ซัมซุง กาแล็กซี ซีโฟลด์ 3 สมาร์ตโฟนพับขั้นเทพ – กาแล็กซี ซี โฟลด์ จากซัมซุง มาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว พร้อมกับความพรีเมียมสุดขีด
นวัตกรรมซับซ้อนที่ทางซัมซุงพัฒนา ต่อยอดรวมเข้ามาไว้ใน Samsung Galaxy Z Fold 3 จนความรู้สึกขณะทดลองใช้ต่างจากรุ่นแรกอย่างเทียบกันไม่ติดฝุ่น เพราะปรับปรุงโครง สร้างของเครื่องมาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ขณะพับเก็บ กาแล็กซี ซี โฟลด์ 3 มีขนาดกว้าง 67.1 ยาว 158.2 และหนา 14.4 ถึง 16 มิลลิเมตร เมื่อกางออกเป็นแท็บเล็ต จะมีขนาดกว้าง 128.1×158.2 x6.4 ม.ม. น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ 271 กรัม นับว่าเล็กและเบาลงกว่ารุ่นก่อนหน้า
วัสดุของเครื่องนั้นทำจากอะลูมิเนียมชนิดใหม่ เรียกว่า “Armour Aluminum” พร้อมกระจกเสริมแกร่ง Gorilla Glass Victus ทั้งหน้าและหลัง ขณะที่เมื่อกางออกจะพบกับฟิล์มพลาสติกแบบใหม่ที่ทางซัมซุงระบุว่าทำให้จอมีความคงทนมากขึ้นร้อยละ 80
ช่องเชื่อมต่อข้อมูลแบบ USB-C และลำโพงสเตอริโอที่ทั้งขอบบนและล่าง ถาดใส่ซิมการ์ดแบบนาโนได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม (ถาดแบบสองด้าน) ปุ่มควบคุมทั้งปรับระดับเสียงและปิดเปิดตอบสนองว่องไวและให้สัมผัสที่นุ่มต่อนิ้วมือ เช่นเดียวกันกับ เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือแบบฝังในปุ่มปิดเปิด เป็นเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือที่ทำงานได้ไวกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นที่ซัมซุงเคยเปิดตัวมา
ส่วนแกนหมุนที่ทำหน้าที่กางและหุบสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ทำให้การกางออกเป็นแท็บเล็ตนั้นมีความแข็งแรงมากกว่ารุ่นก่อนหน้า เรียกว่า แข็งเหมือนเป็นแท็บเล็ตจริงๆ แล้ว
Advertisement
ที่น่าประทับใจไปมากกว่านั้น คือ การประกอบที่แน่นหนาอย่างยิ่งทำให้ กาแล็กซี ซี โฟลด์ 3 เป็นสมาร์ตโฟนพับได้เครื่องแรกและเครื่องเดียวในโลกที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IPX8 หมายความว่า สมาร์ตโฟนพับได้รุ่นนี้กันน้ำเข้าได้ (แต่ไม่กันฝุ่น) ซึ่งทางซัมซุงระบุว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายทางวิศวกรรมขั้นสุดยอดในการออกแบบของทางค่ายด้วย
ขณะพับ ซี โฟลด์ 3 จะแสดงผลผ่านหน้าจอด้านหน้าเรียกว่า Cover Screen ใช้เทคโนโลยี Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.2 นิ้ว ด้วยอัตราส่วนภาพแคบๆ แบบ 25:9 ความละเอียดสูงสุด 832 x2,268 พิกเซล ซึ่งทางซัมซุงอัพเกรดมาให้ตามคำเรียกร้องให้สนับสนุนความถี่สูงสุด 120 เฮิร์ตซ์ (Hz) ส่งผลให้ภาพบนจอด้านหน้าแลดูนุ่มลื่นน่าใช้งาน
เช่นเดียวกันกับจอ Dynamic AMOLED 2X ด้านในเครื่องเมื่อกางออกเป็นแท็บเล็ต เรียกว่า Infinity Flex Screen ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียดสูงสุด 1,768×2,208 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 374 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) มีพื้นจอต่อตัวเครื่องร้อยละ 88.8 รองรับทั้ง HDR10+ และความถี่ 120Hz พร้อมความสว่างสูงสุด 1,200 นิต ถือว่าสว่างขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
สำคัญที่สุด คือ หน้าจอด้านในนั้นใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการฝังกล้องไว้หลังจอภาพ หมดปัญหาหลุมกล้องบนจอที่บางคนอาจไม่ชอบใจ อย่างไรก็ดี หากสังเกตดีๆ จะพบว่ายังซ่อนพรางกล้องได้ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากไม่เพ่งก็จะไม่เห็น เข้าใจว่ายังเป็นเทคโนโลยีใหม่มาก และต้องชื่นชมซัมซุงที่กล้าหาญจะลองนวัตกรรมใหม่ๆ ในสินค้าเชิงพาณิชย์
ด้านสเป๊กของสมาร์ตโฟนพับได้รุ่นนี้นั้นหายห่วงเพราะใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผลรุ่น Snapdragon 888 5G จากค่าย Qualcomm สหรัฐอเมริกา นับเป็น SoC เรือธงที่เนรมิตมาด้วยสถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 5 นาโนเมตร
การทดสอบเบนช์มาร์กผ่านแอพพลิเคชั่น Geekbench 5 ได้คะแนนประมวลผลแบบคอร์เดียว 1,129 และหลายคอร์ 3,552 แต้ม ส่วนแอพฯทดสอบกราฟิกอย่าง 3DMark ชุดทดสอบ Wild Life ได้คะแนน 5,743 แต้ม โดยมีค่าเฉลี่ยอัตราเฟรมเรตอยู่ที่ 34.40 เฟรมต่อวินาที (fps)
ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนสเป๊กแถวหน้าสุดตัวหนึ่งของฝั่งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จากกูเกิ้ล รองรับการใช้งานได้ทุกประเภทและเล่นเกม AAA บน มือถือได้สบายๆ รวมถึงเกมดังอย่าง Genshin Impact ด้วย
อย่างไรก็ดี การใช้งานแนวนอน (Landscape) นั้นอุ้งมืออาจไปบังลำโพงทั้งสองข้างได้ ซึ่งน่าเสียดาย เพราะลำโพงของสมาร์ตโฟน รุ่นนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะความดัง และคุณภาพของเสียงล้วนสมศักดิ์ศรีเรือธงระดับพรีเมียมทั้งสิ้น
อีกจุดที่น่าชมเชยเป็นซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในโหมดแท็บเล็ตซึ่งหลายแอพฯ ปรับโฉมใหม่ให้เหมาะจอที่กว้างขึ้น อาทิ Youtube ที่แสดงเนื้อหาได้มากขึ้น ระบบเปิดสองแอพฯบนจอเดียว (Dual Apps) และเป็นข่าวดีสำหรับสาวก Stylus เพราะมารอบนี้สนับสนุนปากกา S Pen แล้ว
ทว่า S Pen ที่จะใช้ได้นั้นต้องเป็นชนิดพิเศษ เนื่องมาจากความบอบบางของหน้าจอด้านในของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ คือ S-Pen Fold Edition และ S-Pen Pro ที่ผู้ใช้ต้องซื้อแยกต่างหาก และไม่มีที่เก็บปากกา นอกไปเสีย จากต้องซื้อเคส Official พร้อมที่เก็บปากกามาใส่เอง
ความพิเศษของปากกาสำหรับ กาแล็กซี ซี โฟลด์ 3 คือ หัวปากกาที่มีสปริงเพื่อลดแรงกดลงบนจอภาพ ดังนั้นหากผู้ใช้นำปากกา S-Pen จากรุ่นอื่นมาใช้ก็จะใช้งานไม่ได้และจอก็จะขึ้นข้อความเตือน
ด้านแบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ทดสอบเนื่องจากมีขนาดเพียง 4,400 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) และรองรับ Fast Charge สูงสุดเพียง 25 วัตต์ (W) รองรับชาร์จไร้สายสูงสุด 11 W และชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นได้สูงสุด 4.5 W นับว่ามีขนาดแบตฯเล็กลงกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย
การทดสอบชาร์จด้วยกำลัง 15 W พบว่าชาร์จจากศูนย์ไปร้อยละ 50 ได้ ในเวลา 30 นาที และเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาไป ทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 15 นาที
กล้องถ่ายภาพของกาแล็กซี ซี โฟลด์ 3 เริ่มจากโมดูลด้านหลังประกอบด้วยกล้อง 3 ตัว ได้แก่ เลนส์กว้างขนาด 26 ม.ม. ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.76 นิ้ว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (MP) ขนาดช่องรับแสง f/1.8 แบบ Dual Pixel PDAF พร้อม OIS ทำให้จับโฟกัสภาพได้ไวและต่อต้านภาพสั่นสะเทือน ต่อมาเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ หรือซูม ขนาด 52 ม.ม. เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.6 นิ้ว ความละเอียด 12MP ขนาดช่องรับแสง f/2.4 แบบ Dual Pixel PDAF พร้อม OIS ระยะ Optical zoom 2 เท่าตัว
ปิดท้ายด้วยเลนส์อัลตราวาย 123 องศา ความละเอียด 12MP ขนาดช่องรับแสง f/2.2 ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้สูงสุดที่ 4K อัตราเฟรม 60 fps
คุณภาพที่ได้ออกมานั้นอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ไม่ถึงระดับของกล้องในกาแล็กซี เอส21 อัลตรา ซึ่งมีเทคโนโลยีแพรวพราวกว่ามากทั้งความละเอียดเซ็นเซอร์ เลเซอร์สำหรับโฟกัส และระบบซูมที่เหนือชั้น ทำให้จุดนี้เป็นส่วนที่น่าเสียดายที่สุดของกาแล็กซี ซี โฟลด์ 3
นอกจากนี้กล้องที่ซ่อนอยู่หลังจอภาพขณะกางเครื่องออก แม้มีความละเอียดเซ็นเซอร์ถึง 16MP แต่ภาพที่ออกมานั้นมีความหมอง ไม่ชัดเจนเหมือนกล้องอื่น ส่วนกล้องเซลฟี่ความละเอียด 10MP ที่ Cover Screen นั้นก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพราะผู้ใช้สมาร์ตโฟนเครื่องนี้เซลฟี่ได้ด้วยกล้องหลังที่คุณภาพสูงกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม บทสรุปของข่าวสดไอที สำหรับกาแล็กซี ซี โฟลด์ 3 แม้มีกล้องถ่ายภาพสู้กาแล็กซี เอส21 อัลตราไม่ได้ ทั้งยังมีขนาดแบตฯ ที่น่ากังวลใจสำหรับสายใช้งานหนัก แต่ทั้งหมดนี้ชดเชยด้วยเทคโนโลยีนำสมัยอย่างกล้องซ่อนใต้จอ สเป๊กระดับแนวหน้าของวงการ จอภาพที่สวยสดและนวัตกรรมพับภายใต้โครงสร้างที่แข็งแรง
ทำให้กาแล็กซี ซี โฟลด์ 3 เป็นสมาร์ตโฟนพับได้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการชั่วโมงนี้ โดยสนนราคาเริ่มต้นที่ 57,900 บาท (256GB) และ 61,900 บาท (512GB)
จันท์เกษม รุณภัย
