คดีนิสิต ป.เอกตกตึกดับ สน.โชคชัยแจงสอบพยานหลายปากพบไม่มีสิทธิ์จองที่จอดรถ ใครมาถึงก่อนก็จอดก่อน คาดผู้ก่อเหตุถือวิสาสะไปเอง ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มอยู่ที่คณะกรรมการสืบสวน ด้านแม่น้องเฟิร์นยันจะเอาผิดให้หมด ทั้งคนเคาะประตู-แม่บ้าน-เจ้าของอพาร์ตเมนต์ ขณะทนายไพศาลชี้น่าจะเข้าข้อหาทำคนตายโดยไม่เจตนา

จากกรณีนายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี เข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม จากเหตุนายสมมาตร ชูเชิด อายุ 41 ปี มีอาการมึนเมาไม่พอใจคนมาจอดรถจักรยานยนต์ทับที่จอดประจำ เลยบุกขึ้นไปอาละวาดทุบประตูที่ห้องเลขที่ 604 ชั้น 6 แมนชั่นแห่งหนึ่งย่านลาดปลาเค้า ลาดพร้าว กทม. ซึ่งเป็นห้องพักของ น.ส.อาภาภรณ์ หรือน้องเฟิร์น สีชำนาญ ลูกสาว ที่เป็นนิสิตปริญญาเอก ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำลังจะจบการศึกษาในปี 2567 ทำให้น้องเฟิร์นหวาดกลัวพยายามหนีออกทางระเบียงด้านหลัง ก่อนพลัดตกลงมาจากชั้น 6 เสียชีวิตด้านล่าง เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. พ.ต.ท.วิทยา เรืองเทพ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย เผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า ได้เรียกพยานบุคคลตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมทั้งแม่บ้านผู้ดูแลตึกที่แจ้งห้องผู้ตายให้กับผู้ต้องหาผิดห้องไป และบุคคลที่นำรถจักรยานยนต์ไปจอดทับที่ของนายสมมาตร ที่เจ้าตัวตั้งใจจะไปพูดคุยแต่เข้าใจผิดไปเคาะห้องผู้ตาย ทั้งหมดต่างระบุว่าแมนชั่นไม่มีกฎเกณฑ์เรื่องการจองที่จอดรถ ใครมาก่อนก็จอดก่อน แต่ผู้ก่อเหตุคงถือวิสาสะไปเคาะประตูห้องผู้ตายเพราะไม่พอใจเอง ทั้งนี้การพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มหรือแก้ข้อหาเดิมจะเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนพิจารณาต่อจากนี้อีกครั้ง

วันเดียวกัน แม่ของน้องเฟิร์นกล่าวในรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ว่า ยืนยันจะไล่เอาผิดให้หมด นายสมมาตรต้องได้รับโทษหนักที่สุด แม่บ้านก็ต้องรับโทษด้วย รวมทั้งเจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ก็ต้องมารับผิดชอบช่วยเหลือเยียวยาด้วย

“เฟิร์นเป็นเสาหลักของบ้าน ทั้งค่าบ้านค่ารถเฟิร์นเป็นคนส่งเงินมาผ่อนทั้งหมด แล้วการสูญเสียครั้งนี้ อยากจะถามว่าแล้วใครจะรับผิดชอบกับครอบครัวของเรา” แม่น้องเฟิร์นกล่าว

แม่น้องเฟิร์นกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าของอพาร์ตเมนต์ติดต่อมาขอช่วยเหลือทำบุญงานศพ 20,000 บาท โดยบอกว่าเป็นความประสงค์อยากจะช่วยเยียวยา แต่ทางครอบครัวไม่ขอรับ เพราะมันเทียบไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เขาบอกว่าทางอพาร์ตเมนต์มีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่คนก่อเหตุคือคนที่พักอาศัย ไม่ใช่คนนอก ทางครอบครัวอาจจะต้องแยกกันระหว่างคนก่อเหตุ กับเจ้าของอาคาร เพราะเป็นคนละส่วนกัน

ขณะที่ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ กล่าวในรายการโหนกระแสว่า ไล่เรียงในมุมกฎหมายทีละขั้นทีละตอนบอกว่า ในกรณีที่ป้าชี้ห้องให้คนก่อเหตุไปผิดห้อง ป้าไม่มีเจตนาอาจจะรอดในแง่อาญา แต่มีโทษทางแพ่งแน่นอน ส่วนคนที่ไปเคาะห้อง มันมีความผิดตามข้อหาต่างๆ เท่าที่แจ้งไป ต้องเข้าใจตำรวจก่อนว่า มันแจ้งข้อหา 3 ข้อหาลหุโทษ ในเบื้องต้นได้ตามพยานหลักฐาน ประจักษ์พยานที่รวบรวมมา แล้วปล่อยตัวไปก่อน แต่ตอนนี้พอสอบปากคำเพิ่มแล้ว ตอนนี้น่าจะเข้าข้อหาทำคนตายโดยไม่เจตนา เพราะเป็นสาเหตุโดยตรงให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย สามารถออกหมายจับได้เลย เพราะทราบว่าเจ้าของอพาร์ตเมนต์ไล่ออกจากห้องพักแล้ว สามารถออกหมายจับได้เลย เพราะมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน