อินโดฯขาดออกซิเจนสั่งอย่าตุน – วันที่ 5 ก.ค. บีบีซีรายงานวิกฤตสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ประเทศอินโดนีเซีย จากไวรัสมรณะสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ลามระบาด จนมีผู้ป่วยใหม่เกิน 20,000 คนติดต่อกันเป็น วันที่สิบเอ็ด และเกิน 25,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่สาม กับตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เมื่อ 4 ก.ค. อีก 27,233 คน ส่งผลให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 2.28 ล้านคน ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 60,582 ราย ขณะที่หลายฝ่ายเกรงว่าจะมีความสูญเสียเพิ่มขึ้น เพราะกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนออกซิเจน
รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งการให้โรงงานจัดลำดับความสำคัญและผลิตออกซิเจนสำหรับใช้ทางการแพทย์ก่อน เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นในระยะเวลารวดเร็วทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งไม่มีออกซิเจนเพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยอาการหนัก
ด้านนางสิตี ทาร์มิซี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าวว่าทางการได้ร้องขอให้โรงงานก๊าซเพิ่มการผลิตออกซิเจนสำหรับใช้ทางการแพทย์ และเรียกร้องขอให้ประชาชนไม่กักตุนออกซิเจน เพราะจะทำให้สถานการณ์ขาดแคลนออกซิเจนยิ่งเลวร้าย ภายหลังมีรายงานว่ากลุ่มคนบางส่วนพยายามซื้อถังออกซิเจนไว้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อในครอบครัว ส่งผลให้ถังบรรจุก๊าซรวมถึงการเติมก๊าซออกซิเจนทำได้ยากลำบาก ซ้ำร้ายยังทำให้ราคาแพงขึ้นกว่า 2 เท่าด้วย
ขณะที่สื่อท้องถิ่นระบุว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจนแล้ว 63 ราย ขณะเดียวกันโรงพยาบาล 2 แห่งในเมืองบันดุงแถลงว่าไม่มีออกซิเจนเหลือแล้ว และปฏิเสธรับผู้ป่วยใหม่ที่ต้องการเข้ารับการรักษาเป็นกรณีฉุกเฉิน ก่อนหน้านี้ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแผนกดูแล ผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลของรัฐหลายแห่งในเมืองซูราการ์ตา และปาเมกาสัน เปิดเผยว่าประสบปัญหาจากผู้ป่วยจำนวนมากที่หลั่งไหลมายังโรงพยาบาล ซึ่งหลายคนถูกปฏิเสธการรักษาเพราะโรงพยาบาลไม่มีเตียงเหลือ แต่บางส่วนเลือกกางเต็นท์นอนรอหน้าโรงพยาบาล
