ผับ-บาร์
ขอให้ร่น
เปิด1ธค.
เสียชีวิตจากโควิดลดฮวบเหลือ29ราย‘บิ๊กตู่’ สั่งเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นพ.ย.นี้ ในเดือนธ.ค.ฉีดอีก 20 ล้านโดส ตั้งเป้าให้ได้ 120 ล้านโดสสิ้นปี ผับ-บาร์-คาราโอเกะโคราชวอนรัฐบาลร่นให้เปิดได้ภายในเดือนธ.ค.นี้ เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ผู้ประกอบการทุกร้านใกล้หมดลมหายใจแล้ว ส่วนสงขลายังหนัก ติดเชื้ออีก 485 ราย เร่งฉีดวัคซีน ค้นหาเชิงรุก เตรียมพร้อมเปิดเมืองเที่ยวระยะ 2 ขณะที่ลำปางปิดโรงเรียนแจ้ห่ม น.ร.ติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยงอีกอื้อ
ตายโควิดลดฮวบ-เหลือ 29
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 7,006 ราย สะสม 2,064,581 ราย หายป่วยเพิ่ม 7,591 ราย หายป่วยสะสม 1,956,923 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย เสียชีวิตสะสม 20,387 ราย อยู่ระหว่างรักษา 87,271 ราย อยู่ในร.พ. 43,400 ราย ร.พ.สนามและอื่นๆ 43,871 ราย อาการหนัก 1,612 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 388 ราย โดยผู้ติดเชื้อมาจากในประเทศ 6,227 ราย เรือนจำ 771 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย
สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 ราย มี 17 จังหวัด โดย 10 อันดับที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 756 ราย 2.สงขลา 485 ราย 3.นครศรีธรรมราช 426 ราย 4.สุราษฎร์ธานี 283 ราย 5.สมุทรปราการ 246 ราย 6.เชียงใหม่ 242 ราย 7.ปัตตานี 231 ราย 8.ชลบุรี 188 ราย 9.ยะลา 174 ราย และ 10.ตรัง 139 ราย
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิดวันที่ 20 พ.ย. 472,644 โดส ยอดสะสม 88,803,596 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 46,646,938 ราย 64.8 เปอร์เซ็นต์ ของประชากร เข็มสอง 39,101,640 ราย 54.3 เปอร์เซ็นต์ และเข็มสาม 3,055,018 ราย 4.2 เปอร์เซ็นต์
‘ตู่’เร่งวัคซีน100ล้านโดสสิ้นพ.ย.
ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องจับมือ รวมใจ พาไทยรอด ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่ามีวัคซีนเพียงพอให้กับคนทั้งประเทศเพียงแต่ติดปัญหาการกระจายให้รวดเร็วและครอบคลุม รัฐบาลต้องการฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสในเดือนพ.ย.นี้ ถ้ารณรงค์ได้จะเป็นไปตามเป้าหมายรัฐบาล อย่าให้เขากล่าวหาว่ารัฐบาล ตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่ทุกอย่างพร้อมทั้งหมด สั่งให้เร่งดำเนินการใน ทุกพื้นที่ จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หารถพาไปฉีดวัคซีน
นายกฯ กล่าวว่าถ้าฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสในเดือนพ.ย. และในเดือนธ.ค.อีก 20 ล้านโดส จะครบ 120 ล้านโดส โดยวันข้างหน้าจะเตรียมพร้อมทยอยสร้างความเข้มแข็งระบบสาธารณสุขไทยที่เคยดีอยู่แล้วในระดับ 6 ของโลก แม้พวกเราบางคนอาจจะยังไม่พอใจในการแก้ไขปัญหา แต่ในต่างประเทศ บางประเทศยังไม่เท่าเราเลย ยืนยันประเทศไทยได้ใช้งบประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีแก้ปัญหาโควิด และจัดหาวัคซีน รวมทั้งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
โวมีวัคซีนเยอะ-ขอให้มาฉีด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่าวันนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ แต่ขอร้องอย่าประมาท อย่าคิดว่าดีแล้ว ไม่ต้องระวัง รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ไม่อยากปิดกั้น หรือหยุดอะไรอีกแล้ว แต่จะเห็นได้ว่าเมื่อผ่อนคลายก็จะเกิดปัญหาระยะสองสามขึ้นมาถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ ต้องไปด้วยกันเสมอ ถึงจะแก้ไขไปได้ควบคู่กัน เพราะเศรษฐกิจดี สุขภาพแย่ก็เดินไปไม่ได้เหมือนเดิม จึงขอร่วมมืออีกครั้งให้ช่วยกันรณรงค์ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม
ต่อมานายกฯ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยยกระดับจากรายได้ปานกลางขึ้นมาให้ได้ พร้อมแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ สิ่งที่กังวลตอนนี้ก็คือเรื่องสถานการณ์โควิด จึงขอรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกัน ไม่ว่าจะใครก็ตาม พาคนมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น เพื่อลดการสูญเสีย เพิ่มความปลอดภัย เรามีวัคซีนเยอะแล้ว ไม่ฉีดก็จะเสียโอกาสไปเปล่าๆ รอบบ้านเขาอยากจะได้ เขายังไม่มีเลย ฉะนั้นเราต้องสร้างความปลอดภัยไว้ก่อน
สธ.จัดใหญ่-สัปดาห์ฉีดวัคซีน
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ามอบนโยบาย ให้ทุกร.พ.ในสังกัดใช้มาตรการโควิด ฟรีเซ็ตติ้ง เหมือนสถานบริการทั่วไป คือบุคลากรได้รับการฉีดวัคซีนครบ ผู้รับบริการหากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีด ไม่ครบ จะต้องตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจเอทีเคก่อนเข้าพื้นที่ โดยจะเร่งให้ร.พ. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า เพื่อเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานและ องค์กรอื่นๆ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวอีกว่า ส่วนเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิดให้ได้ 100 ล้านโดสนั้น มีหนังสือถึงหัวหน้าศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด กระทรวงมหาดไทย และนายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัดให้เร่งรัดฉีดผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หญิง ตั้งครรภ์ รวมถึงกลุ่มแรงงานต่างชาติ ทั้งที่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้ขึ้นทะเบียน กำหนดจัดสัปดาห์ฉีดวัคซีนสู่เป้าหมาย 100 ล้านโดส วันที่ 27 พ.ย. ถึง 5 ธ.ค. เนื่องในวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุขและวันพ่อแห่งชาติ
ลำปางปิดโรงเรียน-น.ร.ติดเชื้อ
สำหรับสถานการณ์จังหวัดต่างๆ นั้น จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 240 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดทั้งหมด ลดลงจากวันก่อน เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ส่วนการตรวจเอทีเคเมื่อวันที่ 20 พ.ย. จำนวน 3,164 ราย พบผลบวก 55 ราย ขณะที่ จ.พะเยา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย เป็นการติดเชื้อในจังหวัดทั้งหมด เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์งานศพที่บ้านสันติสุข ต.ขุนควร อ.ปง
ส่วน จ.ลำปาง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย ขณะเดียวกัน นายเสถียร หมายมั่น ผอ.โรงเรียนอนุบาลแจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม ประกาศปิดสถานศึกษาเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากได้รับแจ้งจากร.พ.แจ้ห่มยืนยันผลตรวจของนักเรียนระดับปฐมวัยที่มีความเสี่ยงสูงใกล้ชิดพ่อแม่ติดเชื้อโควิด มีผลการตรวจเป็นบวก มีกลุ่มเสี่ยงเป็นครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนร่วมชั้นรวม 50 คน
สำหรับกรณีคลัสเตอร์สามเณรเดินทางกลับจาก อ.แม่สอด จ.ตาก มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 9 ราย กระจายใน 3 อำเภอ คือ อ.เมืองลำปาง อ.เกาะคา และ อ.ห้างฉัตร ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด
สงขลาเปิดเมืองเที่ยวระยะ 2
ด้าน จ.สงขลา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 485 ราย และเสียชีวิต 5 ราย โดยพบผู้ติดเชื้อในชุมชนจากกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่าจากกลุ่มคลินิกตรวจคัดกรอง โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ กลุ่มสัมผัส เสี่ยงในโรงงาน ชุมชน ตลาด ร้านค้า บริษัท และผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่เป็นพื้นที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด รองลงมาคือ อ.เมืองสงขลา และ อ.จะนะ
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ ตั้งจุดฉีดวัคซีนบริการในคราวเดียวให้กับประชาชนถึงชุมชน รวมทั้งตรวจค้นหา เชิงรุกด้วยชุดตรวจเอทีเคกลุ่มประชาชนในชุมชน ทั้งกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยง และกลุ่ม ผู้ที่มีความกังวล ต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ โดยในรายที่มีผลตรวจเป็นลบ ก็จะฉีดวัคซีนให้ไปในคราวเดียวกัน เตรียมความพร้อมเปิดเมืองท่องเที่ยวระยะที่ 2 ในเดือนธ.ค.นี้ โดย อ.หาดใหญ่ยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูง 100-200 คนอย่างต่อเนื่อง
โคราชขอเปิดผับเดือนธ.ค.
ส่วน จ.นครราชสีมา นายจีระศักดิ์ คาระวิวัฒนา ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่ามาตรการควบคุมโควิดของรัฐบาล แม้จะผ่อนปรนให้ร้านอาหารสามารถเปิดบริการได้จนถึงเวลา 23.00 น.แล้วก็ตาม แต่สำหรับร้านผับ บาร์ คาราโอเกะ เป็นร้านสำหรับนันทนาการช่วงกลางคืนยังไม่ให้เปิด โดยเลื่อนการเปิดจากวันที่ 1 ธ.ค.2564 เป็นวันที่ 15 ม.ค.2565 ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เดือดร้อนอย่างหนัก
ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารโคราชกล่าวอีกว่า ช่วงแรกที่จะให้เปิดวันที่ 1 ธ.ค. หลายร้านเรียกพนักงานมาทำความสะอาด เตรียมพร้อมเปิดร้านแล้ว แต่พอถูกเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า ทำให้ทุกคนที่ลาออกจากงานอื่นๆ ต้องตกงานไปเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ก็ปิดบริการไปเกือบปีแล้ว ทุกร้านใกล้จะหมดลมหายใจกันหมดแล้ว เห็นว่ารัฐบาลควรทบทวนคำสั่งใหม่ ให้เปิดในช่วงเดือนธ.ค.นี้ เพราะเป็นช่วงไฮส์ซีซั่น จะทำให้ร้านผับ บาร์ คาราโอเกะต่อลมหายใจ ได้บ้าง
