เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในการประชุมประจำปีระหว่างปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยและเกาหลีใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวแสดงความกังวลในกรณีที่เกิดกระแสการแบนเที่ยวเกาหลีใต้ในสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากคนไทยถูกปฏิเสธเข้าเมืองเกาหลีใต้และมาตรการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดของ ตม.เกาหลีใต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวไทยจำนวนมากที่ประสงค์ไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้อย่างบริสุทธิ์ใจ อาจทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ของชาวไทยในภาพใหญ่ได้
นางกาญจนากล่าวต่อว่า ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวแสดงความเสียใจที่เกิดปัญหาดังกล่าว และไม่ประสงค์ให้ปัญหานี้มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวไทยรวมถึงต่อมิตรภาพที่ดีระหว่างประชาชนของทั้งสองฝ่าย โดยย้ำว่าเกาหลีใต้ไม่มีนโยบายที่จะปฏิเสธนักท่องเที่ยวไทยเข้าเมืองแต่อย่างใด การตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดอาจเป็นเรื่องเฉพาะของเจ้าหน้าที่ ตม.บางคนเท่านั้น
“ทั้งนี้รัฐบาลเกาหลีใต้มีความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาคนไทยทำงานอย่างผิดกฎหมายซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และได้ออกมาตรการ เช่น “voluntary departure programme” หรือ โครงการให้ผู้ทำงานอย่างผิดกฎหมายสมัครใจไปรายงานตัวต่อ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ เพื่อให้ส่งกลับประเทศต้นทาง โดยจะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายเกาหลีใต้และไม่ต้องขึ้นบัญชีดำในการเข้าประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ในปีนี้ได้เพิ่มโควตาแรงงานไทยไปทำงานในเกาหลีใต้ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ EPS (Employment Permit System) จำนวน 4,800 คน ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องให้เร่งจัดการประชุมกลไกหารือด้านการกงสุลไทย-เกาหลีใต้ ครั้งที่ 6 ที่เกาหลีใต้ เพื่อให้อธิบดีกรมการกงสุลของแต่ละฝ่ายได้ร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและโดยเร็วที่สุด” อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าว
