คอลัมน์ กระแสร้อน

‘พี่ฉอด’ทำละครกดดันตัวเอง – สร้างสรรค์งานละครดีๆ มาให้ชมกัน อย่างต่อเนื่อง ในนาม บริษัท เช้นจ์ 2561 จำกัด ที่นำทัพโดยสองบิ๊กบอสวิสัยทัศน์ไกล ‘พี่ฉอด’ สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ‘เอส’ วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย รองกรรมการผู้อำนวยการ ซึ่งแอบแง้มให้ฟังว่าปีนี้วางละครที่จะทำเอาไว้แตะ 20 เรื่อง

ล่าสุดเปิดกล้องเรื่องใหม่ “เมียหลวง” ก็ทำเอาฮือฮา กับรายชื่อนักแสดง ‘ตั๊ก’ บงกช คงมาลัย ที่เบรกงานในวงการไปใช้เวลากับครอบครัวมาพักใหญ่ รวมทั้งนางเอกสาวหน้าหวาน ‘พิม’ พิมประภา ตั้งประภาพร ซึ่งหมดสัญญากับทางช่อง 7 และพลิกมารับบทร้าย ครั้งแรก

วันนี้โอกาสดีได้พูดคุยกับทั้ง 2 บอส ถึงการทำงานละคร

กดดันไหมเวลาที่คนค่อนข้างคาดหวังกับละครของเรา?

พี่ฉอด – “ไม่ได้กดดันเพราะคนดู แต่กดดันกับตัวเองอยู่แล้ว เราจะคิดกันว่าทำยังไงให้แตกต่าง จะสื่อความในสิ่งที่อยากจะบอกยังไง เราตั้งใจกับละครทุกเรื่องจริงๆ”

แต่ละครั้งที่ฟีดแบ็กมาแรงๆ มีวิธีรับมือยังไงไม่ให้หวั่นไหว?

พี่ฉอด – “เราต้องรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ต้องเข้าใจก่อนว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เป็นประโยชน์ทั้งหมด ถ้าเราไม่ใช้อารมณ์หรือไปโมโห ซะก่อน แต่ต้องยอมรับว่าคนสมัยนี้พูดแรงพอสมควร แต่ถ้าเราสกรีนเป็นเราก็จะสกรีนได้ว่าอันไหนที่เข้ามาด้วยความปรารถนาดีจริงๆ หรืออันไหนที่เข้ามาสักแต่ว่าด่าเรา คนที่มาด้วยความตั้งใจดีจริงๆ เราก็นำมา ทบทวน ใครที่เข้ามาแล้วอาจว่าเราทำแต่ละครแรงๆ หรืออะไรเราก็โอเค ไม่เป็นไรค่ะ ดูให้จบก่อน แต่ถ้าจบแล้วยังด่าอยู่ก็เอาเลย (หัวเราะ)”

“เราไม่เคยตั้งต้นด้วยการตั้งใจจะทำละครแรงๆ อยู่แล้ว การที่จะเลือกเอาเรื่องอะไรมาทำเราต้องเข้าใจก่อนว่าแก่นของเรื่องคืออะไร สิ่งที่เราจะให้กับคนดูคืออะไร แต่ด้วยบท ด้วยหน้าละคร ต่างๆ นานา ทำให้เรื่องอาจดูแรง บวกกับบางทีการตัดไฮไลต์ หรืองานพีอาร์ เขาต้องเลือกที่น่าสนใจไปโปรโมต”

การเลือกละครลงแต่ละช่องเลือกยังไง?

พี่ฉอด – “โจทย์แต่ละช่องต่างกันค่ะ เราต้องคุยกับผู้บริหารช่องก่อนว่าเขาอยากได้อะไร เราก็มีหน้าที่หาสิ่งที่เขาต้องการ แต่ส่วนใหญ่ เรามักจะเจอแต่ที่บอกว่าก็อยากได้ละครแบบเช้นจ์นี่แหละ”

เอส – “อาจเป็นเพราะภายใต้แบรนดิ้งของเช้นจ์คนเริ่มจะเห็นว่าเราทำแบบไหน ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้อาจโดนตราหน้าว่าทำแต่ละครแซ่บแย่งชิงตบตี จริงๆ น้ำดีก็ ทำเป็นเพิ่งจบไป ช่วยใจเย็นๆ และรอดู เพราะจริงๆ มันมีเมสเสจบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในทุกเรื่อง เราไม่ได้สักแต่ว่ารุนแรง ขายเลิฟซีน แต่จริงๆ แล้วมันจำเป็นต้อง ให้เห็น เราไม่ได้สนับสนุนความรุนแรง แต่จะสื่อให้เห็นว่าความรุนแรงมันเป็นสิ่งที่ผิด ทุกเรื่องมันมีใจความสำคัญของมันอยู่”

มีหลายช่องที่ติดต่อมาร่วมงานแบบเรา ไม่ต้องไปยื่นเรื่องให้ก่อนไหม?

เอส – “ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นครับ เราไม่ได้เดินถือพอร์ตเข้าไปเสนอ อาจเป็นเพราะเขาเห็นงานเราแล้วอยากได้งานแบบนี้”

ปีนี้มีแพลนทำกี่เรื่อง?

เอส – “สิบกว่าเรื่องล่ะครับ จริงๆ โปรเจ็กต์ปีนี้วางไว้แตะๆ เลข 20 ของแบบนี้มันว่ากันปีต่อปี เรื่องต่อเรื่อง เราโชคดีที่ปีที่แล้วเพอร์ฟอร์มเราดี เลยทำให้คนมองเห็นเราก็อยากได้เราไปทำงานด้วย เพราะฉะนั้นปีหน้าอาจจะไม่มีงานก็ได้ถ้าปีนี้เราหล่น มันเป็นเรื่องปกติ”

ทำไมตัดสินใจนำ เมียหลวง มาทำใหม่?

พี่ฉอด – “พี่เป็นคนชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ และเก็บสะสมนิยายในดวงใจไว้เยอะมาก ‘เมียหลวง’ เป็นเรื่องนึงที่เราประทับใจตั้งแต่เด็ก เรามีโอกาสได้เห็นในเวอร์ชั่นต่างๆ แล้วพอเราเป็นคนทำละครอดไม่ได้ที่จะคิดว่าถ้าเป็นเราจะตีความยังไง บวกกับมีความลงตัวหลายๆ อย่าง พอดีคุยกับวีทีวี เขาก็เห็นด้วยและชอบ เรื่องนี้ พอได้คุยกับทีมงานดีไซน์อะไรหลายๆ อย่างก็บอกว่ามันมีทางที่จะเป็นไปได้ ที่เราจะทำให้มันเป็น พ.ศ.นี้ แล้วมันก็ตรงกับวิถีชีวิตพวกเราที่ก็เห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคม เลยตีความให้เป็นเวอร์ชั่นในยุคสมัย”

แล้วเวอร์ชั่นนี้แซ่บแค่ไหน?

พี่ฉอด – “การตีความของคำว่า แซ่บของวันนี้เหมือนมันเป็นเส้นบางๆ ระหว่างอะไรหลายๆ อย่าง เช่น ความแซ่บ ความรุนแรง หรือความเสียดสี แต่เรามองว่าการแย่งชิงเรื่องราวเมียหลวงเมียน้อยมันต้องมีการอัพเกรดสติเข้ามามากขึ้น คำว่าสติที่ว่ามันเป็นทั้งสติด้านบวกและด้านลบ หมายถึงว่าไม่ใช่มาสู้กันด้วยการตบตี เพราะตัวละครเรื่องนี้แต่ละคนเป็นด๊อกเตอร์มีความรู้ เลยต้องต่อสู้กันด้วยวิธี อีกแบบนึงถามว่าจะมีตบกันไหมมันก็ต้องมีตบกันแต่จะตบกันแบบคนมีการศึกษานิดนึง(หัวเราะ)”

เห็นว่ากำลังจะมีละครอีกเรื่องกับช่อง 3?

พี่ฉอด – “ถ้าเรื่อง ‘รากแก้ว’ จะเป็นคนละเวย์ ต้องแปลชื่อเรื่องก่อนคือ คนเราแต่ละคนที่เติบโตมาจะมีรากแก้วของตัวเองที่เป็นรากที่แข็งแรงที่สุด ถ้าคนเราเติบโตมาโดยมีรากแก้วไม่แข็งแรงเปรียบกับต้นไม้ก็จะโตมาบิดๆ เบี้ยวๆ อันนี้คือการตีความของเจ้าของบทประพันธ์ นักแสดงมี เก้า สุภัสสรา, พีช พชร, หลุยส์ สก็อต, คริส หอวัง ตามคิวก็น่าจะเปิดกล้องประมาณ ต้นๆ ปี แต่โควิดบ้างอะไรบ้างเราก็เลื่อนๆ กันมา”

เห็นว่ามีความเลสเบี้ยนหน่อยๆ?

พี่ฉอด – “เราจะพูดถึงเรื่องความรักที่ไม่เกี่ยวกับเพศ เราไม่ได้บอกว่าใครเป็นเพศไหน แต่เราจะพูดว่าเขารักกันหรือเปล่าและรักกันด้วยอะไร”

เป็นการร่วมงานกับช่อง 3 เรื่องแรกเลย?

พี่ฉอด – “ใช่ค่ะ เรื่องแรกเลย ช่วงนี้ก็จะหนักเรื่องของการทำบท เพราะใกล้เปิดกล้อง ทุกอย่างก็ดีค่ะ อาจจะโชคดีที่ไม่ว่าเราจะไปร่วมงานกับที่ไหนมักได้รับการต้อนรับที่ดี และเขาค่อนข้างจะเข้าใจว่าวิธีการทำงานของเราเป็นแบบไหน ยังไง”

เตรียมติดตามผลงานดีๆ ของ เช้นจ์ 2561 กันได้ ในช่องทางที่หลากหลายขึ้น

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน