สหรัฐส่อวิกฤตโควิดพุ่ง2.8แสน – เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ชาติที่มียอดสะสมผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตมากที่สุดในโลก พบผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 277,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดสะสมมีกว่า 20.4 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตเกือบ 350,000 คนแล้ว
นายแพทย์แอนโธนี เฟาซี นักระบาดวิทยาหัวหน้าคณะทำงานรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ เตือนว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายที่สุด โดยขั้นดังกล่าวจะมาถึงหลังช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อาจทำให้สถานการณ์ในสหรัฐลุกลามถึงระดับวิกฤต
ด้านความพยายามระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐ มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วอย่างน้อย 4.2 ล้านคน หลังสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ อนุมัติให้ใช้วัคซีนได้เป็นกรณีฉุกเฉินจากบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค และโมเดอร์นา
นอกจากนี้ มีรายงานว่า นายแลร์รี คิง หนึ่งในพิธีกรทอล์กโชว์ และนักข่าวชื่อดังทางสถานีข่าวซีเอ็นเอ็น เจ้าของรายการ แลร์รี คิงไลฟ์ ที่โด่งดังมานานถึง 25 ปี
ต่อมาก่อนเกษียณอายุงานเมื่อปี 2553 ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยูที่โรงพยาบาลซีดาร์ ไซไน เมดิคอล เซ็นเตอร์ ที่นครลอสเองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ป่วยเป็นโรคโควิด-19 สร้างความกังวลให้วงการสื่ออเมริกัน เนื่องจากนายคิงมีโรคประจำตัวหลายอย่าง อาทิ เบาหวานประเภทสอง เคยมีอาการหัวใจวาย มะเร็งปอด และโรคหัวใจขาดเลือด
อินเดียอนุมัติฉุกเฉินวัคซีนป้องโควิด
วันเดียวกัน มีความคืบหน้าที่ประเทศอินเดียที่เพิ่งจัดซ้อมใหญ่การระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศ ล่าสุด หน่วยงานสาธารณสุขอินเดียอนุมัติให้ใช้วัคซีนได้เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว โดยเป็นวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกา-ออกซ์ฟอร์ด จากประเทศอังกฤษ
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทภารัต ไบโอเทค เอกชนท้องถิ่น ขณะที่สถาบันซีรั่มแห่งอินเดีย ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุว่า อยู่ระหว่างการผลิตวัคซีนของแอสตราเซเนกา- ออกซ์ฟอร์ด คาดว่าจะสามารถผลิตได้ 50-60 ล้านโดสต่อเดือน
นายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวว่า การอนุมัติฉุกเฉินเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้ทุกฝ่ายมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ เพื่อทำให้อินเดียเป็นชาติที่ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
รายงานระบุว่า การซ้อมใหญ่โครงการฉีดวัคซีนดังกล่าวนั้นทางการอินเดียมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกด้านการฉีดวัคซีนมาโดยเฉพาะแล้ว 96,000 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อสะสมมีกว่า 10.3 ล้านคน เสียชีวิตแล้วกว่า 150,000 ราย แต่สถานการณ์การระบาดนั้นมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยอินเดียมีเป้าหมายจะฉีดเข็มแรกให้ได้ 300 ล้านคน ภายในกลางปี 2564
