่งออกมาตรการทางนโยบาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม จึงขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและติดตามข่าวสารจากรัฐบาลอย่างใกล้ชิดใน ทุกช่องทาง” นายอนุชากล่าว

กอร.ฉ.แจงยึดหลักตร.สากล

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) โดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความคืบหน้าประจำวันการปฏิบัติงานของศูนย์ กอร.ฉ. พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า กอร.ฉ. ขอย้ำว่าการบังคับใช้กฎหมายในช่วงเวลานี้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นไปตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ก่อให้เกิดความร้ายแรงใดๆ ทั้งสิ้น หากฝ่าฝืน กอร.ฉ. จำเป็นต้องทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติการของตำรวจดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมายตามหลักสากลที่ทั่วโลกยอมรับ โดยมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก

พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวต่อว่าเราอยู่ในช่วงบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษ ต่างจากการใช้กฎหมายทั่วไป การดำเนินการใดๆ ยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก ตามหลักสากล ไม่มีการกระทำที่รุนแรงหรือเกินเลยกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่มีผู้เรียกร้องให้ตำรวจหยุดดำเนินการกับผู้กระทำผิดที่เป็นเด็ก และเยาวชนนั้น เรื่องทางคดี บช.น. จะชี้แจงต่อไป

เล็งเอาผิดผู้ส่งต่อเฟกนิวส์

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ แถลงเกี่ยวกับ ผู้จงใจปล่อยเฟกนิวส์ 2 กรณี ว่า ตามที่ปรากฏเนื้อหาคำสั่งประกาศของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงฉบับที่ 6/2563 เรื่องกำหนดสถานที่ควบคุมเพิ่มเติม ลงวันที่ 17 ต.ค. 2563 และมีหนังสือสีแดงเขียนว่าโมฆะ ข้อเท็จจริง ดังกล่าวมีการบิดเบือนเรื่องของปี พ.ศ. ที่ประกาศ ซึ่งเป็นปี พ.ศ.2562 โดยประกาศฉบับจริงได้ประกาศลงเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา มีวันเดือนปีที่ถูกต้อง ผู้กระทำมีเจตนาบิดเบือนให้ผู้อ่านหรือผู้รับข้อมูลเข้าใจว่า ประกาศดังกล่าวเป็นโมฆะ ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท รวมทั้งยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งนี้ขอความร่วมมืออย่าส่งหรือเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ เพราะ ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลต่อ อาจต้องรับโทษด้วย ส่วนกรณีมีผู้ส่งต่อภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก้มหน้าทำท่าฉีดสเปรย์สี คำว่า “ภาษีกู” และโพสต์ข้อความว่าตำรวจจอดรถและนำกระป๋องสีพ่นกลางถนน ห้าแยกลาดพร้าว ข้อเท็จจริงคือหลังจากเลิกการชุมนุม ตำรวจเข้าตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่ จนพบข้อความที่ไม่เหมาะสมบนพื้นถนนจึงก้มถ่ายรูปเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา การกระทำในลักษณะนี้มีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และยังฝ่าฝืน พ.ร.ก.ร้ายแรง

ส.ส.พท.เตรียมช่วยประกันตัว

ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เข้าให้กำลังใจผู้ถูกจับกุมและร่วมหารือแนวทางช่วยเหลือ นายประเสริฐกล่าวว่าพรรคเตรียมฝ่ายกฎหมาย และให้ ส.ส. ของพรรคทุกคนเตรียมหลักฐานเอกสารต่างๆ เพื่อรอประกันตัวผู้ถูกควบคุมตัว โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ประกันตัวผู้ถูกจับกุมที่จ.อุบลราชธานีแล้ว ทั้งนี้ การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือรัฐบาลเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ฝ่ายผู้ชุมนุมกำหนดเวลาสลายตัวไว้อย่างชัดเจน หลังจากนี้คณะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะไปให้กำลังใจ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้ามอบตัวกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ในเวลา 16.00 น. หลังจากถูกออกหมายจับเมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมแกนนำเยาวชนอีก 4 คน

ประณามรัฐใช้ความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักกฎหมายกว่า 700 ราย ร่วมกันออกแถลงการณ์ระบุว่าการกระทำของรัฐบาลขาดความชอบธรรมและ ไม่ถูกต้องตามหลักรัฐธรรมนูญและหลักกฎหมาย การใช้กำลังสลายการชุมนุมเมื่อค่ำวันที่ 16 ต.ค. 2563 บริเวณแยกปทุมวันและสถานที่ใกล้เคียง เป็นการเกินสมควรกว่าเหตุ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยไม่มีเงื่อนไข เพิกถอนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และเปิดพื้นที่ให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองได้โดยสงบ

ด้านคณะประชาชนที่ประกอบด้วยอดีตนักการเมือง นักการทหาร อดีตข้าราชการระดับสูง นักวิชาการ นักธุรกิจ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ส่งเสริมให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปล่อยตัวนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่ถูกจับกุม ขณะที่ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันโรงเรียนอัสสัมชัญ ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐต่อประชาชน

รถไฟฟ้าปิดหลายสถานี

วันเดียวกัน บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่าเนื่องจากรัฐบาลมีคำสั่งตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร คำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง กำหนดห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม อาคาร หรือสถานที่ต่างๆ คำสั่ง ณ วันที่ 18 ต.ค.2563 บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ปิดบริการชั่วคราว 10 สถานี ดังนี้ สายสุขุมวิท ได้แก่ สถานีหมอชิต สถานีห้าแยกลาดพร้าว สถานีพหลโยธิน 24 สถานีอโศก สถานีอุดมสุข และสถานีบางนา สายสีลม ได้แก่ สถานีช่องนนทรี สถานีสุรศักดิ์ สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

ต่อมาเวลา 14.20 น. รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินจำเป็นต้องปิดบริการ 5 สถานี ได้แก่ 1.สถานีหัวลำโพง 2.สถานีลุมพินี 3.สถานีสุขุมวิท 4.สถานีพหลโยธิน 5.สวนจตุจักร ชั่วคราวตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

เยาวชนปลดแอก-มธ.แจ้งเพจใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเยาวชนปลดแอก Free Youth และเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ต่างโพสต์ข้อความว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) อาจกำลังสั่งปิดเพจทั้ง 2 เพจดังกล่าว โดยเพจเยาวชนปลดแอก Free Youth แจ้งขอให้ทุกคนเข้าร่วม Telegram เพื่อสำรองการติดต่อสื่อสาร หากเพจถูกปิดดังข่าวที่ได้รับมา ขณะที่เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความแจ้งเพจใหม่ที่ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – UFTD V.2 ภายหลังการประกาศของกลุ่มเยาวชนปลดแอก มีผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกว่า 5 หมื่น ภายใน 1 ชั่วโมง

ใจกลางกรุง – นักเรียนนักศึกษาประชาชนในนามคณะราษฎร ร่วมชุมนุมเนืองแน่นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใจกลางเมืองหลวง เรียก ร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง และปล่อยตัว ผู้ชุมนุมที่ถูกจับ เมื่อ วันที่ 18 ต.ค.

ม็อบพรึ่บอนุสาวรีย์ชัยฯ-อโศก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มราษฎรนัดรวมตัวชุมนุมกันบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว วงเวียนใหญ่ อุดมสุข-บางนา เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคนรุ่นใหม่และประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 20.00 น. ปรากฏว่า วันเดียวกันนี้ เวลา 14.00 น. บริเวณห้าแยกลาดพร้าว หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พบรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก รวมทั้งรถฉีดน้ำแรงดันสูง จอดรออยู่ คาดว่าอาจจะมีการสลายการชุมนุม จึงยกเลิกนัดชุมนุมบริเวณดังกล่าว โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศนัดชุมนุม 2 ที่ จุดใหญ่คือบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหน้าห้างเทอร์มินอล 21 แยกอโศกซึ่งเป็นจุดย่อย ในเวลา 16.00 น.

บรรยากาศบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นจุดใหญ่มีกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรมารอชุมนุมก่อนเวลา 16.00 น. โดยกระจายอยู่รอบบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งบนสกายวอล์กจำนวนมาก กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนชู 3 นิ้ว พร้อมจับกลุ่มเดินมาชุมนุมบนเกาะกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ และตะโกนชักชวน ผู้ชุมนุมที่รออยู่โดยรอบบนสกายวอล์กให้ลงมาสมทบ โดยผู้ชุมนุมต่างถือป้ายภาพการ์ตูนของแกนนำที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาพร้อมจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ ทั้งภาพของทนายอานนท์ นำภา แอมมี่ บอททอมบลูส์ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายเอกชัย หงส์กังวาน ไผ่ ดาวดิน และตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา”

ลั่น‘ไม่ต้องจ้าง-เรามาเอง’

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมข้ามมายังบริเวณเกาะกลางด้านในบริเวณที่ตั้งของอนุสาวรีย์ชัยฯ ตะโกนข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากนายกฯ แก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการปฏิรูปสถาบัน เวลา 16.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในบริเวณเกาะกลาง เพื่อป้องกันปัญหาการจราจรและการเกิดอุบัติเหตุ

เปิดทาง – กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางพร้อมกับอำนวยความสะดวกให้รถพยาบาลวิ่งผ่านพื้นที่ชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น เมื่อวันที่ 18 ต.ค.

ต่อมาเวลา 16.15 น. เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเดินลงมาชุมนุมจนเต็มถนน แต่ผู้ชุมนุมฮือเข้าขวาง เจ้าหน้าที่ต้องยอมถอยพร้อมนำแผงเหล็กกลับไป กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มยืนจับมือกันเพื่อสร้างแนวป้องกัน โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดผ่านเครื่องขยายเสียงขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมขยับแนวเพื่อให้รถสัญจรได้ โดยมีกลุ่มผู้ขับขี่ยานพาหนะหลายคันต่างลดกระจกพร้อมชู 3 นิ้วให้กับผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่างตะโกนเรียกร้องให้ “ยุบสภา” ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอสปิดบริการสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมเปิดทางให้รถพยาบาลรับ-ส่งคนเจ็บยัง ร.พ.ราชวิถี ต่อมาตำรวจได้ปิดการจราจรทั้ง 4 เส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เวลา 16.33 น. ผู้ชุมนุมขยับมายืนจนเต็มพื้นผิวถนนที่มุ่งหน้าฝั่งพญาไท ต่างตะโกนบอกว่า “เซฟโซนอยู่ซอยรางน้ำ” และยังคงตะโกนชวนผู้ที่ยืนอยู่บนสกายวอล์กให้ลงมาสมทบ ก่อนพร้อมใจกันนั่งลงบนนพื้นถนนท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกลงมา ปิดการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปโดยปริยาย โดยทีมงานนำน้ำดื่มและเสื้อกันฝนมาแจกผู้ชุมนุม ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมต่างตะโกนว่า “ไม่ต้องจ้าง เรามาเอง”

เตรียมรับมือรถน้ำสีชมพู

เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยปักหลักท่ามกลางสายฝน พร้อมตะโกนขอการ์ดเพิ่ม ต่อมาเวลา 17.25 น. กลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนบอกต่อๆ กันว่าตำรวจกำลังมา อยู่หน้าโรงพยาบาล พระมงกุฎฯ พร้อมขอกำลังเสริม การ์ด หมวก และแว่น

เวลา 17.40 น. ผู้ชุมนุมพร้อมใจตะโกนว่า “ไปทางเซ็นจูรี่” แต่เมื่อหัวแถวขยับไปได้ ไม่มากนัก ต่างตะโกนให้ขบวนหยุดและ ให้ผู้ชุมนุมถอยกลับมาที่อนุสาวรีย์ชัยฯ จากนั้นตะโกนว่ามีรถน้ำมาและน้ำสีชมพู เพื่อให้ผู้ชุมนุมเตรียมความพร้อมทั้งหมวกและแว่นหากรถน้ำเข้ามาฉีดสกัดผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนตะโกนบอกต่อๆ กันว่าถ้าได้ยินเสียงพลุให้หยุดการชุมนุม

‘รถน้ำมาแล้ว’หมวก-แว่นพร้อม

เวลา 17.57 น. เด็กมัธยมชั้น ม.4 ตั้งลำโพงพร้อมวางแผ่นป้ายสีขาวข้อความว่า “ทุกคนคือแกนนำ” โดยปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม พร้อมทั้งชื่นชม ผู้ชุมนุมทุกคนว่าเป็นฮีโร่ ขอให้ร่วมกัน ต่อสู้ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงชาติพร้อมชู 3 นิ้ว ก่อนโห่ร้องและเรียกร้อง 3 ข้อเช่นเดิม พร้อมเปิดแฟลชโทรศัพท์อย่างพร้อมเพรียง

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมขยายพื้นที่จากวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปทางถนนพญาไท ระดมร่ม แว่นตา และหมวกกันน็อกตั้งแนวป้องกันบริเวณหน้าห้างเซ็นจูรี่ โดยมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 1 กองร้อย รวมตัวกันที่สำนักงานเขตราชเทวี พร้อมรถขน ผู้ต้องขัง 1 คันจอดอยู่

ช่วงค่ำเยาวชนมาชุมนุมจำนวนมากขึ้นท่ามกลางการปราศรัยต่อเนื่อง เรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุม ขอให้ทุกคนยืนยันต่อสู้จนกว่าพล.อ.ประยุทธ์จะลาออกและข้อเรียกร้องสำเร็จ พร้อมเตือนให้ระวังและขอให้รอฟังสัญญาณจากแหล่งเดียว โดยมีการแจกสติ๊กเกอร์รูปหมุดคณะราษฎร ก่อนพร้อมใจกันตะโกนว่า “สองทุ่มกลับบ้าน”

น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว แนวร่วมกลุ่มปลดแอก ซึ่งเข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุม กล่าวว่าการชุมนุมขณะนี้เติบโตเร็วมาก เป็นการชุมนุมที่มีระเบียบ อยู่บนพื้นฐานสันติวิธี ไม่มีการปะทะ ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้นเราต้องช่วยกันเรียกร้องและกดดันรัฐบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่ใช้ความรุนแรง เชื่อว่าไม่เกินเวลา 20.00 น. มวลชนจะแยกย้าย และหวังว่าสัปดาห์หน้าสภาจะเร่งเปิดการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ปัญหาประเทศต่อไป

เวลา 19.20 น. ผู้ชุมนุมต่างตะโกนว่า “รถน้ำมาแล้ว” ขณะที่การปราศรัยบนเวทีบอกว่าอย่าเพิ่งตื่นตระหนก รวมทั้งมีการส่งสัญญาณให้ผู้ชุมนุมเตรียมสวมหมวกและแว่น ทั้งนี้มีผู้ขึ้นปราศรัยรายหนึ่งอ้างว่าเป็นตำรวจ กล่าวว่าอยากมายืนเคียงข้างประชาชน และอยากให้เพื่อนตำรวจที่ได้ยินเสียงนี้ออกมายืนต่อสู้เคียงข้างประชาชน ยืนเป็นหน้าด่านต่อสู้กับอำนาจที่ไม่ชอบธรรม

เวลา 20.00 น. ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง โดยปราศรัยว่าแม้วันนี้การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดแต่พวกเราจะสู้กันต่อไป ต่างชาติรู้ว่าเรามาด้วยสันติวิธี ไม่มีความรุนแรง เมื่อยิ่งเด็ดดอกไม้ดอกไม้จะยิ่งบาน ก่อนร่วมกันร้องเพลง “ดอกไม้จะบาน” พร้อมเปิดแฟลชโทรศัพท์โบกไปมาและตะโกนว่า “เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มทยอยกลับ

กระทั่งเวลา 20.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศยุติการชุมนุม โดยเปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือแล้วร้องเพลง “เสมอ” ของศิลปิน ปู พงษ์สิทธิ์ ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน

ม็อบพรึบ – ม็อบคณะราษฎรกระจายออกมาชุมนุมอีกจุดในกรุงเทพฯ ล้นหลามแยกอโศกมนตรี บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนสลายตัวแยกย้าย ในช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม เมื่อวันที่ 18 ต.ค.

ใช้สัญลักษณ์มือแจ้งอันตราย

ขณะที่จุดนัดย่อยบริเวณ MRT อโศก ฝั่ง เทอร์มินอล 21 เวลา 15.50 น. กลุ่มมวลชนจำนวนมากเริ่มรวมตัวกัน โดยแกนนำชี้แจงถึงสัญลักษณ์มือที่ใช้แจ้งเตือนต่างๆ ทั้งอันตรายมา หิวน้ำ หิวข้าว และวิ่งหนี พร้อมแนะนำ ว่าถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาต้องไม่เข้าใกล้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้เข้าไปในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) โดยแกนนำย้ำ 3 ข้อเรียกร้องคือ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน ซึ่งจะยุติการชุมนุมในเวลา 20.00 น.

เวลา 16.24 น. มวลชนเริ่มเคลื่อนตัวเดินลงถนนแยกอโศกพร้อมชู 3 นิ้ว ตะโกนเรียกผู้ที่อยู่บนสกายกวอล์กสถานีบีทีเอสอโศกให้ลงมาร่วมชุมนุมด้านล่างด้วยกัน และแจ้งว่าถ้ามวลชนเยอะพอจะเคลื่อนตัวปิดถนนแยกอโศก โดยมีรถตำรวจ 2 คันจากสน.ทองหล่อ พร้อมเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์ ขณะที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก ปิดบริการ ต่อมาเวลา 16.30 น. มวลชนลงถนนโดยมีการปราศรัย หนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมกล่าวว่าตอนนี้อยู่ที่พื้นที่อโศกแล้ว อยากให้พื้นที่อโศกเป็นของเราโดยแท้จริง หากคนอโศกมีปัญหาอะไรอยากเชิญชวนขึ้นไปพูด เพราะไม่มีถูกไม่มีผิด

บ.ก.ลายจุดชี้บางกอกโมเดล

เวลา 16.50 น. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด มาร่วมให้กำลังใจผู้ชุมนุมโดยกล่าวว่าสัปดาห์นี้สังคมจับตาว่าการชุมนุมนี้จะคล้ายฮ่องกงโมเดลหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าคล้ายเลย หรือจะให้เรียกว่าเป็นบางกอกโมเดลก็ได้ อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ชุมนุมไม่ควรเผชิญหน้ากับตำรวจ ที่ผ่านมามีการปะทะกันแล้วแต่ไม่มาก จึงขอให้ผู้ชุมนุมต้องตระหนักว่าตำรวจเป็นเครื่องมือนำมาเป็นกลไกของพล.อ. ประยุทธ์ ส่วนวันที่ 17 ต.ค. ที่มีผู้ชุมนุมบางส่วนไม่ยอมยุติการชุมนุมตามที่นัดนั้นต้องยอมรับว่าเป็นอารมณ์ค้างของคนในม็อบ

มวลชนล้นหลามปิดถนนอโศก

ต่อมาเวลา 17.20 น. มวลชนปักหลักชุมนุมปิดถนนเส้นอโศกมนตรีมุ่งหน้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ รถไม่สามารถสัญจรได้โดยตั้งแนวการ์ดอาสาบริเวณแยกอโศกเพื่อป้องกันพื้นที่ และเพื่อให้การจราจรบริเวณถนนสุขุมวิทสัญจรได้ โดยมีตำรวจ สน.ทองหล่อ คอยอำนวยความสะดวกการจราจร

เวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมพร้อมใจยืนเคารพธงชาติ เปิดแฟลชมือถือ พร้อมชู 3 นิ้ว ตะโกนด้วยว่า “ประยุทธ์ออกไป”

ในช่วงค่ำมีผู้ชุมนุมมากขึ้น แกนนำปราศรัยเรียกร้องให้ตำรวจมาอยู่ข้างประชาชน และพล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกไป เชื่อว่าทุกคนเห็นภาพเหตุการณ์ที่แยกปทุมวันเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ทั้งรถฉีดน้ำแรงสูง แบบนี้หรือที่ไม่รุนแรง จากนั้นมวลชนชู 3 นิ้ว ตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” ก่อนแยกย้ายในเวลา 19.40 น. เปิดเส้นทางการจราจรตามปกติในเวลา 19.50 น.

อำนวยความสะดวกเยี่ยมผู้ต้องหา

ที่หน้า บก.ตชด.ภ.1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เผยว่า มาดูแลความเรียบร้อยและคอยอำนวยความสะดวกแก่ญาติที่มาเยี่ยมผู้ต้องหา รวมทั้งมามอบกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ขณะนี้ในตชด.ภ.1 ยังมีผู้ถูกควบคุมตัว 5 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องหาในคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน วันที่ 19 ต.ค. จะต้องนำตัวไปส่งศาลเพราะวันนี้ศาลปิด

ดาวกระจาย – กลุ่มผู้ชุมนุมย่านชานกทม. รวมตัวกันจำนวนมากบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยเป็นม็อบดาวกระจายจัดชุมนุมพร้อมๆ กับจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.

จับกุม‘ไบรท์ ชินวัตร’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ตำรวจนำหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าจับกุมนายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ระหว่างขับรถบนถนนราชพฤกษ์เพื่อเดินทางไปร่วมชุนนุมที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีตำรวจตั้งด่านสั่งให้จอดและแสดงหมายจับ สภ.เมืองนนทบุรี ให้เจ้าตัวรับทราบ ก่อนควบคุมตัวไป บก.ตชด.ภาค 1 นายชินวัตรโพสต์เฟซบุ๊กว่า “สภ.เมืองนนทบุรี แจ้ง ม.116 คดีเก่าจัดชุมนุมที่ท่าน้ำนนท์ วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา และนำตัวผมไปที่ตชด.ภาค 1 คลองหลวง”

ม็อบพรึบ – กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร ย่านชานกรุงเทพฯ หลั่งไหลเดินทางมาชุมนุม กันล้นหลามที่ใต้สะพานลอยทางต่างระดับ หน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จ.ปทุมธานี บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและฮึกเหิม เมื่อวันที่ 18 ต.ค.

ม็อบพรึบ 25 จว.ทั่วไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันมีการชุมนุมทั่วประเทศพร้อมในกรุงเทพฯ 2 จุดดังกล่าว รวม 24 จังหวัด โดยที่ จ.ขอนแก่น ที่บึงสีฐาน, จ.สมุทรสาคร แยกพุทธมณฑลสาย 4, จ.นนทบุรี สถานีรถไฟฟ้าสามแยกบางใหญ่, จ.สมุทรปราการ หน้าห้างอิมพีเรียลสำโรงก่อนเคลื่อนย้ายไปแยกบางนา, จ.ปทุมธานี ท่ารถตู้ ตจว. ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, จ.กำแพงเพชร ลานวัฒนธรรม, จ.ระยอง สวนสุขภาพบ้านฉาง, จ.สระบุรี สวนสาธารณะ จุดพักรถบายพาส, จ.สิงห์บุรี ศาลหลักเมือง, จ.สุพรรณบุรี กำแพงเมืองสุพรรณ, จ.ปราจีนบุรี ศาลากลางหลังเก่า, จ.ยโสธร หน้าศาลากลางจังหวัด, จ.จันทบุรี ลานจันทน์, จ.อุดรธานี ลานศิษย์เก่า มรภ.อุดรธานี, จ.นครราชสีมา เทคโนโคราช คุรุสัมมนาคาร, จ.ศรีสะเกษ ศาลหลักเมือง, จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลางหลังเก่า, จ.ชลบุรี สี่แยกปากร่วม บ่อวิน, จ.ฉะเชิงเทรา แยกคอมเพล็กซ์, จ.ตาก บริเวณศาลาตากสิน, จ.เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, จ.สุราษฎร์ ธานี ลานสะพานนริศ, จ.อ่างทอง หน้าสถานีตำรวจภูธรวิเศษชัยชาญ รวมถึงที่ จ.อุบลราช ธานี และ จ.นครปฐม

โดยกิจกรรม ที่ จ.ระยอง กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวให้ร่วมกันปกป้อง “ไมค์ ระยอง” ที่ จ.นครราชสีมา และในหลายจังหวัด ร่วมชู 3 นิ้ว ส่วนที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มนักเรียนร่วมวางพวงหรีด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน