บุกรุกป่า-ปลูกกัญชา! สธ.เตรียมจับตรวจจิต
สรุปถูกดำเนินคดีถึง 8 ข้อหา พระบิดาโดนคดีเพิ่ม หลังรองผู้ว่าฯ ชัยภูมินำกำลังทุกฝ่ายบุกตรวจสอบสำนักพิลึกอีกรอบเพื่อหาหลักฐานเอาผิดเพิ่มล่าสุดพบบุกรุกป่าไม้สาธารณะถึง 26 ไร่ ส่วนอย.เผยรู้ผลตรวจอาหารของสำนักพระบิดาสัปดาห์หน้า ย้ำสถานที่ผลิตก็ไม่ขออนุญาต ไม่ถูกสุขอนามัย สุดอันตรายวอนประชาชนอย่าซื้อกิน กำชับให้ตรวจสอบทุกจังหวัดด้วย ด้านสาธารณสุขจังหวัดก็ประสานร.พ.จิตเวชทั้ง 3 แห่งในจังหวัดใกล้เคียงช่วยสอบประวัติพระบิดา หากพบก็ต้องใช้กม.สุขภาพจิตเข้าบังคับใช้ทั้งดำเนินคดีและรับการรักษา ส่วนสัตว์เลี้ยงของสำนักจำนวนมากกำลังอดโซเพราะขาดผู้ดูแล
กรณีเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจสอบสำนักฤๅษีพระบิดา หมู่ที่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลังมีการร้องเรียนว่า มีการรักษาโรคโดยวิธีการแปลกประหลาดไม่ถูกสุขลักษณะ ก่อนพบตัวนายทวี หนันลา อายุ 74 ปี ที่อ้างตนเป็นฤๅษีชื่อ พระบิดา อวดอ้างสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ จนมีชาวบ้านหลงเชื่อมารักษาตัวด้วยจำนวนหนึ่ง ต่อมายังมีการเปิดเผยภาพโรงงานน้ำพริก สถานที่ผลิตน้ำปลาร้า, น้ำพริก, ข้าวเกรียบปลา รวมถึงขนมแผงต่างๆ ที่มีทั้งหนอนและราเต็มไปหมด สร้างความรู้สึกสะอิดสะเอียน และรับรู้ถึงความสกปรก การขาดสุขลักษณะในสภาพความเป็นอยู่ของลัทธิดังกล่าวตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 พ.ค.นาย ชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การปกครองจังหวัด ตำรวจ ป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปศุสัตว์ และสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังเข้าตรวจสอบ เพื่อเก็บหาหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมในสำนักดังกล่าว โดยมีการแยกให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยต่างๆ หาหลักฐานเพื่อแจ้งความดำนินคดีกับนายทวี หรือพระบิดา โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด เก็บตัวอย่างน้ำหมักต่างๆ ในโอ่งนับ 100 ใบ เก็บตัวอย่างน้ำในบ่อหมักแจ่วปลาร้าบอง เพื่อส่งไปตรวจพิสูตรในห้องปฏิบัติการสาธารณสุข
ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ก็ออกตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ โดยรอบสำนัก เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ตรวจนับสัตว์ต่างๆ ทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมายในสำนัก พร้อมทำบัญชีการตรวจนับ โดยพบว่าภายในสำนักยังมีสัตว์จำนวนมากประกอบด้วยประกอบด้วย วัว 11 ตัว ควาย 5 ตัว กวางพันธุ์รูซ่า 15 ตัว ไก่ไข่ 30 ตัว ไก่พื้นเมืองและไก่งวงอีกจำนวนหนึ่ง เป็ดเทศ 15 ตัว สุนัข 40 ตัว แมว 20 ตัว อีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา 24 ตัว ซึ่งพบด้วยว่าสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในสำนักดังกล่าวกำลังอดอาหารหิวโซ แต่ก็ยังมีชาวบ้านนำอาหารเม็ดมาวางไว้ให้กินบ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
ส่วนการดำเนิคดีกับนายทวี หรือพระบิดา นั้น ขณะนี้มีการแจ้งดำเนินคดีไปแล้ว 8 ข้อหา คือ ข้อหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์, รักษาโรค ผิดพ.ร.บ.ความสะอาดของสาธารณสุขฯ, ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน, ปลูกผลิตกัญชา, มีซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครอง, เจาะบ่อบาดาลและใช้น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำไม้หวงห้ามโดย ไม่ได้รับอนุญาตมาตรา 11, 73 (มีไม้พะยูง 40 ท่อนอยู่ในสำนัก) และมีไม้ท่อนหวงห้าม (มีไม้เต็งรังจำนวน 11 ท่อน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังจับพิกัดก็พบว่า สำนักดังกล่าวมีการบุกรุกที่ป่าไม้สาธารณะ จำนวน 26 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ ยังต้องดูแล การเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือเป็นการบุกรุกอย่างแน่นอน จึงได้เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย สว.(สอบสวน) สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อให้มีการดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย พร้อมกันนี้ยังมีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ จัดเวรยามเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และบริเวณโดยรอบหมู่บ้านแล้ว เพื่อป้องกันการเข้ามาขโมยทรัพย์สินและทำลายหลักฐาน
วันเดียวกัน นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบว่านายทวี เจ้าลัทธิได้เดินทางไปยังพื้นที่อื่นแล้ว ส่วนลูกศิษย์ก็เดินทางกลับภูมิลำเนาของตัวเองไปแล้วด้วย ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะตรวจร่างกาย ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเจ้าลัทธิและลูกศิษย์ได้ อย่างไรก็ตามก็พร้อมจะตรวจสุขภาพให้ทุกคน ทั้งนี้จากการตรวจสอบในพื้นที่ยังไม่พบความเชื่อลักษณะที่คล้ายกันนี้เพิ่มเติมแต่อย่างใด
นพ.วชิระกล่าวต่อด้วยว่า จากการตรวจสอบเวชระเบียนของนายทวีที่รพ.สต.แก้งตาดไซ ,ดงกลาง, โนนคูณ ร.พ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รวมถึงร.พ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ยังไม่พบประวัติการเข้ารักษาโรคใดๆ จึงได้ทำหนังสือไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบประวัติในจ.ขอนแก่นเพิ่มเติม รวมถึงยังทำหนังสือไปยังร.พ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ ร.พ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบเพิ่มเติมอีกด้วย ก็ต้องฝากเตือนประชาชนถึงเรื่องการนำอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มานำสุขภาพ เช่นการ นำของเสียมาใช้รักษาโรค คงไม่น่าใช่คำตอบของการรักษาแบบนี้
นพ.วชิระกล่าวด้วยว่า หากมีการตรวจสอบแล้วพบว่า พระบิดามีปัญหาสุขภาพจิตจริงจะสามารถดำเนินคดีได้หรือไม่นั้น ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.สุขภาพจิต 2551 เพื่อบำบัดและควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องหาได้ เป็นการคุ้มครองสุขภาพของผู้ต้องหาไปด้วยกันได้
ส่วน นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีอาศรมพระบิดามีการผลิตและแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์ขนมและอาหารแห้งจำนวนมาก ว่า จากการตรวจสอบไม่มีการขออนุญาตสถานที่ผลิต สถานที่ผลิตไม่ถูกสุขลักษณะ มีการผลิตปลาร้าบอง บรรจุใส่ตลับสีแดง เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อตรวจหาสิ่งปนเปื้อนหรือเชื้อโรคต่างๆ คาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้สถานที่ผลิตปลาร้าบองต้องได้รับอนุญาตจาก อย. และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการผลิตที่ดี (GMP) ต้องขออนุญาตผลิตภัณฑ์อาหาร มีการแสดงฉลากตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ชื่ออาหาร ส่วนประกอบสำคัญเป็นร้อยละของน้ำหนัก เลขสารบบอาหารภายใต้เครื่องหมาย อย. ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้แบ่งบรรจุ น้ำหนักสุทธิ วันเดือนปีที่ผลิต และหมดอายุหรือควรบริโภคก่อน ข้อมูลวัตถุเจือปนอาหาร และข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร ซึ่งจากการตรวจสอบยังพบอาหารแห้งที่แบ่งบรรจุใส่ถุงพลาสติกจำนวนมาก แขวนและวางเรียงรายในพื้นที่โดยไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ปลาหวาน ปลาหมึกแห้ง ปลากรอบ ถั่วลิสงทอด ถั่วลันเตาทอด ข้าวเกรียบ จึงขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ที่แบ่งบรรจุเหล่านี้มารับประทาน เพราะอาจมาจากสถานที่ แห่งนี้ที่มีการแบ่งบรรจุอาหารอย่างไม่ถูกสุขลักษณะด้วย
นพ.วิทิตกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบการจำหน่ายอาหารในร้านค้าชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุ และร้านค้าในพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ รวม 13 แห่ง ไม่พบว่ามีการจำหน่ายอาหารจากลัทธิดังกล่าว และมีหนังสือแจ้งไปยังสาธารณสุขอำเภอและรพ.สต.ทุกแห่งในจังหวัด เพื่อให้ตรวจสอบร้านค้าหรือร้านชำในหมู่บ้านว่า มีการจำหน่ายอาหารจากลัทธิดังกล่าวหรือไม่ รวมทั้งมีหนังสือแจ้งไปยังสสจ.ทุกจังหวัด ให้เร่งตรวจสอบเฝ้าระวังการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในพื้นที่โดยเร็ว ก็ขอฝากผู้บริโภคในการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารขอให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก และมีเลข อย. โดยตรวจสอบทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th ได้ตลอดเวลาด้วย
วันเดียวกัน พ.ต.ท.ภาคสุวัฒน์ ถุงน้อย รองผกก.สภ.ภูกระดึง เผยว่า จากที่มีชาวบ้านแจ้งว่ามีลูกศิษย์พระบิดาอพยพเข้าไปในไร่ที่พระบิดาอาศัยอยู่จำนวนมาก ต่อมานายสามารถ เพชรปิ่นเมือง นายอำเภอภูผาม่าน เข้าหารือผู้ใหญ่บ้าน บ้านผาสามยอด ก่อนประสานมายังตำรวจ พ.ต.อ.เอกพงษ์ พลมณี ผกก.ภูกระดึง จึงมอบหมายให้เข้าไปตรวจสอบพร้อมนายอำเภอ และผู้ใหญ่บ้าน พบว่า จากเดิมมีครอบครัวที่ติดตามนายทวีมาเพียง 4-5 ครอบครัว ล่าสุดพบมีลูกศิษย์เพิ่มขึ้นกว่า 12 ครอบครัว หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 กว่าคน มีทั้งลูกเล็กเด็กแดง มีรถจอดเต็มไปหมด
เบื้องต้นเจรจากับนายทวี เพื่อให้ห้ามบรรดาลูกศิษย์ย้ายตามมาอีก เนื่องจากเกรงมีเหตุ กระทบกระทั่งกับชาวบ้านในพื้นที่ แต่กลุ่ม ลูกศิษย์ต่างอ้างว่า บ้านเดิมอยู่ที่อุบลราชธานี หนองบัว ร้อยเอ็ด อุดรฯ กลับบ้านไม่ได้แล้วมาอยู่กับพระบิดา ที่อำเภอคอนสารนานจนกระทั่งได้ฝังรกรากจะกลับไปก็ไม่มีอะไรจะทำแล้ว ต้องติดตามพระบิดาต่อไปจะอยู่กันแบบนี้ เบื้องต้นผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยม่วง และบ้านผาสามยอด รับข้อมูลไป ก่อนจะเปิดประชาคมหมู่บ้านในอีก 1-2 วัน ให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด เข้าชี้แจง ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อน หรือจะมาตั้งลัทธิหรือไม่อย่างไร พอจะอยู่ร่วมกับชาวบ้านได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะมีมาตรการอย่างไรต่อไป
