เมื่อวันที่ 16 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสงครามในประเทศยูเครนว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา เตรียมมอบความช่วยเหลือเพิ่มให้ทางการยูเครนอีกครั้ง ขณะที่ผู้นำชาติยุโรปตะวันออก 3 ประเทศ ได้แก่ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และสโลวีเนีย เดินทางเยือนกรุงเคียฟ โดยโปแลนด์เรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เข้าช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน พร้อมส่งกำลังทหารเข้ามาอารักขาผู้ปฏิบัติภารกิจ ท่ามกลางการโจมตีของกองทัพรัสเซียที่ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยทะลุ 3 ล้านคนแล้ว ส่วนคณะอนุญาโตตุลาการแห่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือไอซีเจ เตรียมแถลงผลการวินิจฉัยคำร้องของยูเครนที่ขอให้ศาลกำหนดมาตรการชั่วคราวเพื่อหยุดยั้งสงคราม ตรงกับเวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย

หนีตาย – ชาวยูเครนหนีออกจากที่พักในอพาร์ตเมนต์หลังถูกกระสุนปืนใหญ่ของ กองทัพรัสเซียยิงถล่มที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ล่าสุดมีผู้ลี้ภัยสงครามทะลุ 3 ล้านคนแล้ว และการสู้รบยังไม่มีทีท่าจะสงบลงระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เมื่อ 16 มี.ค. (รอยเตอร์)

ความเคลื่อนไหวของสหรัฐเกิดขึ้นหลังผู้นำชาติตะวันตกเผชิญกับแรงกดดันจากประชาคมโลกให้ยกระดับความพยายามหยุดยั้งการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขณะที่การเจรจาสงบศึกระหว่างยูเครนกับรัสเซียนั้นยังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ฝ่ายยูเครนเปิดเผยว่ารัสเซียมีท่าทีผ่อนปรนหากยูเครนจะยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัสเซีย ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียนั้นเปิดเผยว่ายื่นเรื่องเพื่อเริ่มกระบวนการถอนตัวออกจากสภายุโรป (CoE) หนึ่งในกลไกสิทธิมนุษยชนของยุโรปแล้ว หลังเกิดเสียงเรียกร้องจากนักสิทธิมนุษยชนให้ปลดรัสเซียออกจากสมาชิกภาพ CoE

สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสหรัฐนั้นเป็นยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะอาวุธต่อต้าน ยานเกราะและอากาศยาน มูลค่ารวม 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ความช่วยเหลือจากสหรัฐที่ส่งไปให้ยูเครนนั้นรวมถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.3 หมื่นล้านบาทแล้ว นับเป็นอาวุธที่มีส่วนอย่างมากในการชะลอการรุกคืบของกองทัพรัสเซีย

การประกาศความช่วยเหลือเพิ่มเติมของสหรัฐยังเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนจะกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสผ่านทางออนไลน์

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีเซเลนสกีเริ่มมีน้ำเสียงอ่อนลงถึงความพยายามนำยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต หนึ่งในเงื่อนไขที่ทางการรัสเซียใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตี โดยระบุว่า “ยูเครนไม่ใช่สมาชิกนาโต เราเคยถูกบอกมาตลอดว่าประตูเปิดให้เราเสมอ แต่ก็มีคนบอกเราอีกว่าเราเดินผ่านประตูนั้นไปไม่ได้ มันเป็นความจริงที่เราต้องยอมรับ”

สถานการณ์การสู้รบในยูเครน ล่าสุดกองทัพรัสเซียยังอยู่ระหว่างพยายามปิดล้อมกรุงเคียฟแต่เผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายกองทัพยูเครนทำให้รุกคืบได้ช้ามากจึงต้องหันไปใช้การยิงปืนใหญ่ถล่มแทน โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุถึงความสูญเสียของพลเรือนว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 691 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กด้วย 48 ราย บาดเจ็บ 1,143 คน เป็นเด็ก 62 คน นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนสังเวยชีวิตในหน้าที่ไปแล้วถึง 5 ราย ได้แก่ ตากล้องชาวไอริชและโปรดิวเซอร์ยูเครนของสำนักข่าว ฟ็อกซ์นิวส์จากสหรัฐที่ใกล้กรุงเคียฟ นักข่าวยูเครน 2 ราย และนักข่าวเชิงสารคดีชาวอเมริกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน