ส่งรูปรีดเงินแม่ ตร.บุกช่วยระทึก

แม่แจ้งตำรวจ ลูกสาววัย 20 นิสิตม.เกษตรฯ ถูกลักพาตัว คนร้ายส่งรูปภาพขณะถูกมัดมือและปิดปากมาหา สั่งให้โอนเงินเข้าบัญชีลูกสาว ผบก.น.2 สั่งสอบสวน ไล่เช็กวงจรปิด จนพบว่าที่แท้ เป็นฝีมือแก๊งมิจฉาชีพลวงให้ทำภารกิจ หลอกญาติว่าถูกลักพาตัว ก่อนหลอกให้ โอนเงิน ล่าสุดพบตัวแล้วปลอดภัยดี ตร.อยู่ระหว่างสอบสวนข้อมูลคนร้าย

เมื่อเวลา 08.42 น. วันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มารดาของนิสิตสาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รายหนึ่งเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สนธิชัย ยอดรักษ์ สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน ว่า ลูกสาววัย 20 ปีหายตัวไป เมื่อวันที่ 7 ส.ค. เวลา 06.45 น. โดยให้ข้อมูลว่า ลูกสาวเดินทางจากบ้านพักของป้าย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไปที่หอพักไม่มีชื่อ ซอยงามวงศ์วาน 52 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยเรียกรถยนต์รับจ้างด้วยตนเอง และนั่งรถยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สีขาว ออกจากบ้านพักไป

ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 19.00 น. มีบัญชีผู้ใช้ไลน์ ชื่อ “เฮียเจียง 789” ติดต่อ มาหาและส่งข้อความมาหาทางผู้เป็นแม่ ว่า “สวัสดีครับ อย่าพยายามติดต่อคนอื่น ไม่ต้องโทรหาลูกคุณมีอะไรติดต่อมาทางนี้ อย่าเล่นตุกติก ผมแค่ต้องการเงินผมคืนเท่านั้น ก่อนเที่ยงคืน ผมจะให้คนเช็กต้องมียอดเงินเข้าที่บัญชีลูกคุณ ถ้าเรื่องนี้ถึงตำรวจ ความปลอดภัย ลูกคุณจะน้อยลง ผมเตือนแล้วนะ ถ้ายังมีความพยายามติดต่อคนอื่นอีก ผมจะไม่เตือน” และมีบัญชีผู้ใช้ไลน์ชื่อ “BoaT” ซึ่งเป็นไลน์ของลูกสาว ส่งรูปภาพบุตรสาวถูกมัดมือและปิดปากมาหา ทางมารดาจึงโทร.ติดต่อไลน์ของบุตรสาว และมีเสียงผู้ชายไม่ทราบว่าเป็นใครรับสาย บอกว่า “ผมเตือนคุณแล้วว่าอย่าติดต่อคนอื่น” ต่อมาภายในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 21.00 น. ผู้แจ้งไม่สามารถติดต่อบุตรสาวได้อีก จึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่หอพักไม่มีชื่อ ซอยงามวงศ์วาน 52 พบว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2566 เวลาประมาณ 07.35 น. ลูกสาวได้กลับมา ที่หอพักจริง และออกจากหอพักดังกล่าวไป เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันนั้นเอง จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาตัวลูกสาว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังรับแจ้งทางพ.ต.ต.สนธิชัย รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนที่ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 รับรายงานจึงสั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาล 2 เร่งติดตามตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว จนได้ข้อมูลว่าไม่น่าจะเป็นการจับตัวเรียกค่าไถ่ แต่นิสิตสาวคนดังกล่าวน่าจะถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวง คาดว่าแก๊งที่ก่อเหตุ ดังกล่าวมีลักษณะเดียวกันกับการนำเสนอข้อมูลตามสื่อมวลชน คือการบังคับถ่ายคลิปมัดมือ-เท้าเรียกค่าไถ่ จากการตรวจสอบทราบว่า เช้าวันที่ 7 ส.ค. นิสิตคนดังกล่าวเดินทางเข้ามาที่หอพักคนเดียว โดยเปิดห้องเช่าเป็นเงิน 720 บาท/24 ช.ม. และออกไปช่วงบ่ายของ วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าห้องดังกล่าว อาจจะใช้เป็นที่จับมัดมือมัดเท้า

โดยวิธีการคนร้ายโอนเงินเข้าบัญชีผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายเริ่มติดต่อผู้เสียหาย และหลอกผู้เสียหายว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แจ้งผู้เสียหายว่าเกี่ยวข้องกับคดี จากนั้นคนร้ายจะหลอกให้ ผู้เสียหายโอนเงินออกจากบัญชี โดยคนร้ายหลอกให้ผู้เสียหายย้ายหรือเปลี่ยนที่พัก ไปหาเช่าที่พักใหม่ ก่อนจะหลอกให้ผู้เสียหายเปลี่ยนเบอร์ติดต่อ ให้ไปเปิดเบอร์ใหม่ คนร้ายหลอกให้ผู้เสียหาย สแกน QR Code เพื่อใช้ไลน์ของผู้เสียหาย ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์หรือไอแพด โดยหลอกให้ผู้เสียหายทำภารกิจ แล้วส่งต่อให้ญาติผู้เสียหาย โดยทำทีว่าถูกลักพาตัว คนร้ายจะสวมรอยหลอกให้ญาติผู้เสียหาย โอนเงินค่าไถ่เข้าบัญชีผู้เสียหาย เมื่อคนร้ายหลอกให้ผู้เสียหายเข้าเช็กเงินในบัญชี แล้วหลอกให้โอนต่อ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบปากคำ ที่เกี่ยวข้องและติดตามเบาะแสพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวนิสิตดังกล่าว

ล่าสุด พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สนพหลโยธิน เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนพบตัวนิสิตสาวคนดังกล่าว เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยเจอตัวที่ย่านรังสิต อยู่ในสภาพปลอดภัยดีและขณะนี้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง คดีนี้มีลักษณะเข้าข่ายเหมือนคดีที่แก๊งมิจฉาชีพเคยก่อเหตุ หลอกลวง เหยื่อและได้มีการนำเสนอจากสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ ส่วนรายละเอียดของคดีอยู่ระหว่าง สอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน รายงานผู้บังคับบัญชา โดยรายละเอียดของคดีต้องขอให้เป็นในส่วนของผู้บังคัญบัญชาเป็นผู้ให้ข้อมูล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน