โคจรเจอกันอีกครั้ง ในละคร “ยมทูตกับภูตสาว” ทางช่อง 3 สำหรับนางเอกสาว ‘อาย’ กมลเนตร เรืองศรี กับพระเอกหนุ่ม ‘ออกัส’ วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ หลังเคยร่วมงานกันในซีรีส์ “Notification เตือนนัก…รักซะเลย” และรายการ “Thailand, I Miss You!”
วันนี้ทั้งคู่ควงกันมาเปิดใจถึงบทบาทตัวละครที่ได้รับ รวมถึงการได้ร่วมงานกันอีกครั้ง และอุปสรรคการถ่ายทำที่ใช้ระยะเวลานานถึง 2 ปี

ตอนนี้ละครออนแล้ว เป็นยังไงบ้าง?
อาย – “ตื่นเต้น พอได้ดูละครตัวเองอีกครั้งนึง ฟีดแบ็กโอเคค่ะ เพราะคนก็รู้สึกว่าเรื่องมันใหม่ดี โดยอายรับบท ‘ตัวเล็ก’ นักเขียนบทละครจอมวางแผน ที่ชอบเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่จนทำให้ต้องตายกลายเป็นวิญญาณสุดป่วน”
ออกัส – “ส่วนผมรับบท ‘ยมทูต’ มีหน้าที่และภารกิจรับส่งวิญญาณด้วยความเย็นชา จนมีตัวเล็กเข้ามาในชีวิต ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ก็ชื่นชมไปทางบวก บอกว่าโปรดักชั่นสถานที่ที่เราไปถ่ายสวยดี”

เคมีของพระนางได้รับคำชมค่อนข้าง ดีเลย?
ออกัส – “จริงๆ ช่วงแรกๆ ของกัสยังออกมาไม่ค่อยเยอะ เหมือนปูเนื้อเรื่องก่อน ก็เพิ่งมาเจอนางเอก คือให้เขาได้ทำภารกิจแรกเองก่อน ยังไม่ได้พูดเยอะ แล้วยังไม่ได้มีความรู้สึก”
อาย – “ยังไม่ค่อยมีโมเมนต์ด้วยกันเท่าไหร่ คือเห็นฟีดแบ็กว่าคนรอว่าเมื่อไหร่จะมีโมเมนต์ได้อยู่ด้วยกัน เพราะเราต้องทำภารกิจร่วมกัน”

มาร่วมงานกันอีกครั้ง ต้องปรับจูนอะไรเพิ่มไหม?
อาย – “รู้จักกันส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ต้อง ปรับจูนอะไร แต่ทั้งคู่จะต้องปรับจูนเรื่อง คาแร็กเตอร์ของเรื่องนี้มากกว่า อายไม่เคย รับบทอย่างที่ตัวเล็กเป็น ส่วนกัสก็ไม่เคยรับ คาแร็กเตอร์ท่านทูตเหมือนกัน”

อุปสรรคการถ่ายทำ?
อาย – “คือเรามีการพักกอง มาตรการที่ออกกองไม่ได้คือ 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งหนึ่งคือ 5 เดือนแล้วมันก็หายไปเลย เราเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะออกกองได้ เราก็ต้องกลับมาหรือทำการบ้านว่าเราเล่นอะไรไปจังหวะมันเท่าไหน หรือเพื่อให้ คอนทินิวกับตัวเอง แบบนี้สองรอบที่ต้อง หยุดไป มันก็เลยค่อนข้างใช้เวลากับเรื่องนี้ สรุปใช้เวลาถ่ายทำนานเกือบ 2 ปี รวมช่วงหยุด โควิดไปด้วย ไหนต้องรอตัดต่อใส่ซีจี”

ด้วยความที่ถ่ายทำ 2 ปี ต้องปรับบทให้เข้ายุคเข้าสมัยไหม?
ออกัส – “ก็มีเปลี่ยนบ้างเนาะ”
อาย – “ใช่ ที่เป็นมุข สมัยก่อนเรามีมุขเจนนุ่นโบว์ตอนนั้นติ๊กต็อกดัง ที่เขาหยุดกันแล้วเขาก็เล่นกัน เราก็จะเล่น มากับกัสแล้วก็มากับ..อะไรแบบนี้ ซึ่งถ้าเกิดเอามาออนแอร์ตอนนี้ ก็คงเอาต์ไปแล้ว พอระยะมันกินไปเรื่อยๆ เราต้องตัดบทมุขอะไรยังไงออกไป”
ออกัส – “แล้วจริงๆ เราต้องไปถ่ายทำกันที่ญี่ปุ่น แต่ไปไม่ได้เพราะโควิด ก็เลยต้องเปลี่ยนแปลงหมด”
อาย – “จริงๆ ในเรื่องกัสต้องเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น แม่ชื่อ มิโดริ แล้วเราต้องบินวันที่ 8 เมษาปีที่มีโควิด ที่จำวันได้เพราะเป็นวันเกิดเราพอดี สรุปเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะโควิด กัสจากที่แม่ชื่อมิโดริ กลายเป็นแม่ชื่อ วันเพ็ญ ต้องเปลี่ยนบทต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ โลเกชั่นญี่ปุ่นไม่ได้ก็ไปภูเก็ตแทน จากที่แต่งงานกันได้ชุดญี่ปุ่น ก็กลายเป็นชุดบาบ๋า ย่าหยา”
ออกัส – “จากตอนแรกเป็นนักกีฬาฟันดาบก็กลายเป็นเต้นบาบ๋า ย่าหยา เป็นคัลเจอร์ของคนไทยเป็นภูเก็ต”

อย่างนี้เส้นเรื่องจากเดิมจะเปลี่ยนไหม หรืออรรถรสที่ผู้ชมจะได้รับเปลี่ยนไปหรือเปล่า?
อาย – “เส้นเรื่องไม่เปลี่ยนแน่ๆ มันคือโครงมาเหมือนเดิม แต่ดีเทลโลเกชั่นต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ แค่บรรยากาศที่คนดูจะได้ดูไปกับเราจะเป็นบรรยากาศของประเทศไทยแทนญี่ปุ่น ความสวยงามของทะเลใต้ทะเลที่ไทยมากกว่า”
ออกัส – “แล้วต้องใส่สูททั้งเรื่อง เพราะคิดว่าจะไปญี่ปุ่น เพราะมันหนาวมันก็น่าจะพอดีที่นั่น”
อาย – “แต่สุดท้ายมาถ่ายที่พัทยา กรุงเทพฯ แล้วเสื้อเป็นขนๆ เป็นสูท”
ออกัส – “อย่างร้อน เสื้อคอเต่ามีสูทคุมอีก อากาศคือไม่สามารถเข้า-ออกได้ ร้อนมาก”

ออนไปไม่เท่าไหร่ ทางอายก็เสิร์ฟความฟินโดยการจุ๊บปากแล้ว?
อาย – “จริงๆ ตัวเล็กอ่ะไม่ได้อยากจะฟินหรอก คือเป็นการเอาตัวรอดมากกว่า ที่จุ๊บเขาคือขี้เกียจพูดด้วยแล้วรำคาญ จูบซะเลย ดูเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่ไม่ได้เขินอาย สามารถกระเซ้าเย้าแหย่ พอเริ่มสนิทกันแล้ว เริ่มรู้ว่าจี้จุดอ่อนของเขายังไง ด้วยสไตล์ของตัวเล็ก”

จะมีฉากเลิฟซีนแบบดุเดือดไหม?
ออกัส – “แค่อีพี 3 ก็มาแล้ว อีพีต่อไปมันก็มีมากกว่าเดิม (ยิ้มเขิน) อยากให้ติดตามดูว่าเป็นยังไง”
อาย – “คือมันไม่ได้ดุเดือดขนาดนั้น จะเป็นฟีลกุ๊กกิ๊กน่ารักให้ได้ติดตามกัน”

พระเอกของเราจะมีถอดไหมในเรื่อง ชีวิตจริงถอดดุมาก?
ออกัส – “ปกติก็จะถอดเสื้อครับ แต่เรื่องนี้พิเศษหน่อย ถอดกางเกงด้วย ถอดเสื้อซ้ำแล้วไง ก็เลยถอดหมดเลยแล้วกัน คือตอนถ่ายก็ถอด แต่จริงๆ มีเซฟแหละ ไม่ได้ถอดจริงหรอก ตอนแรกผู้กำกับฯ แกล้งให้ถอดจริง ผมก็บอกจะดีเหรอ เขาก็บอกว่าเห็นแค่ข้างหลัง คือตอนแรกก็คิดว่าเขาจะให้ทำจริง แต่ก็มีเซฟให้ครับ แต่ก็ยังเขินอยู่ดี เพราะมันก็รัด คือมันเป็นตอนที่เราอาบน้ำอยู่แล้วนางเอกต้องการความช่วยเหลือ เขาก็เข้ามาห้องน้ำเราเลย”

คนดูจะได้เห็นอะไรในเรื่องนี้บ้าง?
ออกัส – “จริงๆ มันเหมือนละครโรแมนติกคอมเมดี้เฉยๆ แต่เหมือนผู้กำกับฯ จะหลอกคนดูอีกทีนึง คือเนื้อเรื่องมันค่อนข้างมีความซับซ้อนน่าติดตาม มีความจริงจังดราม่าอยู่เยอะ แต่ก็จะไปเกิดขึ้นช่วงกลางๆ เรื่อง จะเข้มข้นมากๆ”
อาย – “ทุกคนอาจคิดว่าเป็นรอมคอมใสๆ น่ารักๆ แต่สำหรับอายที่รับเรื่องนี้ เพราะอ่าน คาแร็กเตอร์ของตัวเล็ก อ่านจบแล้วร้องไห้เลย รู้สึกหนูอยากเป็นตัวเล็ก อยากส่งเมสเสจนี้ให้คนดูได้รู้ คือเปิดเรื่องมาก็จะรู้ว่าเขาตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย แค่วูบเดียวแต่มันดันสำเร็จ มันเหมือนโรแมนติกคอมเมดี้น่ารักแต่จริงๆ แฝงไปด้วยความคิดที่ว่าการตัดสินใจอะไรชั่ววูบ แล้วเขาอยากได้โอกาสที่จะกลับมามีชีวิต มันทำให้หนูรู้สึกว่าเราเห็นคุณค่าเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ หนู โคตรอิน อินมาก คือความจริงมันเป็นความเป็นความตายจริงๆ”

ฝากละครหน่อย?
อาย – “คือถ้าดูเอาสนุกไปเรื่อยๆ โอเค ได้สิ่งนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าดูตั้งแต่วันนี้ไปจน ถึงวันสุดท้าย ดูการเติบโต ลุ้นเรื่องราวไปกับตัวละคร คิดว่าคนดูจะได้เมสเสจอะไรบางอย่างที่ตัวเล็กอยากบอก รวมถึงตัวละครอื่นๆ ว่ามันมีแง่คิด มีความเป็นมนุษย์อะไรบางอย่างที่ไปสะกิดเล็กๆ ในใจ”
ออกัส – “ละครเรื่องนี้มีความเป็นซีรีส์ญี่ปุ่นเกาหลีเข้ามาด้วย น่าจะเหมาะกับคนสมัยใหม่ บทเรื่องนี้สนุกมาก เราอ่านบทแล้วเหมือนใช้ความรู้สึกตัวเอง อ่านแล้วอินมาก กัสรู้สึกว่ากัสทำออกมาให้มันสมบูรณ์แบบมากที่สุด แล้วก็อยากให้ทุกคนได้ดู คิดว่า น่าจะเข้าถึงตัวละครและชื่นชอบตัวละคร ของเรา”
“ยังไงก็ฝากด้วยครับ ยมทูตกับภูตสาว ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. ทางช่อง 3 กด 33 ครับ”

อชริญา บุญชู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน