ตั้งใจบวชให้-แต่ติดงาน
ญาติสลดรับ4ศพทำพิธี

‘สมรักษ์ คำสิงห์’ ตั้งใจบวชให้ ส.จ.ดำ ลูกหนี้ที่ก่อเหตุฆ่าตัว ยกครัว 4 ศพ แต่ติดคิวถ่ายละครเลยนุ่งขาวถือศีลให้ 7 วัน เผยรู้สึกไม่ดีเหมือนเป็นต้นเหตุให้เพื่อนต้องคิดสั้น ‘มือปราบหูดำ’ รับศพไปตั้งสวดที่วัดเทพลีลา ระบุเมียส.จ.ดำเป็นหลานสาวไม่เคยปรึกษาเรื่องปัญหาอะไร แต่รู้ว่ามีหนี้สินมากมายคาดปมหนี้ของนักมวยดังเป็นฟางเส้นสุดท้าย

ให้การ4ศพ – สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตฮีโร่ มวยโอลิมปิก เข้าให้การ ตำรวจสน.หัวหมาก คดีส.จ.ดำ เจ้าของร้านอาหารยิงภรรยา ลูก และ ฆ่าตัวตายยกครัว 4 ศพ โดยให้รายละเอียดเรื่องหนี้ 10 ล้านบาท และจะบวชให้ผู้ตาย เมื่อวันที่ 11 พ.ย.

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 พ.ย. น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยสากลเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก โดยลำดับเหตุการณ์ต้นสายปลายเงื่อนการทำธุรกิจซื้อขายลอตเตอรี่กับนายธวัชชัย หรือ ส.จ.ดำ ทองอ่อน อดีตส.อบจ.นครศรีธรรมราช และประธานสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและลูกสาว อายุ 13 และ 11 ปี ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิต รวม 4 ศพ ภายในบ้านพักซอยกรุงเทพกรีฑา 7 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ คาดเครียดเรื่องส่วนตัวและปัญหาหนี้สิน

หลังเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน น.ต. สมรักษ์ เผยว่า รู้จักนายธวัชชัยกว่า 10 ปี เป็นคนดีและเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอด ชอบช่วยเหลือสังคม ชอบกีฬา เป็นชีวิตจิตใจ เริ่มลงทุนซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกันหลังที่ตนถูกโกงรอบแรก นายธวัชชัยติดต่อมาบอกว่า ทำธุรกิจซื้อขายสลากกินแบ่งฯ พร้อมชักชวนร่วมลงทุนด้วยกัน ซื้อขายกันรวม 5 งวด งวดที่ 1-2 ได้ครบตามที่ตกลงกัน แต่งวดที่ 3-4 เริ่มไม่ครบ ขาดบ้างเล็กน้อย แต่งวดที่ 5 ไม่ได้รับเลยแม้แต่ใบเดียว รวมแล้วนาย ธวัชชัยเป็นหนี้ประมาณ 10 ล้านบาท

ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน นายธวัชชัยโทรศัพท์ติดต่อมาหาให้ช่วยเจรจากับชาวบ้านขอผ่อนใช้เงินคืน รอบละ 2.5 ล้าน 4 รอบ ได้หรือไม่ ซึ่งตอบตกลง นายธวัชชัยจึงนัดพบกัน วันที่ 10 พ.ย. ที่ร้านอาหารเสบียงทิพย์ของนายธวัชชัย ในเวลา 14.00 น. เมื่อไปถึงร้านพยายามโทรศัพท์ติดต่อ แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย สอบถามพนักงานในร้านยืนยันว่าอีกสักครู่จะเข้ามา แต่หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงตำรวจสืบสวน สน.หัวหมาก ไปที่ร้าน และถามหาภรรยานายธวัชชัยกับพนักงาน ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปสอบถามได้คำตอบว่า ตำรวจรับแจ้งจาก รปภ.ในหมู่บ้านว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 7-8 นัด จากบ้านนายธวัชชัย รู้สึกไม่ดีจึงขอไปดูที่บ้านพักของเจ้าตัว เมื่อไปถึงพบกับเหตุสลดดังกล่าว

“ส่วนตัวรู้สึกไม่ดี เหมือนผมเป็นต้นเหตุให้เพื่อนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น หลังเกิดเหตุมีทนายความหลายคนโทร.เข้ามาให้คำปรึกษาเพื่อดำเนินการกับหนี้สินที่ผู้ตายค้างผมอยู่ แต่ผมยืนยันว่ายุติปัญหาทั้งหมด เพราะสงสารครอบครัวและญาติพี่น้อง พร้อมกันนี้ ผมก็อยากบวชให้ แต่ช่วงนี้ติดคิวต้องถ่ายละคร ทำให้ยังบวชไม่ได้ แต่จะใช้วิธีนุ่งขาวห่มขาวอุทิศส่วนกุศลเป็นเวลา 7 วัน ให้เพื่อนไปสู่สุคติ” น.ต.สมรักษ์ กล่าว

พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล รองผบก.น.4 เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว ตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านพักที่เกิดเหตุ ก่อนและหลังเกิดเหตุ 3 ชั่วโมง เบื้องต้นไม่พบบุคคลต้องสงสัยเข้าไปในบริเวณบ้านแต่อย่างใด ส่วนประเด็นการก่อเหตุยังพุ่งเป้าไปที่ปัญหาส่วนตัวเรื่องหนี้สิน และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อม

ประกอบด้วย เพื่อนบ้านผู้แจ้งเหตุ รปภ. ญาติฝั่งภรรยาของผู้ตาย และสมรักษ์ คำสิงห์ รวม 4 ปาก คดีนี้เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ เป็นคดีสะเทือนขวัญสังคม การทำคดีของพนักงานสอบสวนต้องละเอียดรอบคอบและไม่ชักช้า ยืนยันตำรวจจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนจะสรุปสำนวนคดีได้เมื่อไหร่ ยังไม่สามารถตอบได้ อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรจากแพทย์อีกครั้ง

วันเดียวกัน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผบช.น. ลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.พัชรณัฏฐ์ สังข์ประไพ ภรรยานายธวัชชัย ไปรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ที่แผนกนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดเทพลีลา เขตบางกะปิ พร้อมเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดไม่ได้สงสัยและติดใจอะไร หลักๆ น่าจะเป็นเรื่องหนี้สินที่ฝ่ายชายมีหนี้สินกว่า 10 ล้าน ส่วนน.ส. พัชรณัฏฐ์เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นก็ถูกหางว่าวกับการที่สามีเป็นหนี้สินทำให้หลานสาวต้องโดนข้อหาล้มละลาย เมื่อหมดระยะล้มละลายแล้วก็เข้าไปสอบเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอีกครั้งหนึ่ง

ที่ผ่านมา หลานสาวไม่เคยมาปรึกษาเรื่องเงินหรือว่าขอความช่วยเหลือเรื่องคดีอะไรเลย รู้แค่ว่าฝ่ายชายเป็นหนี้สินไปหยิบยืมเงินคนนี้มาแปะ แล้วไปยืมเงินต่อ เป็นแบบนี้มาตลอด แล้วในวันเกิดเหตุ กรณีของนายสมรักษ์เป็นไปได้ที่อาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้าย เพราะเขาหาเงินหมุนไม่ได้แล้วแก้ปัญหาไม่ได้ ประกอบกับที่เพื่อนบ้านเล่าว่า ระยะหลังฝ่ายชายดูมีความ เครียดมาก สูบบุหรี่เยอะมาก คิดว่าเขาคงเต็มที่แล้ว เขาฆ่าตัวตายทั้งครอบครัว เพราะเขารักลูกมากไม่อยากให้ลูกต้องมารับภาระของเขา

“หลานสาวก็ไปหยิบยืมเงินของญาติพี่น้องหลักล้าน เพื่อมาใช้หนี้ให้สามี แล้วมาหนี้ใหม่อีก เขาก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมา โดยปกติแล้ว หลานสาวเป็นคนเรียบง่าย มีอะไรจะไม่ค่อยบอกหรือพูดอะไร เราไม่โกรธ เพราะคนทำเสียชีวิตไปแล้ว ถือว่าเป็นกรรม” พล.ต.ต.วิชัยกล่าว

ด้านน้องชายของ น.ส.พัชรณัฏฐ์ กล่าวว่า คุยกับพี่สาวตลอด ที่ผ่านมา พี่สาวมาขอเงินไปหลายล้านบาทก็ช่วยเหลือมมาตลอด แต่ไม่เคยถามเลยว่าเอาไปทำอะไร เพราะเราไม่ได้คาใจและช่วยเหลือกันมาตลอด และที่ผ่านมาไม่ได้มีสัญญาณบอกเหตุอะไรเลย พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันพูดไม่ออกรู้สึกช็อกมาก

น้องชายนายธวัชชัย เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ผู้ตายเคยป่วยเป็น โควิด-19 มาก่อน พร้อมๆ กับมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่ได้รับประทานยาคาดว่าน่าจะมีส่วนทำให้ก่อเหตุครั้งนี้ สำหรับปัญหาหนี้สินนั้น ครอบครัวไม่ทราบมาก่อน

สลด4ศพ – พิธีสวดพระอภิธรรม 4 ศพ นายธวัชชัย ทองอ่อน หรือส.จ.ดำ ที่ก่อเหตุยิงภรรยา ลูกสาว 2 คน และฆ่าตัวตายตาม จากปัญหาหนี้สินท่วม ท่ามกลางความเศร้าสลดของญาติพี่น้อง ที่วัดเทพลีลา กทม. เมื่อวันที่ 11 พ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน