พปชร.-ภท.-สว.เด้งรับ ทักษิณเย้ยเข้าทางกก. พรรคเล็กลั่นชนะแล้ว ฝ่ายค้านจ่อส่งตีความ พรบ.ตำรวจฉลุยวาระ3
‘ตู่-ป้อม’ส่งสัญญาณดันสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 เรียกถกแกนนำรัฐบาล ส่งซิกพรรคร่วม-ส.ว.หนุน ‘หมอระวี’ ลั่นชนะแล้ว ฝ่ายค้านจ่อร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อไทยฉะเป้าหมายสืบทอดอำนาจ รัฐสภาถกร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง วาระ 2 ไม่ราบรื่น สุดท้าย ‘ชวน’ชิงปิดก่อนองค์ประชุมล่ม ฝ่ายค้านยืนกรานขอซักฟอก 5 วัน สร้างอนาคตไทยเตรียมเปิดตัว ‘สมคิด’ แคนดิเดต นายกฯ หลังศึกซักฟอก ‘สุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์’ หอบลูกซบชาติไทยพัฒนา พ.ร.บ.ตำรวจผ่านฉลุยวาระ 3 นายกฯทัวร์กำแพงเพชร 7 ก.ค.
ป้อมไม่ปล่อยฟรีโหวต-สูตรสส.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลัง ประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม. ถึงข้อถกเถียงเรื่องสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จะหารด้วย 100 หรือ 500 พปชร.มีท่าทีอย่างไร ว่า แล้วแต่วิปรัฐบาลจะหารือ กมธ.พิจารณากฎหมายลูกก็ออกมาแล้วจะมาถามอย่างไร เรื่องนี้ พปชร.ไม่ต้องให้ทิศทางอะไร กมธ.และประธานวิปรัฐบาลประชุมออกมาอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น
“ให้กมธ.ว่ากันไป และขึ้นอยู่กับประธานวิปจะไปพูดคุยกันอย่างไร แต่ฟรีโหวตไม่ได้ ให้ประธานกมธ.และวิปไปคุยกันว่าจะเอาเหมือนกันอย่างไร” พล.อ.ประวิตรกล่าวยืนยันอีกครั้งหลังประชุมครม.
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพปชร. ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.ถึงสูตรปาร์ตี้ลิสต์ นายกฯ ได้พูดคุยเรื่องนี้อย่างไรว่า กำลังดูอยู่ เมื่อถามว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร นายสันติไม่ตอบ เมื่อถามว่าจะโหวต 6 ก.ค.นี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะตัดสินใจอย่างไรใช่ หรือไม่ นายสันติยิ้มโดยไม่ได้ตอบคำถาม
ภท.เลี่ยงตอบสูตรปาร์ตี้ลิสต์
ที่ทำเนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปฏิเสธตอบคำถามถึงท่าทีของ ภท.ต่อการโหวตสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยบอกว่าให้ถามจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการภท. พร้อมชี้มือไปที่ลำคอสื่อว่าเจ็บคอ
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามจากนายศักดิ์สยาม ก็ปฏิเสธตอบคำถามโดยระบุ “ภูมิใจไทยฟังหัวหน้าคนเดียว”
ตู่ถกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล
รายงานข่าวเผยว่า ในที่ประชุมครม. นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ประสานงานวิปรัฐบาล ได้รายงานว่า ฝ่ายค้านจะขอเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ 5 วัน ลงมติวันที่ 6 ที่ประชุมไม่ติดขัดหากต้อง ลงมติ 23 ก.ค.หรือ 24 ก.ค. ให้เป็นหน้าที่ ของวิปรัฐบาลไปหารือกับวิปฝ่ายค้านให้ได้ข้อสรุปในวันที่ 6 ก.ค.
ทั้งนี้ ระหว่างช่วงพักเบรกการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ เรียกแกนนำรัฐบาลเข้าหารือเกี่ยวกับสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จะใช้สูตรหาร 100 หรือ หาร 500 ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร, นายสันติ, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลฯ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม, นายอนุทิน, นายศักดิ์สยาม, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้า ปชป. ไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากกระทรวงพาณิชย์
อารมณ์ดี – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉีกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ระหว่างแถลงผลการประชุมครม. ที่ออกหลายมาตรการดูแลประชาชนได้รับผลกระทบจากวิกฤตของแพง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 ก.ค.
ดันสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500
พล.อ.ประยุทธ์ สอบถามความเห็นรายบุคคล พล.อ.ประวิตรยืนยันว่า “เอาหาร 100” นายอนุทิน กล่าวว่า “เอาหาร 500” ขณะที่นายเฉลิมชัย แจ้งว่า “ส่วนตัวเห็นด้วยกับสูตรหาร 500 แต่ในพรรคบางส่วนยังเห็นต่างกัน พรรคอาจต้องฟรีโหวต” จากนั้น พล.อ. ประยุทธ์ระบุว่า “ส่วนตัวเห็นด้วยกับสูตร หาร 500 แต่ไม่ว่าจะออกเป็นสูตรไหน ก็ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอยู่ดี ขอให้คุยกันมาแล้วกัน” และเมื่อแนวโน้มการหารือส่วนใหญ่เอนเอียงไปที่สูตรหาร 500 พล.อ. ประวิตร จึงมีท่าทีอ่อนลง จึงกล่าวว่า “จะเอาอย่างไรก็ว่ากัน”
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ รัฐมนตรีหลายคนจับกลุ่มคุยกันเรื่องนี้ แนวโน้มส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าควรใช้สูตรหาร 500 และประเมินเสียงโหวตของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลว่าถึงอย่างไรเชื่อว่าสูตรหาร 500 จะชนะ สูตรหาร 100
หลังประชุม ครม.เสร็จสิ้น รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.หลายคนได้เดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อร่วมพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงนายสุชาติ ไปที่สภาเพื่อส่งสัญญาณ กับ ส.ส.ว่า สูตรหาร 500 จะเป็นประโยชน์กับพรรคมากกว่า
จีน-ไทย – นายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยม คารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในโอกาสเยือนประเทศไทย ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 ก.ค.
ซีกรัฐบาล-สว.เด้งรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร หารือกันจนได้ข้อสรุปให้ใช้สูตร 500 หาร และส่งสัญญาณถึงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและกลุ่มส.ว. จึงค่อนข้างชัดเจนพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะสนับสนุนการใช้สูตร 500 หาร โดย พปชร.จะให้ส.ส.ฟรีโหวต แต่ทิศทางทุกคนจะสนับสนุนการใช้ 500 หาร เช่นเดียวกับ ภท.ให้เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. แต่การลงมติจะเป็นเอกภาพในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ ปชป.เสียงแตกเป็น 2 กลุ่ม แต่เสียงส่วนใหญ่ 40 คน หนุนหาร 500 ขณะที่ ภท. พรรคเล็ก และส.ว.จะเทเสียงให้สูตรหาร 500 ทั้งหมด โดยจะโหวตประเด็นดังกล่าว ซึ่งอยู่ในมาตรา 23 ในวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งมีแนวโน้มเสียงโหวตท่วมท้นชนะฝ่ายค้านที่มีเพียง พท. และพรรค ก.ก.เป็นแกนหลักสนับสนุนสูตร 100 หาร
ด้านแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับรู้การเคลื่อนไหวในขั้วรัฐบาลแล้ว จึงเตรียมขั้นตอนต่อไปคือหาช่องทางร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการใช้ 500 หาร ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ขณะเดียวกันมีความเป็นไปได้ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหันกลับไปใช้สูตรเดิมคือ การแตกแบงก์ หากมีการใช้สูตร 500 หาร เพื่อผนึกกำลังให้ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
ปชป.กลืนน้ำลายปล่อยฟรีโหวต
เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา ชั้น 3 ห้องรับรองของนายเฉลิมชัย เลขาฯ ปชป. มีการประชุมส.ส.ปชป. เพื่อหารือแนวทางการโหวตร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ประเด็นสูตรการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธานส.ส.เป็นประธาน
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปพรรค และรองประธานกมธ. ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงหลักการของกมธ.ที่ยึดสูตรหาร 100 ว่า ปชป.เสนอญัตติขอแก้ไขร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. โดยชูต่อกระแสสังคมว่าจะเอาสูตรหาร 100 เพราะใช้สูตรหาร 500 ผิด มาตรา 86 และ 91 ที่สำคัญพรรคเสนอขอแก้ไขประเด็นนี้เอง จึงต้องยึดหลักการตรงนี้ไว้ และวิปรัฐบาลก็ยึดตามแนวทางพรรคร่วมรัฐบาลที่ใช้สูตร 100 หาร
ขณะที่นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และกมธ. ยืนยันสูตร 500 หารเหมาะสมกว่า รักษาเจตนารมณ์ของรัฐธรรม นูญและมีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่า
หารือได้ประมาณ 30 นาที ที่ประชุมร่วมรัฐสภาเรียกลงมติ การประชุมพรรคต้องหยุดชะงัก ขณะที่น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลฯ ตะโกนว่า ประเด็นนี้พูดคุยมา 2 วันแล้ว ถ้ายังไม่จบก็ปล่อยให้ฟรีโหวตแล้วกัน ทำให้ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นพ้อง ก่อนแยกย้ายไปร่วมประชุมรัฐสภา
หลังมากลับมาประชุมส.ส.พรรคอีกครั้ง ทำให้จำนวนส.ส.มาไม่ครบ จึงมีการแจ้งว่าเมื่อสมาชิกเห็นต่างเช่นนี้พรรคจะให้ฟรีโหวต ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการประชุม ทั้ง นาย จุรินทร์ นายเฉลิมชัย และรัฐมนตรีของพรรค ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแม้แต่คนเดียว
พรรคเล็กลั่นเราชนะแล้ว
ขณะนี้ช่วงค่ำ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ โทร.ล็อบบี้ส.ส.ภาคใต้ทุกคนว่าเลขาฯพรรคได้รับสัญญาณจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลให้โหวตสูตร 500 หาร เช่นเดียวกับนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่โพสต์จุดยืนสนับสนุนสูตรหาร 500 และช่วงเช้ามีส.ว.ร่วม 10 คน เดินมาจับมือแสดงความเห็นด้วยกับนายพนิต โดยเฉพาะ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เดินมาจับมือก่อนจะเปิดประชุมร่วมรัฐสภา โดยบอกว่า “เราชนะแล้ว สูตร 500 มาแน่”
พท.ซัดตู่หวังสืบอำนาจ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พท. รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ. ประยุทธ์ ส่งสัญญาณแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และกลุ่มส.ว.สนับสนุนใช้สูตรหาร 500 ว่า แย้งกับรัฐธรรมนูญยังคิดจะเอาอยู่หรือ มีเจตนาอะไร หากเป็นเช่นนั้นจริงเท่ากับ พล.อ. ประยุทธ์ต้องการสืบทอดอำนาจต่อ
เมื่อถามว่าท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นการดับฝันแลนด์สไลด์ของ พท.หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า หากประชาชนเลือก ต่อให้จะใช้วิธีการอะไร ประชาชนก็เลือก ยิ่งไปใช้วิธีการที่ไม่ชอบพามากลประชาชนรู้ทัน ยืนยันาไม่มีใครกำหนดเรื่องแลนด์สไลด์ได้นอกจากประชาชน เรื่องนี้อย่างไรก็ถึงศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องมีใครไปร้อง
ไพบูลย์ยันวิปรัฐดันสูตร 100
ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพปชร. และกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กล่าวกรณีมีสมาชิกรัฐสภาบางคนพูดทำนองการใช้ 100 หาร ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า กกต.เป็นผู้เสนอร่างดังกล่าว ซึ่งให้หารด้วย 100 และเสนอครม. ซึ่งส่งกฤษฎีกาตรวจสอบ ก่อนส่งกลับมาครม.แล้วอนุมัติก่อนส่งสภา ที่สมาชิกบางคนกล่าวหาการหาร 100 จะขัดรัฐธรรมนูญ เท่ากับกล่าวหากกต.โดยตรง และอาจทำให้กฤษฎีกา รวมถึงครม. ซึ่งมีส่วนร่วมในการรับรองได้รับผลกระทบด้วย ความเห็นของบางคนกับองค์กรอิสระที่มีหน้าที่โดยตรงอย่างกกต. ใครมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่ากัน
นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน เมื่อประชาชนหย่อนบัตร 2 ใบ ใบหนึ่งเลือก ส.ส.เขต อีกใบเลือกส.ส.บัญชีรายชื่อ กลับเอาคะแนนรวมส.ส.บัญชีรายชื่อไปหารด้วยส.ส. ทั้งสภาคือ 500 เพื่อให้ได้ส.ส.พึงมี คิดเอง เออเองโดยที่ไม่มีหลักการ ไม่มีกฎหมายรองรับ 4 ก.ค. วิปรัฐบาลมีมติเห็นชอบกับ มติ กมธ. ที่เห็นชอบกับร่างของกกต.ให้หารด้วย 100 พปชร.ยึดหลักการตามคณะกมธ.
นิโรธแย้งวิปยังไม่มีมติ
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.พปชร. ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าว พปชร.พร้อมโหวตหนุนสูตรหาร 500 ว่า พปชร.ยังไม่ได้หารือกันเรื่องนี้ เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา เมื่อถามว่ามีโอกาสที่พปชร.จะโหวตแนวทางหาร 500 เพื่อสกัดแลนด์สไลด์ พท.ใช่หรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ไม่ได้มองประเด็นนี้ พรรคพร้อมหมดไม่ว่าจะหาร 500 หรือหาร 100 และมั่นใจว่าพปชร.กลับมาได้อยู่แล้วในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะใช้สูตรใดก็ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน วิปรัฐบาลยัง ไม่ได้มีมติเรื่องโหวตสูตรคำนวณว่าจะออกมาทางใด ขอให้เป็นเรื่องที่ กมธ.เสนอและเป็นดุลพินิจของสมาชิกรัฐสภา
ทักษิณเย้ยเข้าทางก้าวไกล
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือ พี่โทนี่ วู้ดซัม กล่าวผ่าน CareTalk x Care ClubHouse หัวข้อ “ผู้นำต้องทำงาน ไม่ใช่ผลาญแต่ภาษี” ตอนหนึ่งว่า ได้ข่าวจะมีการโหวต โดยนายกฯ ทุบโต๊ะสั่งให้เอาหาร 500 มีบางคนมาท้าตนว่า 100 แน่นอน ก็เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง อะไรก็ได้อยู่แล้ว เฉยๆ เพราะตนไม่ได้เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าพอเขาบอกว่าหาร 500 ก็พยายามคิด เป็นเพราะนายกฯ กลัวพรรคเล็กพรรคน้อยจะไปยกมือร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะล้มตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เลยต้องเอาใจโดยหาร 500 สรุปแล้วที่อยู่เป็นเพราะอยากอยู่ แต่ไม่ได้อยู่เพราะอยากแก้ปัญหาให้บ้านเมือง เพราะไม่มีปัญญาแก้แน่นอน วันนี้อยากอยู่ต่อก็เลยต้องเอาใจพรรคเล็ก
“ถ้าผมประเมินสมมติว่าถ้าเป็นหาร 500 ก้าวไกลจะได้ปาร์ตี้ลิสต์เยอะขึ้น ถ้าหาร 100 เพื่อไทยจะได้ปาร์ตี้ลิสต์เยอะขึ้น 2 พรรคนี้ออกหัวออกก้อยก็ 300 บวก ส่วนพรรคเสรีรวมไทยซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก็จะมีปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้น พรรคประชาชาติก็จะได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มด้วย ฝ่ายประชาธิปไตยไม่แคร์เขารวมกันยังไงก็ได้เกิน 300 อยู่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลทำอีท่าไหนก็ตามยังไงก็ไม่เกิน 200คิดว่าฝ่ายประชาธิปไตยไม่มีปัญหา แต่ถ้าเอา 500 ฝ่ายรัฐบาลวันนี้ก็จะได้พวก 500 ไปเยอะหน่อย” นายทักษิณ ระบุ
ชทพ.โหวตตามกฎหมาย
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ ชทพ. กล่าวว่า ในฐานะที่ชทพ.เป็นภาพขนาดกลางถึงเล็ก แน่นอนว่าการหารด้วย 500 จะเป็นประโยชน์กับพรรค ส่วนตัวก็ชอบ แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ ต้องดูเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย กฎหมายกำหนดไว้เช่นไรต้องทำตามนั้น หากเอื้อให้ทำหาร 500 ก็ยินดี แต่ถ้ากำหนดว่าเป็น 100 ขอยืนยันว่าต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด
เมื่อถามว่า ชทพ.จะปล่อยฟรีโหวตหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า คงต้องหารือกันภายในพรรคก่อน แต่เท่าที่พูดคุยกันหลายครั้ง ชทพ.มีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกันว่าถ้าโหวต 500 แล้วไม่ขัดรัฐธรรมนูญแน่นอนว่า เราเห็นด้วย แต่ถ้าต้องโหวต 100 ก็ต้อง 100 ตามนั้น เพราะยึดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
พร้อมหนุน 11 รมต.ผ่านซักฟอก
ส่วนที่นายกฯ กำชับพรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันเตรียมข้อมูลชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวราวุธกล่าวว่า ประเพณีของชทพ.เราต้องประชุมก่อนลงคะแนน ตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล 3 ปีกว่า ได้เห็นและทำงานกันอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาใดๆ การจะลงคะแนนอย่างไรก็ต้องรอให้มีการประชุมหารือของพรรคก่อน และแม้นายกฯ และรัฐมนตรีถูกอธิบายมากถึง 11 คน ก็เชื่อว่าเสียงไม่แตกอย่างแน่นอน คงไปในทิศทางเดียวกันทั้งพรรค
เมื่อถามถึงการเปิดตัวนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ผอ.ภาคเหนือ สอท. และนายวันชัย เจียมวิจักษณ์ ในวันเดียวกัน จะไม่เป็นปัญหากับ สอท. นายวราวุธกล่าวว่า ในการเมือง การโยกย้ายถ่ายเปลี่ยนตัวผู้สมัคร หรือส.ส.เป็นเรื่องปกติตามครรลองประชาธิปไตย และ เป็นแนวทางที่เห็นมานาน แน่นอนการเป็นมิตรภาพระหว่างพรรคด้วยกันก็ยังคงอยู่ ชทพ.อาจไม่หวือหวามากเหมือนพรรคใหญ่ๆ พรรคอื่นแต่จะมีการเปิดตัวเข้ามาเป็นระยะตามที่ได้พูดคุยไว้กับหลายคน และแน่นอนว่ายังมีเบอร์ใหญ่อีกแน่นอน
ฝ่ายค้านย้ำขอเปิดเขียง 5 วัน
ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พท. กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตนในฐานะผู้ร่วมอภิปรายได้รับมอบจากพรรคให้จัดสรรเวลา การอภิปรายไม่ใช่แค่ 11 รัฐมนตรี แต่เป้าหมายหลักคือ นายกฯ รอง นายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น รมว.อุตสาหกรรม รมว.พลังงาน รมว.คลัง และรัฐมนตรีกระทรวงอื่นๆ อีกด้วย ดังนั้นต้องมาให้ครบ เพราะหากมากันไม่ครบหมายความว่า ปล่อยให้นายกฯ นั่งบนแพแล้วปล่อยให้นั่งไปคนเดียว เพราะการอภิปรายนายกฯ ต้องพาดพิงไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ที่ดูแลเรื่องดิน น้ำ ลม ไฟ
ส่วนเวลาในการอภิปรายเมื่อหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านคงต้องใช้เวลาในการอภิปรายมาก 3 วัน 5 วัน 7 วัน ถือเป็นเวลาที่เหมาะสม 3 วันเผาเลยคงไม่ได้เรื่อง หากเป็น 5 วันสวดแล้วเผาคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ขอให้นายนิโรธ ประธานวิปรัฐบาล เปิดใจกว้างขอเวลา 5 วัน
สภาร่วมถกเดือด-พรบ.ตำรวจ
เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธาน พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ… ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว เป็นวันที่ 7 โดยเป็นการพิจารณาถึงมาตรา 169/1
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะกมธ. ที่ขอแก้ไขมาตรา 169/1 อภิปรายว่า การปรับย้ายจะเปลี่ยนแปลงทันทีไม่ได้ และไม่มีส่วนความประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลใด กระบวนการแต่งตั้งทั้งหมดตั้งแต่ ผบ.ไปถึงระดับล่างหลายหมื่นอัตรา ทั้งหมดจะดำเนินการโดยไม่มีปัญหาให้อยู่ภายใน 180 วัน ไม่ยืดเยื้อไปกว่านี้
พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. ในฐานะกมธ. ชี้แจงยืนยันว่าเพื่อรักษาความเที่ยงธรรมในการแต่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจได้ศึกษาและเตรียมตัว ไม่ได้มีเจตนาใดอื่นแฝง
จากนั้น นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. ประท้วงว่า การที่รัฐสภาจะดำเนินการแบบนี้ถือว่าฝ่าฝืนข้อบังคับ ถ้าดำเนินการต่ออาจทำให้กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภามีปัญหา ยังไม่ต้องพูดถึงเบื้องหลังมาตรา 169/1 ที่เจตจำนงเพื่อเอื้อประโยชน์ช่วยคนบางคนให้มีอำนาจต่อ
นายสมชายใช้สิทธิพาดพิงว่าการประชุมคราวที่แล้วนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.ปชป. เสนอให้ใช้มาตรา 108 กับ 96 ตามข้อบังคับ กมธ.ไม่ได้เสนอ และกมธ.เรียกประชุม 3 ครั้งในการแก้ปัญหา ตนเสนอตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องคือข้อ 75 ไปมโนอย่างไรไม่ทราบ พร้อมชี้หน้า ทำให้นายธีรัจชัย ลุกประท้วงให้ถอนคำว่ามโน เพราะไม่สุภาพ แต่นายสมชายไม่ยอม จนมีการโต้เถียงกัน นายชวนจึงให้นายสมชายถอนคำพูด นายสมชายต่อรองว่าถอนคำว่ามโนได้ แต่นายธีรัจชัยต้องถอนคำที่กล่าวหาว่าไปเอื้อประโยชน์บุคคลอื่น นายธีรัจชัยไม่พอใจกล่าวว่า “ท่านมาชี้หน้าพฤติการณ์อย่างนี้มันไม่สุภาพ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่” นายสมชายสวนว่า “ไม่เป็นไร ผมไม่กลัวอะไรท่านหรอก อย่ามาขอข้อมูลเลย แอบขอข้อมูลอยู่เรื่อย ผมเป็นผู้ใหญ่ไม่ไปรบกับเด็ก” นายชวนพยายามไกล่เกลี่ย ก่อนที่นายสมชายอภิปรายยืนยันว่า ตามข้อบังคับที่ 75 วรรคสอง ระบุชัดเจน กมธ.สามารถแก้ไขเพิ่มเติม และพิจารณาเสร็จแล้ว ดังนั้นสามารถทำได้
ผ่านฉลุยวาระ 3
จากนั้นนายชวนวินิจฉัยว่า กระบวนการที่นายธีรัจชัยพูดนั้นไม่ผิด แต่ที่ประชุมสามารถอนุญาตให้กลับไปทบทวนได้ ก่อนพิจารณามาตรา 169/1 ต่อ ผู้อภิปราย ทั้ง นายอดิศร เพียงเกษ กมธ.
นายสาธิต วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ปชป. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พท. ต่างอภิปรายแย้ง หวั่นจะกลายเป็นบรรทัดฐานนิติบัญญัติ ให้มีการแก้ไขเนื้อหาหน้างาน และเปิดช่องให้มีตั๋วช้าง และตั๋วตำรวจต่างๆ
โดยนายรังสิมันต์ยังระบุ กมธ.โดยเฉพาะท่านที่มาจาก ตร.รู้ดีว่ากำลังช่วยใคร สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ใช่แค่การวางตัวคนที่จะไปเป็นรองผบ.ตร. แต่ได้ยินมาว่าลำดับท้ายๆ กำลังจะได้รับสิทธิในการข้ามหัวคนอื่นขึ้นเป็นรองผบ.ตร. ปีถัดไปก็จะเป็น ผบ.ตร. เหตุผลที่กมธ.ขอ 180 วัน ชะลอกฎหมายที่กำลังจะผ่านสภาเพื่อวางไข่ วางทายาทอสูร ตั้งแต่รองผบ.ตร.ไปจนถึงตำรวจระดับชั้นที่น้อยที่สุด สภากำลังยอมให้เกิดระบบตั๋วในวงการตำรวจ
หลังนายสมชายชี้แจง ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับกมธ.ที่เพิ่มขึ้นใหม่ 344 ไม่เห็นด้วย 181 งดออกเสียง 50 ไม่ลงคะแนน 1 คน เป็นอันว่าที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับกมธ. ที่เพิ่มใหม่
จากนั้นเวลา 13.30 น. หลังพิจารณาครบทั้ง 172 มาตราในวาระ 2 แล้ว ได้ลงมติวาระ 3 ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ด้วยคะแนน 494 ไม่เห็นด้วย 40 งดออกเสียง 4 และไม่ลงคะแนน 1 เสียง ที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ รวมทั้งเห็นชอบกับข้อสังเกตของกมธ.ด้วย
เริ่มถกกม.ลูก-สะดุดทันที
เวลา 13.40 น. ในการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธาน พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการพรรคการเมือง วาระ 2-3 ที่กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เริ่มพิจารณาร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. สาระสำคัญคือ การกำหนดวิธีเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ใช้วิธีคำนวณหาส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยนำคะแนนบัญชีรายชื่อทั้งประเทศมารวมกันแล้วหารด้วย 100 เป็นคะแนนเฉลี่ยคิดส.ส.บัญชีรายชื่อต่อ 1 คน
การพิจารณาช่วงแรกราบรื่น กระทั่งถึงมาตรา 6 เรื่องการกำหนดจำนวนส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมี นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ. อภิปรายเสนอเพิ่มเติมให้มีมาตรา 6/3 เรื่องการให้หมายเลขผู้สมัครส.ส.เขต กับส.ส.บัญชีรายชื่อ ควรเป็นหมายเลขเดียวกันทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน กกต.จัดการเลือกตั้งได้ง่าย
ปรากฏมีผู้อภิปรายขอหารือว่า ไม่สามารถอภิปรายได้เพราะเนื้อหาเรื่องบัตร 2 ใบ คนละเบอร์ ไม่มีเนื้อหาอยู่ในมาตราใดของร่างกฎหมายฉบับนี้เลย ที่สุดนายพรเพชรแจ้งว่า ประธานกมธ.บอกว่า มีการทำรายงานมาไม่ครบถ้วน เพราะไม่มีการเขียนเนื้อหาที่กมธ.เสียงข้างน้อยสงวนคำแปรญัตติขอแก้ไขไว้ ทำให้เนื้อหาดังกล่าวหายไปจากร่าง จึงขอพักประชุม 15 นาที ไปแก้ปัญหา
ฝ่ายค้านฉะเกมยื้อ
เวลา 17.25 น. การประชุมร่วมรัฐสภากลับมาประชุมอีกครั้ง หลังพักการประชุมกลับไปแก้ไขเนื้อหาเอกสารของ กมธ.ในมาตรา 6/3 ที่ขอแปรญัตติไม่มีอยู่ในรายงาน โดยนายชวน ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม กล่าวว่า ได้ตรวจสอบรายงานของกมธ.พบว่า มาตรา 6/3 มีการแปรญัติไว้จริง ซึ่งแปรญัตติไว้ 4 กลุ่ม หากลงมติมาตรา 6/2 เรียบร้อยแล้วจะเปิดโอกาสให้ผู้แปรญัตติทั้ง 4 กลุ่ม อภิปรายในมาตรา 6/3
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พท. อภิปรายต่อว่า ฝ่ายเสียงข้างมากพยายามชะลอการบังคับใช้กฎหมาย จะหาร 500 หรือ 100 พวกตนไม่มีปัญหา กติกาไหนเราสู้ทั้งหมด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมพยายายามไม่ให้กฎหมายสำเร็จ
แม้นายชวนจะรอให้สมาชิกเข้ามาเป็น องค์ประชุมโดยใช้เวลาเกือบ 20 นาที แต่ องค์ประชุมยังไม่ครบ นายจุลพันธ์เสนอให้ปิดประชุม แต่นายชวน ยังไม่ยอมให้แสดงตนเพื่อนับองค์ประชุม ทำให้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.พปชร. แจ้งว่า พัก 10 นาที แต่ตอนนี้ล่วงกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที จนหลายคนคิดว่าเลิกประชุมไปแล้ว จึงขอเสนอให้ปิดประชุม นายชวนสวนกลับไปว่า ยอมง่ายๆอย่างนั้นเลยหรือ และขอให้สมาชิกรอเข้าห้องประชุม กระทั่งเวลา 17.57 น. นายชวนขอนับองค์ประชุม มีองค์ประชุม 366 คน ถือว่าครบองค์ประชุม การประชุมดำเนินต่อไปได้
ชิงประชุมก่อนล่ม
เวลา 18.00 น. ที่ประชุมพิจารณามาตรา 6/3 เกี่ยวบัตรเลือกตั้งสองใบ คนละเบอร์ โดยสมาชิกที่สงวนคำแปรญัติอภิปรายเห็นว่า บัตรเลือกตั้งส.ส.เขต และบัตรเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อ ควรจะใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ เพื่อสะดวกต่อการจดจำของประชาชน เป็นประโยชน์ต่อการหาเสียงและนำเสนอนโยบาย ง่ายต่อการจัดการเลือกตั้งของ กกต.
ขณะที่กมธ.ระบุการใช้บัตรสองใบคนละเบอร์ หากใช้เบอร์เดียวกันจะเกิดการซื้อเสียงได้ง่ายขึ้น
หลังจากอภิปรายเสร็จสิ้น นายชวนกดออดเรียกสมาชิกให้มาลงมติ ร่วม 10 นาที แต่สมาชิกยังบางตา กระทั่งนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.พปชร. เสนอให้ปิดการประชุม และพิจารณาต่อ 6 ก.ค. ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.สพท. กล่าวว่า ประธานขอให้แสดงตนมานานแล้ว ขอให้แสดงผลเลย ไม่ครบก็ปิดประชุมและกลับบ้าน นายชวนจึงแจ้งว่า ยังขาดอีก 100 กว่าคนเท่านั้นเอง เมื่อสมาชิกปรารถนาให้ปิดประชุมก็ปิดประชุม โดยปิดประชุมในเวลา 19.22 น.
ร่วมงาน – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ รองหัวหน้าพรรค พบปะกับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรมช.คลัง นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ น้องชาย ก่อนเปิดตัวร่วมงานการเมือง เมื่อ 5 ก.ค.
ภท.จ่อเปิดตัว‘ประดิษฐ์’
รายงานข่าวจาก ภท.เผยว่า ช่วงเย็น 5 ก.ค. นายอนุทิน นายศักดิ์สยาม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รองหัวหน้า ภท. ร่วมพูดคุย และรับประทานอาหาร กับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรมช.คลัง และอดีตส.ส.พิจิตร หลายสมัย นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ น้องชายนายประดิษฐ์ ที่เคยลงสมัคร ส.ส.พิจิตร ในนามพรรคไทยรักษาชาติ
โดยมีความเห็นร่วมกันว่า ทีมนายประดิษฐ์จะเข้าร่วมงานกับ ภท. ดูแลพื้นที่จ.พิจิตร คาดจะเปิดเป็นทางการเร็วๆ นี้ ที่จ.พิจิตร โดยวันเดียวกัน มีการถ่ายภาพร่วมกันเพื่อเป็นที่ระลึก และเชิงสัญลักษณ์ว่าได้จับมือทำงานการเมืองด้วยกันแล้ว
สมคิดจ่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรค สอท. เตรียมเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการ โดยมีรายงานว่า เตรียมความพร้อมเปิดตัวหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจในระหว่าง 19-23 ก.ค.นี้
ขณะที่ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค โพสต์เฟซบุ๊กภาพถ่ายของ นายสมคิดในหลากหลายอิริยาบถ ทั้งแบบสวมสูทและถอดสูท ที่จะใช้โปรโมตการ เปิดตัว พร้อมข้อความระบุว่า “ทั้งชีวิตวนเวียนกับ การจัดให้มีการถ่ายรูปคน และบางคนได้เป็นถึงนายกฯ ได้เห็นวิถีคนขึ้นลง รอบนี้รอคนนี้เปิดตัว #TheLastWar #ทีมสมคิด
พ่อลูกเจียมวิจักษณ์ซบ‘ชทพ.’
เวลา 15.00 น. ที่ทำการ ชทพ. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.สุพรรณบุรี นาย พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม ต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย 2 คน คือ นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ และนายวันชัย เจียมวิจักษณ์ บุตรชาย หลังทั้งสองคนกรอก ใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคแล้ว นายวราวุธสวมเสื้อแจ๊กเกตพรรคสมาชิกใหม่
สำหรับนายสุรสิทธิ์ เคยเป็นส.ส.มาหลายสมัย ปี 2538 เป็นส.ส.พรรคเอกภาพ ปี 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย ปี 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน ปี 2554 สังกัดพรรคเพื่อไทย ล่าสุด ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เคยเปิดตัวในฐานะแกนนำของพรรค สอท. ในตำแหน่งประธานภาคเหนือ
อาสาฬหบูชา – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ที่โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 ก.ค.
ตู่ทัวร์กำแพงเพชร 7 กค.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ มีกำหนดการลงพื้นที่จ.กำแพงเพชร 7 ก.ค.นี้ เพื่อตรวจราชการและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล
โดยเวลา 09.15 น. สักการะศาลหลักเมืองกำแพงเพชร และกราบนมัสการพระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะภาค 4 เจ้าอาวาสวัดคูยาง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จากนั้นตรวจเยี่ยมการบริหารงานกล้วยแปลงใหญ่บ้านท้องคุ้ง หมู่ 7 ต.พุทรา อ.คลองขลุง โดยผู้ว่าฯกำแพงเพชร กล่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และรับฟังรายงานการยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร โดยประธานกลุ่มกล้วยไข่แปลงใหญ่ จากนั้นตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ต.บางวัว อ.คลองขลุง
ช่วงบ่าย นายกฯตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำ การจัดหาแหล่งน้ำและการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ที่ฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) ต.วังแขม อ.คลองขลุง พบปะกลุ่มผู้รับประโยชน์จากโครงการพร้อมรับทราบปัญหา จากนั้นตรวจเยี่ยมกลุ่มปลูกข้าว GAP ขาณุวรลักษบุรี โมเดล ที่หมู่ 2 ต.แสนตอ อ.ขาณุวรลักษบุรี รับฟังสรุปผลการดำเนินงานการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม โครงการขาณุวรลักษบุรีโมเดล
ครม.ทุ่ม8.3พันล้านแจกผู้สูงวัย
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่าที่ประชุมครม.อนุมัติจัดสรรงบประมาณปี 2565 ที่เคยเห็นชอบหลักการไปแล้วเพื่อจ่ายเงินพิเศษช่วยเหลือประชาชนผู้สูงอายุตามระดับอายุ รวม 10.9 ล้านคน วงเงิน 8.3 พันล้านบาท โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับการช่วยเหลือเดือนละ 100-250 บาท รวม 4 เดือน นอกจากนี้ยังอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับ การประกอบการธุรกิจโรงแรมโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมปีละ 40 บาทต่อห้องพักตั้งแต่ปี 2563 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมได้มากถึง 47 ล้านบาท โดยขยายเวลาไปจนถึงมิ.ย.2567
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติวงเงิน 8,382.2 ล้านบาท สำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ จำนวน 10.95 ล้านคน เพื่อบรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจ เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ย.นี้ โดยจ่ายเฉลี่ยรายละ 100-250 บาท ต่อคนต่อเดือน ตามช่วงอายุ 4 กลุ่มดังนี้ อายุ 60-69 ปี จำนวน 6.5 ล้านคน อัตราเงินช่วยเหลือ 100 บาทต่อคนต่อเดือน อายุ 70-79 ปี จำนวน 3 ล้านคน อัตราเงินช่วยเหลือ 150 บาทต่อคนต่อเดือน อายุ 80-89 ปี จำนวน 1.2 ล้านคน อัตราเงินช่วยเหลือ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และอายุ 90 ปีขึ้นไป จำนวน 1.9 แสนคน อัตราเงินช่วยเหลือ 250 บาทต่อคนต่อเดือน แผนการจ่ายเงินครั้งแรกงวดที่ 1 วันที่ 19 ก.ค.นี้ เป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษครั้งเดียวสำหรับ 4 เดือน เม.ย.-ก.ค. ครั้งที่ 2 วันที่ 19 ส.ค. และครั้งที่ 3 วันที่ 19 ก.ย. ทั้งนี้จะดำเนินการทั้งในรูปแบบการจ่ายเข้าบัญชีธนาคารโดยกรมบัญชีกลาง และการจ่ายเงินสดให้ ผู้สูงอายุโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กทม. และเมืองพัทยา
