คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

มองเลือกตั้งสหรัฐ – การนับคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 ได้รับความสนใจมากในครั้งนี้ ด้วยความสูสีคู่คี่อย่างมาก

ดังที่สำนักโพลและสื่อมวลชนคาดการณ์ไว้แล้วว่า การเลือกตั้งผู้นำของสหรัฐครั้งนี้จะแข่งกันเข้มข้นเช่นนี้ และมีความเป็นไปได้ที่ขั้นตอนการนับคะแนนจะยืดเยื้อคล้ายกับการเลือกตั้งปีค.ศ.2000

เมื่อ 20 ปีก่อน ปัญหาติดอยู่ที่คะแนนจากรัฐฟลอริดา จึงจะชี้ขาดว่าใครเป็นผู้ชนะระหว่าง จอร์จ ดับเบิลยู. บุช หรือ อัล กอร์

กระบวนการลากยาวไปถึงคณะตุลาการศาล สูงสุดแห่งสหรัฐตัดสินด้วยเสียง 5 ต่อ 4 สั่งระงับ การนับคะแนนและชี้ขาดให้นายบุชเป็นผู้ชนะ

การต่อสู้จบสิ้นตรงจุดนี้ นายกอร์ประกาศยอมรับผลการตัดสินของศาลเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

สําหรับการต่อสู้ในศึกเลือกตั้งสหรัฐครั้งนี้อาจซ้ำรอยหรือยุ่งยากกว่ากรณีบุช-กอร์ เมื่อ 20 ปีก่อน เนื่องจากมีข้อกล่าวหาจากทั้งสองฝ่ายว่าอาจมีการโกงการเลือกตั้ง

ดังนั้นสิ่งที่คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยจะได้เห็นการต่อสู้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้จึงอาจเป็นภาพใหม่ เหตุการณ์ใหม่ ปรากฏการณ์ใหม่

และอาจส่งผลต่อการโจมตีระบอบประชา ธิปไตย รวมถึงประเทศผู้นำโลกอย่างสหรัฐ ว่าไม่ได้เป็นตัวอย่างของสังคมที่เป็นระเบียบเรียบร้อย

แต่อย่างน้อยข้อดีที่ทุกคนเห็นแล้ว คือการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน

แม้สังคมชาวอเมริกันขณะนี้แสดงออกชัด ถึงการแบ่งแยกกันระหว่างฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา ระหว่างเดโมแครตกับรีพับลิกัน ระหว่างเสรีนิยมกับอนุรักษนิยม

แต่ระบอบประชาธิปไตยเปิดให้ประชาชน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการออกแบบกฎกติกา กฎหมาย และการเลือกตั้ง เพื่อขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกัน

มีปัญหาหลายเรื่องต้องสะสาง มีนโยบายหลายด้านต้องปรับปรุง และมีการแข่งขันที่ต้องต่อสู้เพื่อชิงเสียงข้างมาก

แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมร่วมกันของประชาชน ไม่มีระบบแต่งตั้งหรือให้อภิสิทธิ์แก่ใครชิงอำนาจจากประชาชนได้

นี่คือความดีของประชาธิปไตย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน