ทับหลังหนองหงส์-เขาโล้น – ทับหลังปราสาทหนองหงส์และปราสาทเขาโล้นน้ำหนักรวมกว่า 1 ตัน เดินทางจากประเทศสหรัฐอเมริกากลับถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2564 หลังกระบวนการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุใช้เวลานานกว่า 3 ปี

ทับหลังขนส่งโดยสายการบินโคเรียนแอร์ของเกาหลีใต้เที่ยวบินที่ KE12 ออก จากนครลอสแองเจลิส เดินทางถึงกรุงโซล เกาหลีใต้ ในวันที่ 28 พ.ค. และเดินทางต่อมายังไทย ด้วยเที่ยวบิน KE651 ถึงกรุงเทพฯ วันเดียวกัน

ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2564 สถานกงสุลใหญ่ในนครลอสแองเจลิส ได้นำทับหลังปราสาทหนองหงส์และทับหลังปราสาทเขาโล้นขนส่งขึ้นเครื่องบินออกจากสนามบินนครลอสแองเจลิสกลับสู่ประเทศไทย

นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ไทยในนครลอสแองเจลิสไปดูแลกำกับการบรรจุหีบห่อและการขนส่งทับหลังทั้งสองรายการ จากสถานที่จัดเก็บของกลางของทางการสหรัฐในย่านใจกลางนครลอสแองเจลิสไปยังสนามบิน เพื่อให้มั่นใจว่าทับหลังจะเดินทางกลับสู่มาตุภูมิได้โดยปลอดภัยและสง่างาม

ทับหลังปราสาทหนองหงส์เป็นทับหลังจำหลักลายพระยมทรงกระบือ ในขณะที่ทับหลังปราสาทเขาโล้นเป็นทับหลังจำหลักลายพระอินทร์เหนือเกียรติมุข

ทับหลังทั้งสองทำจากหินทราย และเป็นศิลปะสมัยลพบุรี (ศิลปะเขมรโบราณในไทย) มีอายุตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 มีหลักฐานภาพถ่ายว่าทับหลังทั้งสองเคยประดิษฐานอยู่เหนือ กรอบประตูปราสาทของปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว

คาดว่าน่าจะถูกลักลอบนำออกจากประเทศไทยปี 2508 ในช่วงสงครามเวียดนาม และถูกจัดแสดงอยู่ที่เอเชียน อาร์ต มิวเซียม นครซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งคดีความได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐ

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิหรือเอชเอสไอ สหรัฐ ได้ผลักดันการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ได้แจ้งสถานกงสุลใหญ่ในนครลอสแองเจลิสเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีเป็นระยะๆ

สถานกงสุลใหญ่ได้รายงานกระทรวงการต่างประเทศและกรมสารนิเทศ ซึ่งประสานงานกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอข้อมูลการศึกษาทางวิชาการพร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงานการสำรวจของกรมศิลปากร ตัวอย่างเอกสารอนุญาตในการส่งออกโบราณวัตถุ เป็นต้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน จนสามารถพิสูจน์ได้ว่า โบราณวัตถุทั้ง 2 รายการนั้นมีถิ่นกำเนิดในไทยและได้ถูกลักลอบนำออกไปโดยผิดกฎหมาย

เมื่อเดือนก.พ.2564 สถานกงสุลรายงานว่าคดีเสร็จสิ้นแล้ว โดยรัฐบาลกลางสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงกับฝ่ายจำเลย และฝ่ายจำเลยยินยอมให้รัฐบาลกลางสหรัฐยึดทับหลังทั้ง 2 รายการ และทางพิพิธภัณฑ์ถอดรายการทับหลังทั้งสองออกจากบัญชีของพิพิธภัณฑ์เรียบร้อย

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2564 สำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิหรือเอชเอสไอ ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ในนครลอสแองเจลิส ได้จัดพิธีส่งมอบทับหลังปราสาทหนองหงส์และทับหลังปราสาทเขาโล้นคืนให้แก่รัฐบาลไทย

เมื่อทับหลังถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 28 พ.ค. และมีพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครในวันที่ 31 พ.ค. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม พร้อมด้วย นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมเปิดหีบบรรจุทับหลัง โดยมี ภัณฑารักษ์ และนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ตรวจสภาพทับหลัง พร้อมบันทึกข้อมูลในเบื้องต้น ก่อนมีพิธีบวงสรวงต้อนรับ ทับหลัง 2 รายการ โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เป็นประธานบวงสรวง และมีการแสดงระบำโบราณคดี ชุดลพบุรี ด้วย

หลังจากมีการบวงสรวงแล้ว กรมศิลปากรจะนำมาจัดแสดงให้ประชาชน ได้ชม ภายในพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โดยมีเนื้อหากล่าวถึงประวัติความเป็นมา ความเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ ของโบราณวัตถุ 2 รายการนี้ โดยกำหนดจัดแสดง 3 เดือน

ในระหว่างนี้ ได้วางแนวทางในการพิจารณาการอนุรักษ์ ต่อโบราณวัตถุ 2 รายการ ต่อจากนี้คือ เก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่อยู่ใกล้กับตัวปราสาทแห่งนั้นๆ โดยที่ปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ส่วนปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี

ระหว่างที่โบราณวัตถุ 2 รายการจัดแสดงจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดูแล รักษาโบราณวัตถุให้ดีที่สุดต่อไป

ขณะนี้ยังมีการรายงานการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุที่พบ ในนครนิวยอร์ก จากการลักลอบนำออกจากประเทศไทย และเป็นของกลางในคดีอาญาตามกฎหมายสหรัฐ เพิ่มเติมอีก 13 รายการ ส่วนใหญ่เป็นประติมากรรมสำริด พระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ รูปเคารพ

โดยทางสหรัฐได้พิจารณาสิ้นสุดคดีแล้ว มีความประสงค์ที่จะส่งคืนประเทศไทย ในลำดับถัดไปด้วย

สุจิตรา ธนะเศวตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน