คนผ่อนบ้านอ่วม!ธอส.ส่งซิกเพิ่มค่างวดธอส.จับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณดอกเบี้ย ขาขึ้น ดันเงินงวดจ่อทะยานในรอบสิบปี ผู้มีรายได้น้อยจ่าย เพิ่มล้านละ 500 บาท โชว์ผลประกอบการปี 2564 กำไร 1.2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่โต 5 %

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน ปี 2564 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 246,875 ล้านบาท 181,843 บัญชี เพิ่มขึ้น 9.65% สูงกว่าเป้าหมาย 31,234 ล้านบาท และถือเป็นจำนวนสินเชื่อปล่อยใหม่ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 68 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคาร ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,458,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.40% มีกำไรสุทธิ 12,351 ล้านบาท และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จำนวน 58,381 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของยอดสินเชื่อรวม

สำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากโควิด-19 นับตั้งแต่ต้นปี 2563 ต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2564 มีจำนวนถึง 973,227 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 847,218 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีบัญชีที่เข้าโครงการและสามารถกลับมาชำระได้ปกติ 11,000 บัญชี คิดเป็นวงเงิน 11,000 ล้านบาท เฉลี่ยบัญชีละ 1 ล้านบาท และกลุ่มที่ขอพักหนี้ต่อแต่ไม่ชำระตามเงื่อนไข 9,000 ล้านบาท รวมเป็นทั้งหมด 20,000 ล้านบาท คาดว่ากลุ่มนี้จะเป็นหนี้เสียเห็นชัดตั้งแต่เดือนมี.ค. เป็นต้นไป
“ธอส.ไม่กังวล เพราะมีการสำรองไว้แล้ว 190% หรือคิดเป็น 111,827 ล้านบาท จากนี้ไปจะมีมาตรการเชิงรุกเข้าไปดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ โดยการปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับลูกค้าที่ตามตัวเจอ ส่วนลูกค้าที่ตามตัวไม่เจอก็กังวล เพราะเข้าโครงการพักชำระหนี้มาแล้วไม่จ่ายหนี้มา 14-18 เดือนแล้ว อาจต้องดำเนินการตามกฎหมาย” นายฉัตรชัยกล่าว

นายฉัตรชัยกล่าวว่า แนวโน้มดอกเบี้ยบ้านในตลาดอยู่ในทิศทางขาขึ้น ต้องติดตามการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในกรณีที่มีการขึ้นถี่ติดต่อกันจะกดดันคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะส่งผลต่อ ธอส. ให้ขึ้นดอกเบี้ยตามไปด้วย เป็นการปรับเงินค่างวดบ้านในรอบนับสิบๆ ปี ทำให้กังวลว่าการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้จะกระทบกับลูกค้าเพราะจะมีภาระเงินงวดมากขึ้น โดยเฉลี่ยทุกเงินกู้ 1 ล้านบาท จะเพิ่มเงินงวดประมาณ 500 บาท

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการบรรเทาภาระให้กับผู้มีรายได้น้อยที่อาจ ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น ธอส. เตรียมวงเงินสินเชื่อ 8 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ 3 โครงการ ในปี 2565 ประกอบด้วย 1. โครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 1.99% 2. สินเชื่อของธนาคารเพื่อผู้มีรายได้น้อย 4 หมื่นล้านบาท และ 3. นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ มาจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อโดยตรงในลักษณะเดียวกับ Peer-to-Peer Lending (P2P) วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 ธอส. ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ เพิ่มขึ้น 5% บริหารจัดการเอ็นพีแอลให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 4.67% ของสินเชื่อรวม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน