คนร้าย 2 ชุดบุกกลางดึก
จนท.ปะทะเดือดบาดเจ็บ 3

ผู้การนราธิวาสนำกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ฐานนปพ.สุไหงปาดี หลังถูกกลุ่มคนร้ายนับสิบใช้อาวุธปืนสงครามและระเบิดบุกเข้าถล่ม ทำให้ตำรวจนปพ.บาดเจ็บ 3 นาย พบไปป์บอมบ์เกลื่อนนับสิบลูก มีทั้งทำงานแล้วและยังไม่ระเบิด อีโอดีใช้เครื่องแรงดันน้ำสูงยิงทำลาย เผยแผนสุดแยบยลแบ่งกำลังเป็น 2 ชุดซุ่มอยู่ในป่าก่อนเข้าจู่โจม ยิงต่อสู้กันนานกว่า 30 นาที ก่อนจะล่าถอยยังวางแผนดักถล่มชุดไล่ล่า ใช้ระเบิดถังดับเพลิงหนัก 30 ก.ก.วางเป็นกับดัก โชคดีที่เปลี่ยนแผนเลยไม่มีใครเป็นอันตราย ส่วนแม่ทัพภาค 4 ระบุ คนร้ายลงมือห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน เพื่อแสดงศักยภาพ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 เม.ย.พล.ต.ต. อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พล.ต. เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ. ปัตตะ มะดาวา รองผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.อัสรี ต่วนเพ็ง ผกก.สภ.สุไหงปาดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส นำกำลังเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการหมวดเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 31 ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี หลังถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามและระเบิดไปป์บอมบ์บุกเข้าถล่ม เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.55 น. คืนวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย คือส.ต.ต.พีรวิชญ์ ดวงแก้ว อายุ 26 ปี ถูกกระสุนปืนที่ต้นขาขวาทะลุ ส.ต.ต.ชวัลวิทย์ อินต๊ะวิชา อายุ 23 ปี ถูกกระสุนปืนที่บริเวณก้นด้านขวา และ ส.ต.ต. กิติพงษ์ พรหมเจียม อายุ 26 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขอบตาด้านขวาและมีอาการแน่นหน้าอก ทั้งหมดสังกัด นปพ.สุไหงปาดี ถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ พบระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างแบบไปป์บอมบ์ที่ยังไม่ทำงานตกอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือของฐาน จำนวน 3 ลูก นอกจากนี้ยังพบระเบิดชนิดเดียวกันที่คนร้ายขว้างเข้ามาในฐาน จำนวน 5 ลูก ทำงานไปแล้ว 3 ลูก และยังพบตกอยู่ในป่าตรงข้ามกับประตูทางเข้าอีก 1 ลูกแต่ไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนเจ้าหน้าที่อีโอดีจะใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลายระเบิดที่พบทีละลูก ใช้เวลานานกว่า 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ยังตรวจพบหลุมระเบิดขนาดใหญ่ที่ส้วมร้างปลูกสร้างด้วยสังกะสีบริเวณป่าตรงกันข้ามกับประตูทางเข้าฐาน ซึ่งมีเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบไว้ในถังดับเพลิง หนัก 30 ก.ก. แต่ไม่พบตัวจุดชนวน เนื่องจากระเบิดลูกดังกล่าวทำงานสมบูรณ์แล้ว ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ กระเด็นเข้าไปในป่าสวนยางพาราของชาวบ้าน หลังจากตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบลูกปราย ซากชิ้นส่วนท่อแป๊บเหล็กทรงกลม ปลอกกระสุนปืนที่ตกอยู่ 2 จุดใหญ่ คือป่ารกทึบตรงข้ามกับฐาน และ บ้านร้างของชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับอาคารน็อกดาวน์ของฐาน

กู้ระเบิด – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้ระเบิดไปป์บอมบ์ที่กลุ่มคนร้ายบุกปาถล่มฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 31 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และกราดยิงซ้ำด้วยปืนเอ็ม16 ทำให้จนท. บาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.

นอกจากนี้เหตุดังกล่าวยังส่งผลทำให้รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ในบ้านพักและข้างๆ จำนวน 2 คัน ถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหาย คันแรกเป็นรถเก๋งฟอร์ด สีดำ ทะเบียนนราธิวาส กระจกหลังแตก และรถกระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียนนราธิวาส กระจกหน้าแตก

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ส.ต.ต. พีรวิชญ์ขับขี่รถจักรยายนต์ โดยมีส.ต.ต. ชวัลวิทย์นั่งซ้อนท้าย ระหว่างจะเลี้ยวรถเข้าฐาน กลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน แยกออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกวางกำลังอยู่ในป่าตรงกันข้ามกับประตูทางเข้าฐาน ได้ใช้อาวุธปืน สงครามเอ็ม16 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายจนบาดเจ็บ รถล้มคว่ำอยู่ที่หน้าประตูทางเข้า ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งสองยังมีสติรีบหมอบคลานหาที่กำบัง เพื่อหลบวิถีกระสุนปืนของคนร้ายที่ยิงซ้ำอีกหลายชุด ส่วนคนร้ายชุด 2 ที่ซุ่มอยู่ในบ้านร้างระดมยิงถล่มใส่ฐาน สลับกับขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากยิงปะทะกันนานกว่า 30 นาที ส่งผลให้ส.ต.ต. กิติพงษ์ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขอบตาด้านขวาได้รับบาดเจ็บ เมื่อเจ้าหน้าที่ขอกำลังเข้ามาสนับสนุน กลุ่มคนร้ายอาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป โดยมุ่งหน้าไปยังสวนยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ ฝั่งตรงกันข้ามฐาน หลังเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ภายในฐานรีบช่วยกันนำตัวคนเจ็บส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก








Advertisement

ทั้งนี้ช่วงเวลา 22.00 น.ของคืนเกิดเหตุ พ.ต.อ.อัสรี ต่วนเพ็ง ผกก.สภ.สุไหงปาดี หลังรับแจ้งแล้วรีบนำกำลังเข้ามาสนับสนุน โดยใช้รถหุ้มเกราะวีวาร์ขับเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ในขณะที่รถเข้าจอดเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอีก 1 ลูก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ภายหลังทราบว่าเป็นระเบิดถังดับเพลิง จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาที่คนร้ายฝังเอาไว้ในป่าตรงข้ามกับประตูทางเข้าฐาน เป้าหมายเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุดติดตามไล่ล่า แต่ด้วยความไม่ประมาทและทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวยทำให้ไม่มีคำสั่งออกติดตาม เจ้าหน้าที่จึงรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นก็เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่ม ผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่นัดแนะก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงเดือนรอมฎอนคาบเกี่ยวกับในช่วงฮารีรายอ เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพ

ด้านพล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 เปิดเผยถึงสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนว่า ภาพรวมเป็นการก่อกวน เพื่อสร้างสถานการณ์ของผู้ก่อเหตุรุนแรง ตนได้กำชับให้ทุกภาคส่วนราชการ ทั้งทหาร,ตำรวจ,ฝ่ายปกครองในพื้นที่ บูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง พร้อมยกระดับการรักษาความปลอดภัยฐานปฏิบัติการให้เตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจตลอด 24 ชั่วโมงเต็มขีดความสามารถด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน