เสียงเชียร์ให้เป็นต่อ2ปีภท.คึกคัก-เปิดตัวพรึบอดีต34สส.-ตระกูลดัง
พท.จวกยับนักการเมืองแห่ย้ายพรรคตามใบสั่ง

‘บิ๊กตู่’ เปิดมหกรรมเที่ยวเมืองไทย แฟนคลับเชียร์สู้ๆ แม้จะอยู่อีกแค่ 2 ปีก็อยากให้อยู่ ปล่อยมุข ‘รักกันจริงอย่าทิ้งกันนะ’ ‘วิษณุ’ เผยนายกฯ นำกม.ลูกเลือกตั้งขึ้นทูลเกล้าฯ อย่างช้า 17 ธ.ค. ยันยังไม่ส่งซิก ยุบสภา ภูมิใจไทยคึกคัก 34 อดีตส.ส.แห่เข้าเป็นสมาชิกพรรค ทายาทคนดังทั้งลูกชาย เนวิน ลูกสาวชนมสวัสดิ์ ก็มา ‘เอ๋-ปารีณา’ โผล่นำพี่ชายเข้าซบด้วย ‘อนุทิน’ ดีใจมากันพร้อมเพรียง เดินหน้าตอกเสาเข็ม โต้กดดันยุบสภา ยัน ‘บิ๊กป้อม’ เมตตาภท.เสมอ ‘อันวาร์’ ถล่มปชป. ทิ้งทวนไขก๊อกไปอยู่พปชร. เพื่อไทย รุมอัดย้ายพรรคตามใบสั่ง ซัดนายกฯ เล่นเกมลอยตัวปมสภาล่ม พร้อมเดินหน้ายื่นแก้รธน.มาตรา 159 ที่มานายกฯ ยกเลิกมาตรา 272 ปิดสวิตช์ส.ว.

‘บิ๊กตู่’เปิดมหกรรมเที่ยวเมืองไทย
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์และภริยา พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคู่สมรส ร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

เวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการรับฟังการแถลงผลงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) และโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนในปี 2566 (ห้วงไตรมาส 1) ที่ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเที่ยว เมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ที่เวทีกลาง Exhibition Hall 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะเดินไปข้างหน้า ตนคิดทั้งวันว่าจะทำอะไรให้กับประเทศไทย ไม่เคยคิดอย่างอื่น เพียงแต่หวังว่าขอความร่วมมือร่วมใจจากพวกท่าน เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคตของประเทศไทยไม่ว่าใครจะอยู่ ใครจะเป็นใคร หรือใครจะมา ใครจะไป ประเทศไทยต้องอยู่ได้ ไม่มีตนก็ต้องมีคนอื่น อยู่ที่พวกเราทุกคนจะชี้ชะตาประเทศไทยให้เจริญได้อย่างไรในอนาคตเพื่อลูกหลาน

ถ้าเราไม่รักประเทศของเรา ไม่รู้เราเป็นใครมาจากไหน เราจะรู้จักอัตลักษณ์ประเทศไทยได้หรือไม่ว่า เราเป็นใครมาจากไหน เดินมาจากที่ไหน บรรพบุรุษเราเป็นใครเราจะไม่รู้จักประเทศของเราไม่ได้ ถ้าไม่รู้จะรักได้อย่างไร เพราะนี่คือบ้านของเรา คือที่เกิด ที่ทำมาหากินและเป็นที่ตายของเรา

บอก‘รักกันจริงอย่าทิ้งกัน’
“วันนี้อาจจะพูดแรงไปนิด อาจจะเมาเครื่องบิน อย่าเห็นว่าผมเครียด แต่จริงๆ แล้วก็เครียดนั้นแหละ ตั้งแต่เช้ามามีงาน เจอนั้นเจอนี่ ตอบไลน์ทั้งวัน ซึ่งเป็นหน้าที่ทุกคน มาอยู่แบบผมก็ต้องทำแบบผม ถ้าใครไม่ทำ ก็ใช้ไม่ได้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่สัญญา กันไว้ว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 11.5 ล้านคน ไม่ใช่ 15 ล้านหรือคาดหวังอะไรมากๆ ไว้หน่อยก็ดี 11.5 ล้านคน ผมว่าได้แน่ๆ ทำให้ดีบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง คิดว่า 15 ล้านคนสบาย ต่างชาติจับตามองดูอยู่ ถามถึงประเทศไทย ทั้งวันเป็นอย่างไร เที่ยวที่ไหน ผมเล่าและอธิบายภาพไป

“นักกีฬาฟุตบอลโลกรู้จักประเทศไทย ซึ่งเขาเคยมาตอน 10 ขวบ วันนี้ 30 ปีผ่านไปประเทศไทยเปลี่ยนไปเยอะ อาจจะจำไม่ได้หลายคนอยากจะมา แต่ผมอาจทำการตลาด ไม่เก่ง หน้าไม่ค่อยยิ้ม แต่จริงๆแล้ว เป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้หงุดหงิดอะไรเท่าไหร่ เว้นแต่เจอคำถามที่หงุดหงิด ผมเป็นคนอารมณ์ดีจริงๆ วันนี้ดีใจได้กลับมาตรงนี้อีกครั้งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ในการประชุมเอเปค ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทุกคนประทับใจและชื่นชมการทำงานของเราในการประชุม เอเปคที่ผ่านมา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินชมบูธภายในงานได้มีกลุ่มผู้ประกอบการ มอบของที่ระลึก พร้อมส่งเสียงให้กำลังใจ ว่ารักลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ อยากให้อยู่นานๆ แม้จะอยู่อีกแค่ 2 ปี ก็อยากให้อยู่ พล.อ.ประยุทธ์ จึงหันมาปล่อยมุขทันทีว่า “รักกันจริงอย่าทิ้งกันนะ”

ทูลเกล้าฯกม.ลูกเลือกตั้ง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า วันที่ 16 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในวันที่ 16 ธ.ค. หรืออย่างช้า 17 ธ.ค. ตามขั้นตอนเมื่อมีการทูลเกล้าฯ แล้วจะอยู่ในพระบรมราชวินิจฉัย 90 วัน เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา และประกาศในราชกิจจานุเบกษาจะมีผลบังคับใช้ในวันถัดไป ถือว่ากติกาสำหรับการเลือกตั้งครบถ้วนแล้ว หากใครจะคัดค้านต้องดำเนินการหลังมีผลบังคับใช้แล้ว ส่วนกระบวนการนั้นต้องไปร้องศาลและให้ศาลส่งต่อมายังศาลรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ลาออกจำนวนมากทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตนายกฯ จะยุบสภา นายวิษณุกล่าวว่า เดิม ส.ส.มี 500 คน ขณะนี้เหลือ 400 กว่าคน องค์ประชุมลดตามลงมา ประมาณ 220 คน ฉะนั้น สภายังดำเนินการได้ตามปกติ เหมือนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าไว้ ยังประชุมได้ ทำภารกิจได้ และยังมีเวลาเหลือ 2 เดือนกว่า หลังจากนี้รัฐบาลคงไม่เสนอกฎหมายใหม่เข้าไป ต่อข้อถามว่า ส.ส.ลาออกจำนวนมากเป็นเงื่อนไขให้เกิดการยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ขณะนี้ยัง

ยังไม่ส่งซิกยุบสภา
ต่อข้อถามว่าการที่นายกฯ จะยุบสภาต้องแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในฐานะที่ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภามาแล้ว 3-4 ครั้ง นายกฯ จะไม่นำเรื่องปรึกษาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่างจาก พ.ร.ฎ.ทั่วไปที่ต้องผ่านครม. แต่ พ.ร.ฎ.ยุบสภาเป็นฉบับเดียวที่ไม่เคยมี นายกฯ คนใดนำมาปรึกษาในที่ประชุม ครม. แต่การจะบอกบางคน เช่น แกนนำพรรคมีความเป็นไปได้

เมื่อถามว่า ได้สัญญาณการยุบสภามาจาก นายกฯ บ้างหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ตน เตรียมอุปกรณ์ที่จะร่างมา 2 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ประเมินอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดทางการเมือง ขอยืนยันยังไม่เคยได้ยินนายกฯ หรือรัฐมนตรีคนใดบอกว่าให้ยุบสภา

ภท.คึก-34อดีตส.ส.เปิดตัวพรึบ
ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถ.พหล โยธิน กรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย มีพิธีเปิดที่ทำการพรรคซึ่งเป็นอาคารเดิม และตั้งอยู่พื้นที่เดิม แต่ได้ปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ ใช้เวลารีโนเวตทั้งสิ้น 8 เดือน พร้อมต้อนรับสมาชิกพรรคใหม่ ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคการเมืองอื่น รวม 34 คน ประกอบด้วย

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 13 คน ได้แก่ 1.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร อดีตส.ส.กทม. 2.นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ อดีตส.ส.กทม. 3.น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ อดีตส.ส.กทม. 4.นายมณเฑียร สงฆ์ประชา อดีตส.ส.ชัยนาท 5.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ อดีตส.ส.ชัยภูมิ 6.นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ อดีตส.ส.นครปฐม 7.นายกฤษณ์ แก้วอยู่ อดีตส.ส.เพชรบุรี 8.นายอนุชา น้อยวงศ์ อดีตส.ส.พิษณุโลก 9.นายประทวน สุทธิอํานวยเดช อดีตส.ส.ลพบุรี 10.นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ อดีตส.ส.กาญจนบุรี 11.นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ อดีตส.ส.กาญจนบุรี 12.นายสุชาติ อุสาหะ อดีตส.ส.เพชรบุรี 13.พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ อดีตส.ส.กาญจนบุรี

พรรคเพื่อไทย (พท.) 8 คน ได้แก่ 1.นายธีระ ไตรสรณกุล อดีตส.ส.ศรีสะเกษ 2.นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ อดีตส.ส.กทม. 3.นายนิยม ช่างพินิจ อดีตส.ส.พิษณุโลก 4.นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น อดีตส.ส.อุดรธานี 5.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร อดีตส.ส.นครนายก 6.นายสุชาติ ภิญโญ อดีตส.ส.นครราชสีมา 7.นายนพ ชีวานันท์ อดีตส.ส.พระนครศรี อยุธยา และ 8.นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ อดีตส.ส.เชียงราย

พรรคก้าวไกล (ก.ก.) 5 คน ได้แก่ 1.นายขวัญเลิศ พานิชมาท อดีตส.ส.ชลบุรี 2.นายเอกภพ เพียรพิเศษ อดีตส.ส.เชียงราย 3.นายพีรเดช คําสมุทร อดีตส.ส.เชียงราย 4.นายเกษมสันต์ มีทิพย์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ 5.นายคารม พลพรกลาง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) 2 คน ได้แก่ 1.นายธนัสถ์ ทวีเกื้อ กูลกิจ อดีตส.ส.ตาก 2.นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ อดีตส.ส.อุบลราชธานี

พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) 1 คน ได้แก่ นายสมัคร ป้องวงษ์ อดีตส.ส.สมุทรสาคร

พรรคประชาภิวัฒน์ (ปชภ.) 1 คน ได้แก่ น.ส.นันทนา สงฆ์ประชา อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรคเพื่อชาติ (พช.) 1 คน ได้แก่ นายอารี ไกรนรา อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรครวมพลัง (รพ.) 1 คน ได้แก่ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 1 คน ได้แก่ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย อดีตส.ส.อุบลราชธานี

‘ลูกเนวิน-ลูกชนม์สวัสดิ์’ก็ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองที่น่าสนใจมา สมัครสมาชิกและเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นายไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายคนโตของนายเนวิน ชิดชอบ ที่จะลงสมัคร ส.ส.เขต บุรีรัมย์ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ บุตรสาว นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม แกนนำกลุ่มปากน้ำ ที่จะมาลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.โยธากาญจน์ ฟองงาม บุตรสาวนายสุพล ฟองงาม อดีตส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช บุตรสาวนายตุ่น จินตะเวช อดีต ส.ส.อุบลราชธานี หลายสมัย

ภายหลังทั้ง 34 คน ได้สมัครสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค ได้มอบเสื้อแจ๊กเกตพรรค พร้อมสวมให้กับสมาชิกใหม่ทุกคน และเมื่อถึงช่วงที่สวมเสื้อให้กับ นายไชยชนก และน.ส.ชนม์ทิดา นายอนุทินได้สวมกอด ทั้งสองคนด้วยบรรยากาศชื่นมื่น

จากนั้นทั้งหมดถ่ายภาพที่ระลึกด้วย ต่อด้วยการประชุม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ประจำสัปดาห์ รวมถึงการวางนโยบาย วางกลยุทธ์ ทั้งในระดับพื้นที่และภาพรวมทั้งประเทศ เพื่อเตรียมรับมือสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

‘กรณิศ’มาแน่-‘เอ๋’นำพี่ชายสมัคร
ในงานดังกล่าว น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ นำดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีและจะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อลงเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ในนามพรรคภูมิใจไทย ร่วมกับ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ จะสมัครเข้าพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน ขณะที่น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้นำพี่ชาย นายสีหเดช ไกรคุปต์ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัคร ส.ส.ราชบุรี

น.ส.ปารีณาเปิดเผยว่า วันนี้มาเป็นเพื่อน พี่ชาย การตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยเป็นการตัดสินใจของพี่ชายเพียงคนเดียว ทุกพรรคการเมืองดีหมด ให้พี่ชายตัดสินใจเอง ตนเคารพความคิดของคนในครอบครัว และส่วนตัวพร้อมให้คำแนะนำพร้อมทั้งให้กำลังใจพี่ชายอยู่ตลอด พี่ชายของตนจะลงสมัคร ในเขตพื้นที่เดิมของตน ซึ่งมีความมั่นใจ 100 ล้านเปอร์เซ็นต์

ผู้สื่อข่าวถามว่า น้อยใจพรรคพลัง ประชารัฐหรือไม่ ที่ส่งคนอื่นลงพื้นที่เดิม น.ส.ปารีณากล่าวว่า ตนรักลุงป้อม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่สุดใน 3 โลก ทุกวันนี้ยังไปหาท่านอยู่ และท่านเมตตาให้พบเสมอ เมื่อถามว่า ก่อนที่นายสีหเดชจะมาสมัครพรรคภูมิใจไทยได้บอกพล.อ.ประวิตรหรือไม่ น.ส.ปารีณากล่าวว่า ท่านทราบ ท่านรู้ทุกอย่าง

ขณะที่นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เป็นตัวแทนพรรคนำกระเช้าเข้าร่วมยินดีกับพรรคภูมิใจไทย มีแกนนำพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ต้อนรับ โดยนายต่อพงษ์กล่าวว่า ยินดีสำหรับตึกใหม่ จะได้ตั้งรัฐบาลในสมัยหน้า นาย สรอรรถกล่าวตอบว่า ด้วยความยินดี อย่างไรเราก็ได้ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว ขอให้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาให้เยอะๆ

‘เสี่ยหนู’ยันไม่มีนัยยะการเมือง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณสมาชิกใหม่ที่มาสมัครอย่างพร้อมเพรียง เราพยายามนัดให้มา สมัครพร้อมกันเพื่อให้เห็นถึงความมั่นใจ ในนโยบายพรรค เราดีใจ ภาคภูมิใจ ผู้สื่อข่าวถามว่าบางส่วนที่ยังไม่มาจะเปิดตัวภายหลังหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราเรียลไทม์ไม่มีการเซ็นล่วงหน้า ถ้าใครมาอีก ตนกับนาย ศักดิ์สยาม จะมาต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการลาออกของส.ส.จำนวนมากอาจเป็นการกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภา นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีการกดดัน ส่วนใหญ่พรรคภูมิใจไทยถูกกดดัน แต่เราไม่เคยกดดันใคร พรรคเราว่านอนสอนง่าย มีสปิริตให้ความร่วมมือ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร วันนี้ที่พร้อมใจกันมาสมัครเป็นความเต็มใจของทุกฝ่าย ไม่มีนัยยะทางการเมืองใดๆ เราต้องมีเวลาในการทำงาน ต้องให้เกียรติประชาชน

ต่อข้อถามว่า เคยเปรียบตัวเองเป็นหนูที่คอยช่วยราชสีห์ วันนี้จะไม่ช่วยราชสีห์แล้ว ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า หนูก็เป็นหนูวันยังค่ำ เป็นหนูที่พร้อมช่วยถ้าราชสีห์ทำงานให้บ้านเมือง แบบนั้นก็ไปด้วยกันได้ หนูตะปบเสือไม่ได้ก็ไปช่วยราชสีห์ทำงานได้

ตอกเสาเข็ม – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้อนรับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครายใหม่ โดยมีส.ส.และอดีตส.ส.ทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านมากกว่า 40 คน ที่พรรคภูมิใจไทย ถ.พหลโยธิน กทม. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.

ลุยตอกเสาเข็ม-ไม่แลนด์สไลด์
ต่อข้อถามว่าจะเป็นพรรคใหญ่เลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นมานานแล้วไม่ใช่หรือ เลือกตั้งครั้งนี้เราส่งครบทุกเขต ต้องขอฝากอนาคตพรรคไว้กับพี่น้องทุกคน เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรระบุว่าเอา ส.ส.มาให้หมดเลยก็ได้จะได้ยุบพรรค นายอนุทินปฏิเสธตอบคำถาม โดยระบุว่า “ขอคำถามต่อไป” ก่อนพูดว่า ท่านเมตตาพวกเราเสมอ โดยเฉพาะกับเลขาฯ พรรค ซึ่งเลขาฯ พรรคเป็นหลานเลิฟของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เราพูดคุยตลอด และพูดคุยกับทุกพรรค

เมื่อถามว่า ที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มาช่วยดูพื้นที่กทม.บางส่วน จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้พรรคหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ใครมาร่วมก็เพิ่มความแข็งแกร่ง เราใช้คำว่าตอกเสาเข็ม อยู่อย่างมั่นคง ไม่ใช่แลนด์สไลด์ เพราะไม่มั่นคง ไม่มีเสาเข็ม ซึ่งเราจะตอกไปเรื่อยๆ หัวหน้าพรรคชอบตอกเสาเข็ม” เมื่อถามว่า มีข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาสนับสนุน พรรคภูมิใจไทย เพื่อจะจับมือทำงานร่วมกันต่อ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกคนที่พร้อมทำงานด้วยความซื่อสัตย์ทุ่มเทจะทำให้ประเทศมั่นคง ซึ่งภูมิใจไทยทำงานพรรคเดียวไม่ได้

เพื่อไทยเหน็บ‘ตู่’ปมสภาล่ม
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข่าว 40 ส.ส.ไป รับประทานอาหารร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ ที่โรงแรมใกล้พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ว่า เราตรวจสอบหมดแล้วว่า ส.ส.ที่ไปเป็นใคร มีจำนวนเท่าใด พฤติการณ์พฤติกรรมเป็นอย่างไร พบว่าไม่มีส.ส.พรรค เพื่อไทยไปร่วมด้วย แต่เป็นส.ส.ในเครือข่ายที่มีท่าทีว่าจะไปอยู่ร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากรายชื่อที่ปรากฏ จะมีส.ส.พรรคเพื่อไทยย้ายออกอีกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฏ เท่าที่มีอยู่เป็นรายชื่อที่ทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่แน่นอน สิทธิเสรีภาพในการย้ายพรรคถ้าเป็นไปตามอุดมการณ์ ไปเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าประชาชนในเขตพื้นที่มีข้อเสนอว่ามาอยู่พรรคนี้ เพราะเราอยากได้นโยบายพรรคนี้หรือคะแนนนิยมพรรคนี้ดี แต่ถ้าย้ายเพราะมีผลตอบแทน มีการแลกเปลี่ยน นี่คือการทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทำลายระบบรัฐสภาอย่างใหญ่หลวงที่สุด เป็นการย้ายพรรคในเวลาที่ไม่สมควร เป็นการละทิ้งหน้าที่ที่พึงต้องกระทำต่อพี่น้องประชาชนที่เลือกเข้ามาเป็นผู้แทน

ต่อข้อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดพ้อที่โทษนายกฯไม่ควบคุมส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมสภา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงนายกฯ ก็ตอบถูก ในแง่ที่เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร การที่จะมาควบคุมส.ส.ในสภาให้ทำนู่นทำนี่ เราเคยทักท้วงว่าอำนาจฝ่ายบริหารและอำนาจนิติบัญญัติในระบบรัฐสภาแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน การก้าวก่ายแทรกแซงการทำหน้าที่ โดยมิชอบ ถือว่าไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หากนายกฯ จะมีอำนาจมาควบคุมผู้แทนได้ เขาควรเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง และควรเป็นส.ส.ด้วย ดังนั้นอย่าไปเรียกร้องคนที่ไม่ได้เป็นผู้แทน ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเขาพูดถูก ในฐานะนายกฯ ไม่มีหน้าที่โดยตรง

อัดก๊วนย้ายพรรคตามใบสั่ง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีส.ส.ลาออก และย้ายพรรคพร้อมกันจำนวนมากว่า ที่ผ่านมาการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดหลังยุบสภา หรือสภาหมดอายุ และเป็นรายคน ใช่เป็นแบบกระบวนการ ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นเวลานี้ ดูจะชัดเจนว่าการลาออกเพื่อไปสังกัดพรรคใหม่ เป็นไปตามคำสั่งของพรรคที่จะย้ายไป

ความคิดเบื้องต้นทราบว่าเพื่อกันปัญหาการเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน และเพื่อความชัวร์ว่าคุณมาแน่ การลาออกและย้ายพรรคกันเป็นล็อต 30-40 คน ชัดเจนว่าเกิดจากการวางแผนกันมาโดยไม่สนใจว่ายังมีภารกิจในฐานะตัวแทนประชาชนที่ต้องทำอยู่หรือไม่ ไม่สนใจว่าประชาชนเลือกเรามาให้ทำหน้าที่ในสภามีระยะเวลา 4 ปี

“ผมเป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนทางวินัยจรรยาบรรณ ส.ส.หลายคน ขอบอก อย่างตรงไปตรงมาว่าที่มาที่ไปคือ เพราะได้ผลประโยชน์ ได้โครงการ ได้การดูแลที่ พรรคเดิมไม่อาจให้ได้ หลายคนยอมเป็นงูเห่าถ้าจะขับก็ยินดี แถมบอกให้รีบขับเร็วๆ แสดงว่าจริงๆ แล้ว ไม่เกี่ยวกับอุดมการณ์อะไร ทั้งสิ้น สภาพการเมืองเช่นนี้น่าห่วง ส่วนหนึ่งแสดงว่ารัฐธรรมนูญปราบโกงล้มเหลวสิ้นเชิง การปฏิรูปการเมืองตามรัฐธรรมนูญและนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว การเมืองย้อนไปสู่ธนกิจการเมือง

ฉะนายกฯเล่นเกมลอยตัว
การเมืองแบบแจกกล้วย ดูแล้วคล้ายๆ ก่อนยุครัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เป็นเหตุให้ ต้องปฏิรูปการเมืองขนานใหญ่ ยิ่งได้ฟัง คำสัมภาษณ์ของนายกฯ เรื่องสภาล่ม และส.ส.ย้ายพรรคว่า เป็นเรื่องฝ่ายการเมือง ตัวเองสั่งไปแล้ว ไม่เกี่ยว ต้องว่ากันเอง ก็รู้สึกถึงการลอยตัว ทำนองว่าคุณมาเลือกผมเองทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เป็นแม้แต่สมาชิกพรรค ของคุณ จริงๆ แล้วพรรคที่เสนอเขาควรจะได้รับรู้ว่าแท้จริงเป็นอย่างไร แปลกประหลาด คนที่เสนอเป็นนายกฯ ในนามพรรคตัวเอง ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่สมาชิกพรรค แต่มีอิทธิพลถึงขั้นให้เสนอชื่อตนเองเป็นนายกฯ ได้

“ผมเป็นห่วงความรู้สึกของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะความศรัทธาในระบอบพรรคการเมืองและความศรัทธาในนักการเมืองและระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญที่ บอกว่าให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการกำหนดนโยบายและส่งผู้สมัครเป็นเพียงลายลักษณ์อักษรหรูๆ ของพวกสร้างภาพเท่านั้นเอง นี่แหละรัฐธรรมนูญปราบโกงของพวกคนดีทั้งหลาย” นายชูศักดิ์กล่าว

ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาพูดว่าสภาล่มไม่เกี่ยวกับนายกฯ ก็อย่ามาเป็นรัฐบาลเลย ยุบสภาไปเลยดีกว่า เพราะแค่คุมเสียงในสภายังทำไม่ได้ แล้วจะไปสร้างความสุขให้ประชาชนได้อย่างไร

‘ชวน’ขอส.ส.ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์
เวลา 10.45 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม หลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่แล้ว นายชวนกล่าวว่า ยังมีส.ส.ลงชื่อร่วมเป็นองค์ประชุมไม่ครบ 220 คน ขาดอีก 12 คน

ทำให้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือที่ประชุมว่า ขอชื่นชมนายชวน ที่สัมภาษณ์ปกป้องสถาบันของสภา แต่บรรยากาศขณะนี้ไม่สง่า แม้จะมีผลงานมากสุด แต่พบว่าล่มมากที่สุดเช่นกัน กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. โยนภาระให้สภากรณีที่สภาล่มว่าเล่นการเมือง ซึ่งนายกฯ ไม่เข้าใจเพราะไม่เคยเป็นส.ส. ไม่มาตอบกระทู้ในสภา ตนอยากให้ผู้มีอำนาจพิจารณาด้วย

นายชวนกล่าวว่า ถือโอกาสนี้ขอบคุณ พวกเรา อย่าไปกังวลกับเหตุการณ์ภายนอก ขอให้เราที่อยู่ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุดนาทีสุดท้าย ตนรู้ดีวันศุกร์ทุกคนมีภาระ แม้กระทั่งตนก็มีภาระ แต่ตนเป็นห่วงคนที่ทำงานในสภานี้ คือกรรมาธิการ (กมธ.) แต่ละชุด ได้ทุ่มเททำงานกันมาเป็นปีๆ บางคณะ 2 ปี ประชุมกัน 40-50 ครั้ง เบี้ยประชุมกินไป 2-3 ล้านบาท เสร็จแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบสภา เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุด

แจ้งองค์ประชุมเหลือ220
ตนจึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจและเห็นว่าขณะนี้มีเรื่องที่กมธ.เสนอมาแล้ว 19 เรื่อง เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ผ่านไปแล้ว 2 เรื่อง เหลือ 17 เรื่อง วันนี้บรรจุไว้ 6 เรื่อง ขอเลื่อน 1 เรื่อง จะมีเวลาพิจารณา 5 เรื่อง ถ้าทำ 5 เรื่องให้จบ เหลือ 12 เรื่อง ประชุมสภาอีก 2 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 6 เรื่องก็จบก่อนสิ้นปี 2565 งานที่ท่านอุตส่าห์ทำมาเหนื่อย เป็นปีๆ ก็จะจบ ท่านจะนำผลงานที่กลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจ แต่ถ้าไม่ผ่าน สิ่งที่ทำมาทั้งปีก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย

“อยากให้พวกเราได้เข้าใจจุดนี้ ความจริงแล้วปล่อยไปยถากรรม ก็ทำได้ แต่ผมอยากให้พวกเราร่วมรับผิดชอบ และช่วยกัน ผมจะเชิญประธานกมธ. แต่ละคณะมาขอความร่วมมือ ให้ช่วยกันพิจารณาและให้เวลาที่เหมาะสม ในที่สุดปัญหาที่เรากังวลก็จะจบ ดังนั้นขออย่ากังวลสถานการณ์ภายนอก ถ้าเรารักศักดิ์ศรีสภาเราต้องทำหน้าที่” นายชวนกล่าว

จากนั้นนายชวนได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า รับทราบเรื่องการสิ้นสุดสมาชิกภาพ 2 คน คือนายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรค พลังประชารัฐ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส. กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โดยทั้ง 3 คนมีหนังสือลาออกตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.ปัจจุบันมีสมาชิกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 439 คน ส่งผลให้องค์ประชุม กึ่งหนึ่งอยู่ที่ 220 คน

‘อันวาร์’ไขก๊อกปชป.-ซบพปชร.
วันเดียวกัน นายอันวาร์ สาและ อดีตส.ส. ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ มีจดหมายถึง นายทะเบียบพรรคประชาธิปัตย์เพื่อขอ ลาออกจากสมาชิก ลงวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งมีผลให้พ้นสภาพส.ส. ระบุใจความสำคัญว่า วันนี้กระผม นายอันวาร์ ที่เคยระบุในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคว่าเคยถูกผู้ทรงอิทธิพลของพรรคเสนอว่าไม่ควรส่งลงสมัครอีกเพราะผลโพลแจ้งว่าจะแพ้ แต่สุดท้ายกระผมก็ชนะ อย่างต่อเนื่องและเป็น ส.ส.ถึง 4 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลเดิมที่ได้ระบุไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคเอาไว้หลายฉบับว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม อุดมการณ์เดิมของพรรคนั้น ต้องทำ ต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ “ดีแต่พูด” แล้วจะทำให้ประชาชนเชื่อ

ขอโอกาสเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าเลิกโกหกบิดเบือน ควรต้องยืนอยู่บนความเป็นจริง อะไรที่ทำผิดไปแล้วก็ควรขอโทษพี่น้องประชาชนดังเช่นผู้ทรงอิทธิพลได้เคยประกาศขอโทษไปแล้วเมื่อไม่นานที่สงขลา

นายอันวาร์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่จ.ปัตตานีวันที่ 19 ธ.ค. เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งตนจะไปร่วมต้อนรับ และอาจถือโอกาสนี้เปิดตัวตนด้วยเลยก็ได้

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุผลที่นายอันวาร์เขียนในหนังสือลาออกทุกอย่างล้วนแล้ว แต่เป็นข้อมูลที่บิดเบือน และทำให้พรรคประชาธิปัตย์เกิดความเสียหาย คนที่มีวุฒิภาวะเขาไม่ทำกัน การลาออกถือว่าเป็นการตัดสินใจของนายอันวาร์ แต่ไม่ควรมาทำร้ายบ้านเกิด

พปชร.เปิดตัวสมาชิกใหม่ 20 ธ.ค.
นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ถูกพรรคเศรษฐกิจไทยขับพ้นพรรค เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แล้ว พร้อมกับ พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ มีผลวันที่ 16 ธ.ค. และจากนี้จะเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับว่าได้เข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. เพื่อยื่นใบสมัครและชี้แจงเหตุผลตามกระบวนการของกฎหมายว่าถูกพรรคเศรษฐกิจไทย มีมติให้ขับออก ด้วยเหตุผลว่าไม่มีเจตนาที่จะ ร่วมงานการเมืองกับพรรคเศรษฐกิจไทย เพราะมีความเห็นเรื่องกติกาการเลือกตั้งใหม่ ที่จะทำให้พรรคขนาดกลาง และขนาดเล็ก ขับเคลื่อนงานทางการเมืองลำบากมากในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน และพรรคเศรษฐกิจไทย จะขับเคลื่อนต่อไปได้ลำบาก จึงควรยุบไป

เชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของพล.อ. ประวิตร จะนำส.ส.กลับเข้ามาทำงานในสภาอีกครั้งได้ และเชื่อว่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยอีก 11 คน มีความเป็นไปได้ว่าจะมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังรอสถานการณ์ทางการเมืองก่อน โดยมี 3 แนวทางที่จะตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐคือ 1.ลาออกจากส.ส. 2.ยุบพรรค และ 3.รอให้มีการ ยุบสภาแล้วค่อยไปสมัครสังกัดพรรคใหม่

ทั้งนี้ การใช้มติพรรคขับ ส.ส.พ้นพรรค ส่งผลให้นายบุญสิงห์ และ พล.ต.อ.ยงยุทธ ยังมีสถานะเป็นส.ส. และต้องหาพรรค สังกัดใหม่ภายใน 30 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (9) และคาดว่าพรรคพลังประชารัฐจะเปิดตัวทั้งสองคน ในวันที่ 20 ธ.ค.

พท.ไม่ท้อยื่นแก้รธน.-ปิดสวิตช์ส.ว.
เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมคณะ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 159 และการยกเลิกมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

นพ.ชลน่านกล่าวว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยมีเจตจำนง และมุ่งมั่นมาตลอดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหาที่สุดในการบังคับใช้ และกระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือมาตรา 272 ที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติ ไว้ชั่วคราวว่า ให้ส.ว.250 คน สามารถเลือกนายกฯ ได้ โดยเราพยายามยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมาตลอดแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกติกาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ มีส่วนทำให้ไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้คือ การต้องอาศัยเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และต้องมี ส.ว.เห็นชอบด้วยในวาระรับหลักการไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ ด้วยกลไกเหล่านี้ทำให้ยื่นร่างแก้ไขแล้วไม่สำเร็จ ซึ่งในสมัยประชุมที่ผ่านมาก็ยื่น แต่ก็ถูกตีตกไปในขั้นรับหลักการ แต่เราไม่ย่อท้อ เพราะตามข้อบังคับแล้วในสมัยประชุมที่เปิดมา สามารถยื่นแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราที่สภาไม่รับหลักการได้

สำหรับมาตรา 159 ยังคงที่มานายกฯ ตามมาตรา 88 ไว้ กล่าวคือ ผู้ที่สมควรได้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ซึ่งพรรคนั้นๆ จะต้องได้เสียงในสภาไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 หรือจำนวน 25 เสียงขึ้นไป และเราจะขอเพิ่มที่มานายกฯ ว่า สามารถเลือกนายกฯ จากการเป็นส.ส. ในพรรคนั้นๆ ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน