ทส.ชูนโยบายปี64-ยกกำลัง2+4“ทส.ยกกำลัง 2+4” คือ นโยบายของรัฐมนตรีคนรุ่นใหม่อย่าง นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ประกาศมอบนโยบายขับเคลื่อนทส. ในปีงบประมาณ 2564 ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

นายวราวุธระบุว่า ทส.ยกกำลัง 2 (ทส.2) คือ การดำเนินงานในปี 2564 จะเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงานขึ้นเป็น 2 เท่า ทั้งการตั้งเป้าหมายท้าทายการยกระดับคุณภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเพิ่มศักยภาพบุคลากร เทคโนโลยีต่างๆ

ส่วนนโยบายบวกสี่ (+4) นายวราวุธ อธิบายว่า ประกอบไปด้วย บวกที่ 1 ยกย่องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ น้อมนำแนวพระราชดำริ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” มาเป็นแนวทางการดำเนินงาน

บวกที่ 2 การมีส่วนร่วมของประชาชนสร้างเครือข่ายกับประชาชน

บวกที่ 3 คือการแสวงหาความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการเพิ่มศักยภาพการทำงานอยู่เสมอ

บวกที่ 4 คือมีหลักธรรมาภิบาลในการทำงาน ซึ่งขอให้นำทุกสิ่งมารวมเป็นทส.หนึ่งเดียว

“การทำงานของกระทรวงทรัพยากรฯ ในปีต่อๆไป ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกมิติ ทุกด้าน ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านทรัพยากรน้ำ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ที่สำคัญต้องใช้จ่ายงบประมาณต้องคุ้มค่าเป็นไปตามแผน และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป” รมว.ทส. กล่าวย้ำตามนโยบาย ทส.ยกกำลัง 2+4








Advertisement

ส่วนแนวนโยบายขับเคลื่อนปี 2564 ของกรมใหญ่ในสังกัดทส. ที่ต้องดูแลพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 73 ล้านไร่ทั่วประเทศ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช(อส.) เผยว่า กรมอุทยานฯ ดูแลพื้นที่อุทยานแห่งชาติรวม 155 แห่ง

ต้นปี 2564 กรมอุทยานฯ จะจัดทำระบบการจองและจ่ายผ่านอี ทิกเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวได้ การจัดเก็บเงินค่าเข้าอุทยานจะมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยนำร่อง 6 อุทยาน ได้แก่ อุทยานฯเขาใหญ่, ดอยอินทนนท์, เอราวัณ, อ่าวพังงา หมู่เกาะสิมิลัน และหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งล้วนเป็นอุทยานที่ติดอันดับยอดนิยมในปี 2563 โดยเรามีมติมาแล้วว่าอุทยานแห่งชาติทั้ง 155 แห่งต้องปิดให้บริการอย่างน้อย 1 เดือนต่อปี เพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้นและฟื้นฟูตามธรรมชาติ

ขณะที่การอนุรักษ์สัตว์ป่าและพื้นที่ป่า นายธัญญา ระบุว่า กรมยังคงลาดตระเวนเชิงคุณภาพกันอย่างเข้มข้นและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยี การติดตั้งกล้องดักถ่ายในพื้นที่ป่า ซึ่งแน่นอนว่าในปี 2564 กรมอุทยานฯ จะเดินหน้าตามภารกิจของกรม ทั้งการอนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ป้องกันพื้นที่ป่าอนุรักษ์เดิมที่มีอยู่ และฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมให้กลับสมบูรณ์ดังเดิม

ส่วนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ที่มีภารกิจหลักในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งมีภาระหน้าที่รับผิดชอบมากมายนั้น

ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีทช. กล่าวถึงแนวทางในปี 2564 ว่า กรมได้เตรียมมาตรการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ทะเลหายากและทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญ สนับสนุนการจัดทำมาตรการในการคุ้มครองพะยูนและแหล่งอาศัยพะยูนภายใต้แผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ในพื้นที่นำร่อง 2 จังหวัด คือ จ.ตรัง และกระบี่

นายโสภณเผยอีกว่า พร้อมฟื้นฟูและปลูกปะการัง 150 ไร่ ในพื้นที่ 9 จังหวัด ปลูกเสริมหญ้าทะเล 60 ไร่ จัดวางปะการังเทียมใน 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ตรัง ปัตตานี และนราธิวาส รวม 3,794 แท่ง ศึกษาพัฒนารูปแบบและวิธีการนำวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการฟื้นฟูปะการังด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ซีเมนต์แบบ 3 มิติ กำหนดติดตั้งทุ่นจอดเรือ 6 จังหวัด 17 แห่ง 111 จุด การซ่อมแซมทุ่นจอดเรือ 13 จังหวัด 35 แห่ง 595 จุด และดำเนินการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นในพื้นที่ 5 จังหวัด (ตราด จันทบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช) ระยะทางรวม 11,150 เมตร

“พัฒนาระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพทางทะเล เพื่อคุ้มครองและป้องกันการบุกรุกทำลายระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งการเก็บรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ทางทะเลในทุกมิติและทันต่อสถานการณ์ เพื่อรักษาฐานข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติ ทางทะเลให้คงอยู่สืบไป” อธิบดีโสภณย้ำมาตรการป้องกัน

นนทวรรณ มนตรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน